ตอนที่ 5 ลงโทษ




พอออกมาจากห้องรับรองผมก็ตรงมายังห้องหนังสือในทันที หลังจากเกิดเรื่องขึ้นมาเรียจังก็ได้เรียกเมดทุกคนให้มารวมตัวกัน และในตอนนี้เมดส่วนตัวของผมทั้ง 12 คนต่างมีสีหน้าเศร้าสร้อย พวกเธอทั้งหมดกำลังนั่งคุกเข่าเพื่อรอรับการลงโทษอยู่

มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ

ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ถึงแม้ผมจะไม่ได้โกรธพวกเธอมากนักแต่ผมก็จำเป็นต้องทำตัวให้สมกับเป็นนายท่านของพวกเธอ

เอ่อ.....มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ

โรน่าจังถามออกมาด้วยท่าทางสงสัย เนื่องจากมาเรียจังเข้ามากระซิบแค่กับผมเท่านั้น โรน่าจังและคนอื่นๆจึงยังไม่รู้เรื่อง

หนังสือเล่มสำคัญหายไป.....ไม่สิ.....น่าจะมีใครซักคนมาขโมยมันไปซะมากกว่า

หนังสือเล่มสำคัญที่ว่านั่นก็คือหนังสือที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษที่ยูกะไปเจอเข้าตอนบุกยึดปราสาทเอเกีย แต่เนื่องจากตัวอักษรส่วนใหญ่ได้จางหายไปจนไม่สามารถอ่านได้แล้วผมจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากและเก็บมันเอาไว้ภายในห้องหนังสือเฉยๆ

แต่ในเมื่อมันถูกใครบางคนมาขโมยไปก็แสดงว่ามันจะต้องเป็นของสำคัญที่บอกถึงเรื่องราวหรือข้อมูลบางอย่าง ผมเองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ปล่อยให้มีคนรู้เรื่องของหนังสือเล่มนี้มากเกินไป ดังนั้นหากจะต้องลงโทษพวกมาเรียจังล่ะก็ ผมเองก็ควรจะต้องรับการลงโทษด้วย

เมื่อวานนี้...ฮึก......ตอนที่ชั้นเข้ามาทำความสะอาด.....มันยังอยู่บนชั้นอยู่เลยนะคะ...ฮึก.......

เมดสาวคนหนึ่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ แววตาของเธอในตอนนี้ราวกับกำลังจะร้องไห้ออกมาได้ตลอดเวลา การที่รู้สึกเสียใจในความผิดของตัวเองนั้นเป็นเรื่องดี แต่ผมก็รู้สึกว่าพวกเธอจะตึงเครียดกันมากเกินไปหน่อยล่ะนะ

ถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะต้องมีการลงโทษ แต่สำหรับผมแล้วพวกเธอทุกคนก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัว ผมน่ะไม่มีทางทีจะทอดทิ้งคนในครอบครัวไปอย่างแน่นอน พวกเธอไม่เชื่อใจผมอย่างนั้นเหรอ

พวกเธอทั้ง 12 คนนั้นเป็นเด็กสาวที่ผมซื้อมาจากร้านค้าทาส แต่ถึงแม้จะเป็นทาสผมก็ได้มอบทั้งความรักและความห่วงใยให้กับพวกเธอทุกคนไม่ต่างไปจากเด็กสาวคนอื่นๆ

ขะ ขอบคุณ....ค่ะฮึก

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเดือนนั้นพวกเธอทุกคนก็ตั้งใจทำงานอย่างหนักอยู่ตลอด ช่วงเวลาว่างที่เด็กสาวคนอื่นได้ไปเที่ยวเล่นสนุกสนาน พวกเธอก็เอาแต่เข้ารับการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะเป็นประโยชน์ให้กับผมได้ตลอดทุกเวลา พวกเธอทุกคนไม่เคยแม้แต่จะบ่นหรือเรียกร้องสิ่งใด

พวกเธอนั้นไม่ใช่แค่ของเล่นสนุกยามว่าง พวกเธอนั้นไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการต่อสู้ พวกเธอทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนสำคัญของผม และไม่ว่าจะเป็นใครหากคิดจะเข้ามารังแกพวกเธอล่ะก็ผมจะไม่มีวันอภัยให้ง่ายๆอย่างแน่นอน

แล้วจะทำยังไงกันต่องั้นเหรอคะ.....

โรน่าจังถามออกมาด้วยสีหน้ากังวล นั่นสินะในเมื่อมันหายไปแล้วจะให้ไปตามหากลับมาคงไม่ใช่เรื่องง่าย แถมคนที่สามารถย่องเข้ามาขโมยในบ้านของผมได้โดยที่ไม่มีใครพบเห็นเลยเนี่ยคงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่ๆ

อีกอย่างหากมีคนที่เป็นศัตรูลอบเข้ามาในเมืองก็คงถูกตรวจจับด้วยเวทมนต์ค้นหาไปแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้สูงว่าคนร้ายจะเป็นหนึ่งในพวกเราที่ได้รับสกิลพิเศษมา เพราะงั้นหากเอาเรื่องนี้ไปบอกทุกคนมีหวังได้ระแวงกันเองแน่ๆ

เมื่อคิดได้ดังนั้นก็คงจะมีแต่ต้องเก็บเงียบเอาไว้แล้วค่อยๆหาทางสืบเอาอย่างลับๆล่ะมั้ง.......

คูเซียจัง คิดว่าพอจะทำของเลียนแบบขึ้นมาได้มั๊ย

ถ้าแค่รูปร่างภายนอกก็น่าจะพอได้นะคะ......

คูเซียจังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ เอาเถอะสุดท้ายถ้าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดล่ะนะ.......

ถ้างั้นก็เอาตามนั้น ทำของเลียนแบบขึ้นมาเก็บไว้ที่เดิม แล้วก็ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครอย่างเด็จขาด เข้าใจแล้วนะ

「「「「รับทราบค่ะ!!!」」」」

เมดสาวทุกคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว

เอาล่ะ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วจะแก้ไขได้ยาก แต่หลังจากนี้ผมก็ยังคงต้องพึ่งพาทุกคนต่อไป เพราะงั้นหากมีเรื่องอะไรก็มาปรึกษาผมได้ทันทีเลยนะ

「「「「เข้าใจแล้วค่ะ!!!」」」」

ถ้างั้นก็มาถึงบทลงโทษ.....นั่นสินะ....ผมเองก็ควรจะต้องรับโทษด้วย เอาเป็นว่าทุกคนในบ้านจะต้องงดของหวานสามวัน เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ก็แล้วกัน

「「「「เข้าใจแล้ว เอะ เอ๋!!!!!!!!!!!」」」」

เพียงแค่ได้ยินคำพูดของผม บรรยากาศในห้องที่เริ่มจะดีขึ้นมาบ้างแล้วก็กลับไปตึงเครียดอีกครั้ง นอกจากมาเรียจังและคูเซียจังที่เป็นหัวหน้าแล้ว เมดสาวคนอื่นต่างหน้าซีดและทรุดลงไปกับพื้นราวกับหัวใจกำลังแตกสลาย บางคนถึงกับกอดกันร้องไห้เลยทีเดียว นี่ผมลงโทษหนักไปงั้นรึ.....แค่งดของหวานสามวันทำไมถึงจะท่าเหมือนจะต้องตายกันแบบนั้นล่ะเนี่ย......

เธอก็ด้วยนะโรน่า

ผมพูดพร้อมกับหันไปมองโรน่าจัง เธอที่กำลังสับสนนั้นช่างดูน่ารักอย่างประหลาด เห็นทีคงจะต้องแกล้งให้มากกว่านี้แล้วสิ

เอ๋! ตะ แต่ชั้นไม่ได้.......

เธอคิดจะขัดคำสั่งผมตั้งแต่มาถึงวันแรกเลยงั้นเหรอ

ผมพยายามกั้นเสียงหัวเราะและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง

โหดร้าย! ชั้นยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนี่คะ!

โรน่าพยายามหาเหตุผลมาปฏิเสธอย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่สนใจ จะให้ผมอดคนเดียวแล้วให้เธอมากินของหวานต่อหน้าน่ะยอมไม่ได้หรอก

มาเรียจัง เตรียมงานสำหรับคืนนี้เรียบร้อยแล้วหรือยัง

ทั้งอุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับทำบาร์บีคิวเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนพวกเครื่องดนตรีก็ไปทำเรื่องอนุมัติเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ทำงานได้เรียบร้อยสมกับเป็นเธอเลยนะ

ผมเดินเข้าไปพยุงมาเรียจังขึ้นมาและลูบหัวเธอเบาๆอย่างอ่อนโยน ถึงการทำแบบนี้จะทำให้เธอถูกคนอื่นอิจฉาอยู่บ่อยๆแต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ถึงแม้ในตอนนี้ผมจะมีตำแหน่งเป็นถึงผู้ปกครองอาณาจักร แต่จะให้มาวางท่าทำตัวเป็นขุนนางตลอดมันก็ไม่ใช่นิสัยของผมซะด้วยสิ

คูเซียจัง เธอเองก็ตั้งใจและทำงานได้ดีมาตลอด เอาไว้ผมจะหารางวัลมาให้เธอทีหลังนะ

เพียงแค่คำชมนั้นก็มีค่ายิ่งกว่าสิ่งของใดๆแล้ว ที่ดิชั้นได้ถูกซื้อตัวมาโดยนายท่านนั้น นับเป็นรางวัลที่มีค่าที่สุดในชีวิตนี้แล้วค่ะ

คูเซียจังตอบกลับมาด้วยท่าทางสง่างาม ต่างจากมาเรียจังที่ดูน่ารักเป็นธรรมชาติ คูเซียจังนั้นได้ไปเข้าอบรมมารยาทของชนชั้นสูงอยู่บ่อยๆ ซึ่งการที่เธอใส่ใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมากนั้น ก็เป็นเพราะเผ่ากระรอกของเธอมักจะอาศัยอยู่ตามป่าเขา จึงมักจะถูกเผ่าอื่นๆดูถูกว่าเป็นพวกไม่รู้มารยาทน่ะ

ถ้างั้นก็กลับไปทำงานกันต่อได้แล้วล่ะ

หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง จึงเหลือเพียงโรน่าจังและผมอยู่ด้วยกันแค่เพียงสองคนเท่านั้น

นี่โรน่าเธอมีอะไรที่อยากทำเป็นพิเศษรึเปล่า

ผมถามออกไปในขณะที่นอนหนุนอยู่บนต้นขาเนียนนุ่มของเธอ ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นมาอย่างมาก ถ้ามันไม่ใช่ครั้งแรกของเธอล่ะก็ผมคงจัดการกับเธอซะตั้งแต่ตอนนี้แล้ว

แต่เนื่องจากโรน่าจังยังคงเป็นสาวบริสุทธิอยู่ผมจึงอยากจะให้เธอได้จดจำมันในบรรยากาศที่ดีที่สุด

แค่ได้อยู่เคียงข้างทัตสึยะซามะชั้นก็มีความสุขมากแล้วค่ะ เพราะงั้นต่อให้เป็นงานที่ยากลำบากแค่ไหนชั้นก็ไม่คิดจะปฏิเสธหรอกค่ะ

โรน่าจังตอบกลับมาพร้อมกับลูบไล้ที่ใบหน้าของผมอย่างอ่อนโยน จากนั้นพวกเราก็ได้พูดคุยอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในสมัยเด็ก เรื่องตอนที่เธอถูกปิดล้อมอยู่ในเมืองเวลล่า เรื่องของยูฟีน่าและคนอื่นๆที่เธอได้ไปพบเจอ ต่างจากเวลน่าที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและเร้าใจ รสชาติของโรน่าจังนั้นเป็นรสชาติของผลไม้ใกล้จะสุกงอม ที่แม้จะไม่ได้หวานมากมายแต่ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นจนผมอยากจะลิ้มลองรสชาติของมันบ่อยๆ


-- Extra –

จำเป็นต้องขโมยบันทึกเล่มนี้มาจริงๆงั้นเหรอคะ......

ในส่วนลึกของห้าง Seirien เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินเป็นประกายกำลังพูดกับใครคนหนึ่ง

เรื่องราวในบันทึกเล่มนี้มันอันตรายเกินไปน่ะ

ไม่ไว้ใจทัตสึยะซามะงั้นเหรอคะ......

เด็กสาวยังคงถามออกไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ เธอเองนั้นตามจริงแล้วไม่อยากจะมีเรื่องปิดบังกับทัตสึยะ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องทำตามคำสั่งเพียงเท่านั้น

ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ แต่มันยังไม่ถึงเวลาน่ะนะ

แล้วถ้าหากเวลานั้นมาถึง คุณจะคอยปกป้องพวกเราต่อไปมั๊ยคะ.....

ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ถ้าหากทัตสึยะซามะไม่คิดจะเดินไปบนเส้นทางที่ผิดล่ะก็ ทั้งชั้นและพี่น้องทุกคนจะคอยช่วยเหลือเค้าตลอดไปอย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินดังนั้นเด็กสาวก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง ตัวเธอนั้นมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าทัตสึยะจะไม่ทำในสิ่งที่ผิดอย่างแน่นอน......

15 ความคิดเห็น:

  1. ปริศนามาอีกแล้วกับบันทึกลึกลับเล่มที่หายไป ให้เดาเด็กจากลักษณะเด็กสาวที่ขโมยก็น่าจะใกล้เคียงกับสาวมังกรยูเอลาล่ะมั้ง? แสดงว่าต้องเป็นอากิโอะสั่งให้ขโมยมาชัวร์ ว่าแต่ของหวานสำหรับสาวๆ นี่มันคือชีวิตกันเลยทีเดียว งดสามวันทำเอาลั่นทั้งแก๊ง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ติดตามครับติดตาม -0-//

      ลบ
    2. อีกคนที่น่าสงสัยคือโอลิเวีย ผมสีเงิน อยู่ในห้าง แถมยังรู้ความลับเรื่องปิศาจอีกด้วย ผมว่าน่าจะใช่ล่ะ

      ลบ
    3. นั่นสินะ ต้องรอติดตามกันต่อไปละครับ เรื่องนี้จะเฉลยตอนบทที่ 5...

      ลบ
    4. อืมบท 5 สินะ
      สู้ๆครับ

      ลบ
  2. ยูฟี่สั่งหรือป่าวหว่า-9-

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ8 พฤษภาคม 2559 เวลา 15:22

    มีกลุ่มแปลกๆที่คอยจัดตาดูเทพทัตโผล่มาแล้ว ถ้ากลุ่มนี้เห็นเทพทัตทำอะไรที่ "ไม่ตรงกับความเห็นของกลุ่ม" ขึ้นมาแล้วล่ะก็ คงจะหาทางกำจัดเทพทัตทิ้งสินะ

    ตอบลบ
  5. เดาว่าเป็นเอริครับเห็นในข้อมูลตัวละครละบอกว่าชอบหายตัวไปคนเดียวบ่อยๆ

    ตอบลบ