-- มุมมองของทัตสึยะ --
เบื้องหน้าของผม คริสติน่า ลาลาน่า วอน เอลติซ อดีตเจ้าหญิงอันดับที่
13 แห่งจักรวรรดิเอลติซ เธอมีใบหน้าที่งดงามดวงตาสีอเมทิสต์เป็นประกาย รูปร่างเพรียวบางน่าทะนุทนอม
หน้าอกขนาดน่ารักน่าสัมผัส ผมยาวสีม่วงอ่อนเป็นเงางาม
ท่าทางที่สง่างามของเธอนั้นเรียกได้ว่าไม่เป็นรองเจ้าหญิงจากประเทศอื่นๆเลยแม้แต่น้อย
และหากนำไปเทียบกับฟลอร่าผู้เป็นน้องสาวแท้ๆของเธอแล้ว
คริสติน่านั้นมีออร่าที่แสดงถึงความเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์อยู่มากกว่าหลายเท่า
「ทำไมถึงกลับมาที่นี่ล่ะคะ
ไม่ใช่ว่าคืนนี้มีนัดดื่มกับว่าที่น้องเขยโต้รุ่งกันหรอกเหรอคะ」
ยูฟีน่าหันมาถามผมด้วยสีหน้าแปลกใจ ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่เธอพูด
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้
ผมได้โดดงานและหนีไปช่วยโนเอลจังน้องสาวบุญธรรมของผมเตรียมงานแต่งงานอยู่ที่เมืองเนอราเชียใหม่
ซึ่งอยู่ภายในอนาเขตที่ดินของตระกูลเนอราเชียทางทิศตะวันออกทางอาณาจักรออร์ธรอส
แล้วทำไมผมถึงกลับมาที่คฤหาสน์ทั้งๆที่ควรจะดื่มโต้รุ่งอยู่กับเจ้ากัสต้าหรือว่าที่น้องเขยของผมน่ะเหรอ
เหตุมันก็ง่ายๆนั่นก็คือ.....
「ผมก็ต้องรีบกลับมาแน่นอนอยู่แล้ว นั่นก็เพราะผมได้ข่าวมาว่ายูฟี่จังสุดที่รักของผมพาเจ้าหญิงแสนสวยมาที่คฤหาสน์ของผมโดยไม่ได้บอกอะไรกับผมก่อนเลยน่ะสิ」
ผมตอบกลับไปพร้อมกับจิบไวน์แดงที่เอลิเซ่ยื่นมาให้ สัมผัสอันนุ่มนิ่มจากร่างกายของเด็กสาวที่อยู่บนตักของผมนั้นช่างเข้ากันกับไวน์แดงนี่ดีจริงๆ
เจ้าหญิงคริสติน่าที่ถูกผมชมก็แสดงใบหน้าเขินอายเล็กน้อยอออกมา
แต่ถึงงั้นเธอก็ยังคงปฏิบัติตัวอย่างสง่างามไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก
ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกสนใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีก
แต่ในตอนนี้ผมรู้สึกสนใจในเรื่องของผู้กล้าต่างโลกมากกว่า ดังนั้นเรื่องส่วนตัวของผมจะขอพักเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน
「พวกสมแล้วที่เป็นคุณสามี
จมูกไวกับพวกเรื่องนี้จริงๆเลยนะคะ ว่าแต่เรื่องเตรียมงานแต่งงานของโนเอลจังเป็นอย่างไรบ้างคะ」
「ตอนนี้ก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรนะ
ถึงแขกจากต่างประเทศที่มาขอเข้าร่วมงานในครั้งนี้จะเยอะมากจนผิดปกติ แต่ผมคิดว่าคงจะไม่มีผลกระทบอะไรกับงานในครั้งนี้หรอก……ไอ้เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ
เอาอยากฟังเรื่องเกี่ยวกับผู้กล้าต่างโลกที่พวกเธอพูดถึงกันเมื่อครู่มากกว่านะ」
「ทัตสึยะซามะ อ้ามมมม!!」
ผมตอบยูฟีน่ากลับไปพร้อมกับงับแอปเปิลที่เอลิเซ่หยิบมาป้อนให้กับผมไปพร้อมกันด้วย
เนื่องจากเป็นงานของโนเอลซึ่งเป็นถึงขุนนางในตำแหน่งไวส์เคานต์แห่งอาณาจักรออร์ธรอส
ดังนั้นจึงมีขุนนางระดับสูงรวมทั้งราชทูตจากนานาประเทศยื่นความต้องการที่จะเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
แต่ไม่ว่าจะมีแขกเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คิดเอาไว้สักแค่ไหน ยังไงผมก็ไม่คิดว่ามันจะไปส่งผลกระทบอะไรมากนักหรอก
อย่างอีกพวกแขกที่จะเจ้าร่วมก็ต้องถูกหน่วยข่าวกรองตรวจสอบอย่างละเอียดมาก่อนแน่นอนอยู่แล้วด้วย
「ดูเหมือนว่าคุณสามีของชั้นจะสนใจเรื่องเกี่ยวกับผู้กล้าต่างโลกมากเลย
เพราะงั้นจะช่วยเล่าละเอียดให้มากกว่านี้จะได้ไหมคะ คริสติน่าซัง」
ยูฟีน่าหันไปถามเจ้าหญิงคริสติน่าเกี่ยวกับเรื่องของผู้กล้าต่างโลก

「ดิชั้นเองก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมาก
เนื่องจากได้ฟังมาจากพวกลูกน้องที่ทำงานอยู่ในเมืองหลวงน่ะค่ะ ซึ่งจากที่ได้ฟังมานั้น
ดิชั้นคิดว่าพวกเค้าน่าจะเป็นกองกำลังลับที่เลคซิอุสซ่อนเอาไว้ เพราะทั้ง ชื่อ
ที่อยู่ บ้านเกิด ครอบครัว หรือแม้แต่ความเกี่ยวข้องระหว่างพวกเค้ากับทางจักรวรรดิเอลติซเองก็ยังไม่มีข้อมูลเลย」
เจ้าหญิงคริสติน่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซึ่งฟังดูแล้วผมคิดว่าตัวเธอไม่ได้มีเจตนาจะปิดปังหรือโกหกแม้แต่น้อย
ซึ่งหากเชื่อว่าเรื่องที่เธอพูดเป็นความจริงแล้วล่ะก็
การที่หน่วยข่าวกรองของเอริจังไม่ได้มีการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาให้กับผมเลยก็พอจะยอมรับได้
ผมเชื่อว่าการมีอยู่ของกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่าผู้กล้าต่างโลกน่าจะเป็นความลับระดับสูงที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ข้อมูลของพวกเขา
「นอกจากนั้นแล้วก็เรื่องของความสามารถในการต่อสู้
ที่ดิชั้นรู้มานั้น รู้สึกว่าพวกเค้าจะสามารถใช้เวทมนต์ได้เชี่ยวชาญกว่าจอมเวททั่วไปมาก
นอกจากนั้นแล้วแต่ละคนยังมีความสามารถพิเศษอื่นๆที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่อีก
แต่เพราะข้อมูลพวกนั้นถูกเก็บเป็นความลับระดับสูง
เพราะงั้นดิชั้นจึงไม่ทราบเรื่องราวแน่ขัด ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ」
เจ้าหญิงคริสติน่าพูดพร้อมกับก้มหัวให้กับผมเล็กน้อย โดยเธอก็ยังคงความสง่างามและรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของเธอเอาไว้
พูดถึงผู้กล้าต่างโลกแล้ว
ไม่ว่าใครก็คงจะนึกถึงตัวละครผู้กล้าที่ได้รับพลังสุดโกงที่ถูกอัญเชิญมากญี่ปุ่นซึ่งหาได้มากมายตามไลท์โนเวลต่างๆ
ดังนั้นหากยึดเอาตัวผมและพวกเราที่ถูกอัญเชิญมาที่โลกนี้แล้ว การที่จะมีคนอื่นๆถูกอัญเชิญมาจากญี่ปุ่นพร้อมกันด้วยนั้นก็เรียกได้ว่าสมเหตุสมผล
เนื่องจากในตอนนี้ผมยังมีข้อมูลอยู่น้อยมากและมันเป็นก็เรื่องสำคัญมากด้วย
ดังนั้นผมจึงตัดสินใจให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอับดันหนึ่ง
และเมื่อคิดได้ดังนั้น ผมก็ส่งข้อมูลผ่านสกิล Message ไปหาเอริจังเพื่อให้เธอดำเนินการสืบค้นข้อมูลทุกอย่างที่น่าจะเกี่ยวข้องกันโดยทันที
「ผมเข้าใจแล้วล่ะ
แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของเธอด้วย เพราะงั้นไม่ต้องขอโทษผมหรอกนะ」
「ขอบคุณมากค่ะ แล้วถ้าหากดิชั้นได้รับทราบเรื่องราวของพวกเค้ามากกว่านี้ล่ะก็
จะรีบมารายงานให้กับทัตสึยะซามะได้ทราบอย่างด่วนที่สุดเลยค่ะ」
เจ้าหญิงคริสติน่าตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มเล็กน้อย
น้ำเสียงที่ไพเราะของเธอทำให้ผมรู้สึกหลงใหลในตัวเธอมากขึ้นทุกๆครั้งที่เธอส่งเสียงออกมา
และนั่นก็ทำให้ผมตัดสินใจที่จะปฏิบัติกับเธออย่างอ่อนโยนที่สุด
กับเจ้าหญิงแสนงดงามผู้นี้แล้ว
ผมคงจะไม่ทำกับเธอเหมือนกับเป็นของเล่นสนุกๆอย่างแน่นอน
「เอาล่ะ
ถ้างั้นก็พักเรื่องผู้กล้าต่างโลกเอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอ คริสตี้จัง
เธอมาทำอะไรในอาณาจักรของผม เธอต้องการอะไรจากผมอย่างงั้นเหรอ」
「คะ คริสตี้จัง!!?」
กับคำพูดของผม เจ้าหญิงคริสติน่าแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา เห้ย!! เธอจะน่ารักเกินไปแล้วนะเนี่ยเจ้าหญิงคนนี้
ผมเกือบจะทนไม่ไหวแล้วนะเนี่ย!!
「ทัตสึยะซามะ ไฮ อ้ามมมม!!」
แต่แล้วผมก็ได้กลิ่นหอมๆและผลไม้รสเปรี้ยวหวานที่เอลิเซ่ยื่นมาให้ช่วยดึงสติเอาไว้
ดูเหมือนว่าเอลิเซ่จะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
เพราะงั้นเธอจึงช่วยปกปิดความต้องการของผมเอาไว้ และก็เนื่องจากเธอทำได้ดีมาก
ผมจึงบีบก้นเธออย่างแรกเพื่อให้รางวัล
「ไม่ชอบงั้นเหรอ เพราะเธอบอกให้ปฏิบัติกับเธอเหมือนเด็กสาวทั่วไป
ผมเลยคิดชื่อนี้ขึ้นมา ผมว่าชื่อนี้น่ารักดีแล้วเชียวนะ」
ปล่อยเอลิเซ่ที่กำลังหน้าแดงก่ำเอาไว้
ผมพูดออกไปด้วยท่าทางจริงจังแต่ก็ยังคงรอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้
ผมเองเนื่องจากต้องพบกับตัวแทนจากหลายๆประเทศอยู่ตลอด
ดังนั้นผมจึงได้ฝึกฝนการคงรอยยิ้มบนใบหน้า ซึ่งนั่นก็เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถอ่านสีหน้าของเราออกได้ง่ายๆ
「คะ คริสตี้จังก็ดีค่ะ ดะ
ดีแล้วล่ะค่ะชื่อแบบนั้น.....」
เจ้าหญิงคริสติน่าพยายามฝืนเก็บอาการเขินอายของตัวเองและตอบกลับมาน้ำเสียงเป็นธรรมชาติที่สุด
แต่ใบหน้าที่แดงก่ำไปจนถึงบริเวณใบหูของเธอมันไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้หรอกนะ
ให้ตายสิ ทั้งรูปร่างและใบหน้าที่งดงามก็ดี
ทั้งความน่ารักที่เธอแสดงออกมาในตอนเขินอายเองก็ดี
นี่เธอทำให้ผมติดใจเธอจริงๆแล้วนะเนี่ย ผมตัดสินใจแล้วล่ะ
ไม่ว่ายังไงผมก็จะต้องทำให้เธอตกหลุมรักผมอย่างจริงจังโดยไม่มีเรื่องการเมืองระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องให้ได้เลยคอยดูสิ
「ถ้างั้นก็คริสตี้จัง
เธอต้องการอะไรกันแน่ถึงได้มาหาผมที่นี่ มีอะไรอยากจะพูดก็บอกมาได้เลย」
「ดิชั้นอยากจะมาขอบคุณเรื่องที่ทัตสึยะซามะให้การช่วยเหลือน้องสาว...เรื่องที่ช่วยฟลอร่าเอาไว้
ต้องขอขอบคุณมากจริงๆค่ะ」
เจ้าหญิงคริสติน่าพูดพร้อมกับก้มหัวลงต่ำมาก
ดูจากการแสดงออกจองเธอแล้ว เธอคงจะรักน้องสาวของเธอมากจริงๆล่ะนะ
「พูดถึงเรื่องของฟลอร่าสินะ
ฟลอร่าน่ะเป็นเด็กสาวที่ดี เธอตั้งใจทำงานและคอยช่วยเหลือผมได้มากเลยล่ะ หลังจากนี้เองหากมีอะไรเกิดขึ้นผมก็จะคอยดูแลปกป้องเธอเอง
เพราะงั้นก็ไม่ต้องห่วงเธอแล้วล่ะนะ」
「ขอบคุณมากค่ะ.....หลังจากนี้เองก็ขอฝากฟลอร่าด้วยนะคะ.....」
「มีแค่นี้เองน่ะเหรอ
อย่างเรื่องอนาคตของเธอล่ะ ผมนึกว่าเธอจะมาขอร้องให้ผมช่วยเธอล้างแค้น หรือไม่ก็ให้ช่วยกอบกู้ประเทศของเธอกลับมาจากทรราชเสียอีกนะเนี่ย」
「เรื่องความแค้นนั้นให้พูดตามตรงแล้ว ดิชั้นเองในฐานะที่เกิดมาเป็นลูกก็อยากจะแก้แค้นให้กับท่านพ่อค่ะ
แต่หากคิดถึงผลประโยชน์โดยรวมของประเทศแล้ว
การจะมาขอให้อาณาจักรออร์ธรอสซึ่งเป็นศัตรูกันมาช่วยเหลือด้วยเหตุผลแบบนั้น ในฐานะเจ้าหญิงของราชวงศ์เอลติซแล้ว
ดิชั้นคงเรื่องแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ」
เจ้าหญิงคริสติน่าตอบผมกลับมาด้วยสีหน้าจริงจัง สำหรับตัวเธอที่เป็นเจ้าหญิงนั้น
การพาศัตรูเข้าบ้านเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้
ถึงแม้จะมีเรื่องความแค้นที่ฆ่าพ่อแม่รวมถึงเรื่องที่ทำร้ายน้องสาวของเธอ
แต่ตัวเธอที่มีสายเลือดของราชวงศ์เอลติซอยู่ในตัวนั้น
เธอมีหน้าที่ที่จะต้องคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศมาก่อนเสมอ
「เธอรู้รึเปล่าว่า ภาษีที่ทางการเรียกเก็บกับประชาชนของเธอในตอนนี้น่ะ
มัน 7 ใน 10 ส่วนเลยนะ สำหรับเธอแล้ว
ผลประโยชน์ของประเทศมันสำคัญยิ่งกว่าความเดือดร้อนของประชาชนอย่างงั้นเหรอ」
「เรื่องนั้นมัน.....อึก.....」
เจ้าหญิงคริสติน่าพยายามที่จะหาคำพูดตอบผมกลับมา
แต่เธอก็กัดฟันเอาไว้และไม่พูดอะไรต่อ.....
「ผมเข้าใจละ ตัวเธอในตอนนี้คงจะมีเรื่องลำบากใจอะไรหลายๆอย่างอยู่งั้นสินะ
ถ้างั้นเอาแบบนี้เป็นไงล่ะ ผมจะคอยช่วยสนับสนุนการล้างแค้นของเธอ ผมจะเตรียมทั้งกำลังทหารและสิ่งจำเป็นต่างๆให้
ส่วนเรื่องหลังจากนั้นผมจะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ทั้งเรื่องการแบ่งอาณาเขตของจักรวรรดิเอลติซ ทั้งเรื่องการบริหารและการเมืองภายในประเทศ
ทั้งเรื่องของผู้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิ รวมทั้งปัญหาอื่นๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากปลดจักรพรรดิเลคซิอุสลงจากบัลลังก์
ผมจะยกให้เธอเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด ว่าไงล่ะ ?」
กับคำพูดของผมนั้น ไม่เพียงแค่เจ้าหญิงคริสติน่า
แต่ทั้งยูฟีน่าและเอลิเซ่เองก็ถึงกับตกตะลึงไปด้วย ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
นั่นก็เพราะสิ่งที่ผมพูดออกไปนั้นหมายถึงการทำสงครามโดยไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆเลย
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ปกครองอาณาจักรทั่วๆไปจะทำกันล่ะนะ
「แต่ว่านะ ผมมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ นั่นก็คือเธอจะต้องช่วยผมเกลี้ยกล่อมเคานต์โรเดริกให้มาเข้ากับฝั่งเรา
ก็นะ ผมน่ะไม่อยากจะให้ภรรยาและน้องสาวบุญธรรม ผมไม่อยากให้ยูฟีน่าและเซลฟีน่าต้องไปต่อสู้กับพี่ชายสุดที่รักของพวกเธอล่ะนะ」
「ทัตสึยะซามะ.....」
กับคำพูดของผม ยูฟีน่าหันมามองผมด้วยสายตาซาบซึ้งสุดๆ
มันก็ช่วยไม่ได้ใช่มั๊ยล่ะ ก็ยูฟีน่าน่ะเป็นภรรยาคนสำคัญของผม
ผมไม่อยากจะให้เธอต้องเจ็บปวดจากการที่ต้องไปต่อสู้กับพี่ชายแท้ๆของเธอหรอกนะ
「ดิชั้น......ขอเวลาไตร่ตรองในเรื่องนี้ก่อนจะได้มั๊ยคะ
?」
เจ้าหญิงคริสติน่าใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมา
เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
เธอเองคงจะต้องการเวลาไปปรึกษากับคนของเธอก่อนล่ะมั้งนะ
「ถ้างั้นผมจะรอ
ถ้าเธอได้คำตอบเมื่อไหร่ก็แจ้งกับพวกเมดเพื่อขอนัดพบกับผมได้ทุกเมื่อเลยนะ」
「ขอบคุณมากค่ะ」
「เอาล่ะถ้างั้นก็เอาตามนั้น........ใช่แล้วล่ะ
วันนี้ผมยังมีเรื่องอื่นมาบอกกับพวกเธอด้วยนะล่ะนะ ยูฟี่จัง เอลิเซ่จัง
คริสตี้จังถ้ารู้เรื่องนี้เอาไว้ด้วยก็น่าจะเป็นประโยชน์กับเธอนะ」
ผมพูดพร้อมกับหยิบเอกสารออกมาจาก 3 ชุดและยื่นให้กับพวกเธอทั้งสามคน
「งานเทศกาลประจำปีแห่งเมืองสเตรเชีย.......!!??」
「จะ...จัดงานเทศกาลยาวต่อเนื่องกัน 10 วันไปถึงจนวันสิ้นปี......!!??」
「ค่าโดยสารพาหนะเวทมนต์ รสบัส รถไฟใต้ดิน
รถไฟความเร็วสูง เรือโดยสาร และ เรือเหาะโดยสาร ทั้งในประเทศรวมถึงระหว่างประเทศ
ฟรีเป็นระยะเวลา 1 เดือน!!!?」
กับแผนการจัดงานเทศกาลที่ผมและชิซึกุช่วยกันคิดขึ้นมานั้น
ทั้งสามคนถึงกับตกตะลึงกันไปยิ่งกว่าเรื่องที่พวกเราพูดกันก่อนหน้านี้เสียอีก
เปย์ให้สาวใหญ่เลยน่าาาาา ค่าตอบแทนมันคงชดใช่หลายเดือนแน่ๆ...//กัดฟันแรงงงงง!!ლಠ益ಠ)ლ
ตอบลบรวยจัดครับ 55555
ลบ