ตอนที่ 7 การต่อสู้ ณ เมืองเวลล่า บทที่ 4


 
เมื่อผมกระโดดขึ้นมาถึงบนกำแพงเมือง Minotaurus ส่วนใหญ่นั้นได้สลายกลายเป็นเนื้อขนาดกลางไปแล้ว

พี่คะ!

ชิซึกุรีบวิ่งเข้ามากอดผมในทันที ทั้งที่ผมไม่ได้มีบาดแผลเลยแม้แต่นิดเดียวแต่เธอก็คงยังเป็นห่วงผมอยู่เสมอ

ทำได้ดีมาก ชิซึกุ ไม่มีใครบาดเจ็บใช่ไหม

ผมลูบหัวน้องสาวสุดที่รักเบาๆ และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงแชมพูกลิ่นสตอเบอรี่ ในระหว่างเดินทางมาที่นี่ชิซึกุคงไปสระผมมาล่ะมั้ง เอาเถอะสำหรับเด็กสาววัยรุ่นแล้วการดูแลความสวยงามของเส้นผมเองก็เป็นเรื่องสำคัญ....

เด๋วสิ....หรือว่าจะเป็นเพราะอัศวินหนุ่มที่เธอเต้นรำด้วยเมื่อคืน.....ในฐานพี่ชายแล้วจะปล่อยให้น้องสาวไปคบกับผู้ชายนิสัยแปลกๆคงไม่ได้ หลังจากนี้คงจะต้องมีการตรวจสอบเจ้าอัศวินนั่นให้แน่ชัด

ถึงจะเป็นเรื่องน่าอาย แต่เพื่อความสุขของน้องสาวสุดที่รักแล้วนั้น ยังไงก็คงก็ต้องทำล่ะ

ผมเก็บเรื่องนี้เอาไว้ใจ....

กลุ่มอัศวินของเซลฟีน่าซังดูเหมือนจะมีบาดแผลกันเล็กน้อย แต่พวกทหารที่ต่อสู้อยู่ก่อนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส คาโอริจังกำลังช่วยดูแลอยู่ค่ะ

ทำได้ดีมากเลยนะคาโอริจัง

ผมเข้าเดินไปหาคาโอริจังและวางมือบนไหล่ของเธอ

คาโอริจังใช้เวทมนต์กาลเวลาของเธอในการย้อนสภาพร่างกายของทหารที่บาดเจ็บ สีหน้าของเธอในตอนนี้ดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนมันจะเป็นเวทมนต์ที่เปลืองมานาเป็นอย่างมาก

เทียบกับทัตสึยะซามะแล้ว เรื่องที่ชั้นพอจะทำได้ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นค่ะ

คาโอริจังลุกขึ้นมาพูดกับผมด้วยรอยยิ้ม เวลาในแบบนี้ยังพูดจาแบบลูกคุณหนูได้เนี่ย....จะว่ายังไงดีล่ะ ก็สมเป็นเธอแล้วล่ะมั้ง

ถึงเรื่องการรักษาจะสำคัญ แต่ยังไงก็อย่าฝืนตัวเองมากไปล่ะ

ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนั้น หากคนที่พอจะต่อสู้ได้หมดแรงไปซะก่อนเพราะไปรักษาคนเจ็บล่ะก็ มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีนัก

เข้าใจแล้วค่ะ จะไม่ทำให้เสียงานอย่างแน่นอน

พอพวกทหารได้ยินคำพูดของผมแล้วนั้นพวกเค้าก็พยายามฝืนตัวเองเพื่อยืนขึ้น คงอยากจะแสดงให้เห็นล่ะมั้งว่า การที่คาโอริจังช่วยรักษาพวกเค้านั้นมันไม่ได้ไร้ประโยชน์

ที่ท่านจอมเวทยอมสละพลังอันมีค่ามาช่วยชีวิตเอาไว้นั้น พวกเราจะใช้มันให้เป็นประโยชน์มากที่สุดครับ!!

พวกเค้าที่ก่อนหน้านี้ดูราวกับคนที่ตายไปแล้วนั้น พูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง สมกับเป็นทหารที่ถูกฝึกมา

「「「ขอบคุณมากครับ!!」」」

พวกทหารที่ได้รับการรักษาไปนั้นกล่าวขอบคุณออกมาและรีบวิ่งไปเสริมกำลังให้กำแพงอีกด้าน

พวกเค้าเป็นทหารที่ไว้ใจได้เลยนะคะ

หลังจากไอริจังพยุงทหารที่บาดเจ็บหนักอีก 2 คนมาวางไว้ใกล้ๆกับคาโอริ เธอก็เข้ามาทักทายผม

ไอริจังก็ด้วย ขอบคุณที่ช่วยดูแลชิซึกุกับคาโอรินะ....จะว่าไปแล้ว....ไอโกะจังล่ะ

ผมลูบหัวไอริจังอย่างอ่อนโยนพร้อมถามออกไป

ไอโกะโอเน่จัง ไปช่วยพวกอัศวินที่กำแพงด้านนั้นน่ะค่ะ

ไอริจังพูดพร้อมกับชี้ไปยังกำแพงอีกด้านที่ยังมีการต่อสู้อยู่

ถ้างั้นผมจะตามไปช่วยทางด้านนั้นเอง ส่วนตรงนี้ก็ฝากพวกเธอด้วยนะ

ไว้ใจได้เลยค่ะ

จากนั้นผมก็กระโดดจากกำแพงลงไปในตัวเมือง เนื่องจากความซับซ้อนของกำแพงเมืองนั้นทำขึ้นมาเพื่อป้องกันผู้บุกรุก ดังนั้นผมที่ไม่รู้จักโครงสร้างของมันดีนักจึงเป็นเรื่องยากหากจะเดินตามทางบนกำแพงไป ผมจึงเลือกที่จะกระโดดลงไปด้านล่างแล้วค่อยปีนกลับขึ้นไปเมื่อถึงเป้าหมายแล้ว

ผมพยายามวิ่งไปด้วยความเร็วสูงสุด ในระหว่างทางนั้นมีทหารหลายคนกำลังต่อสู้กับพวก Minotaurus ตัวหนึ่งที่หลุดเข้าไปในเมือง

หากพวกมันหลุดเข้าไปเยอะล่ะก็คงจะต้องมีเหยื่อเพิ่มขึ้นอีกแน่ ดังนั้นผมจึงพุ่งเข้าปะทะเจ้า Minotaurus ตัวนั้นด้วยค้อนในมือ กับ Minotaurus ธรรมดานั้นแค่ทำให้มันล้มลงได้ก็เพียงพอแล้ว

พอเห็น Minotaurus ตรงหน้าอยู่ดีดีก็ล้มลงไปนั้น พวกทหารที่กำลังต่อสู้อยู่ต่างก็หันมามองผมอย่างตกตะลึง

ที่เหลือก็ฝากด้วยนะ!!

ผมรีบวิ่งต่อไปโดยทิ้งเอาไว้เพียงคำพูด ทหารเหล่านั้นถูกฝึกมาอย่างดี ถึงแม้จะเจอเรื่องให้ตกใจแต่เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้สติกลับมา พวกเขาใช้หอกและดาบในมือเข้าโจมตี Minotaurus ไร้ทางสู้ในทันที

แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังวิ่งไปยังกำแพงอีกด้านก็ได้ยินเสียงหนึ่งแว่วเข้าหูมา

เจ็บบบ!! ปล่อยชั้นนะ!! เจ็บบบ!! ชะ ช่วยด้วยย!!

มันเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเด็กสาวคนหนึ่งที่ดังออกมาจากบ้านไม้ตรงมุมถนนห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่ไปไม่ไกลนัก

ผมรีบกระโดดถีบอากาศเพื่อเปลี่ยนทิศทางและมุ่งหน้าไปยังเสียงนั้นในทันที ถึงแม้การต่อสู้ด้านบนกำแพงจะยังไม่จบ แต่ด้วยเลเวลและประสบการณ์ของไอโกะจังตอนนี้น่าจะพอต้านเอาไว้ได้ นอกจากนั้นเธอยังมีพวกอัศวินที่ได้รับบัพไปคอยสนับสนุนอยู่อีก เพราะงั้นผมจึงตัดสินใจรีบไปช่วยเด็กสาวคนนั้นก่อน

ผมพังหน้าต่างบานหนึ่งและรีบกระโดดเข้าไปในทันที และภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นคือ...เด็กสาวและ Minotaurus ตัวหนึ่ง

มือของเธอทั้งข้างสองถูกมืออันใหญ่โตข้างหนึ่งของ Minotaurus กำรวบเอาไว้ เสื้อผ้าของเธอถูกฉีกขาดจนเผยให้เห็นรูปร่างที่บอบบาง เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลผ่านเรียวขาขาวผ่องลงสู่พื้น Minotaurus ตัวนี้กำลังใช้เธอเป็นเครื่องมือในการสนองความใคร่

......!!

ชั่วพริบตานั้น ผมมองเห็นภาพของเด็กสาวคนนั้นซ้อนทับกับเด็กสาวญี่ปุ่นหลายคนที่ถูกพวก Goblin ข่มขืน ....ถึงเธอจะไม่ได้เป็นคนที่ผมรู้จัก........ถึงจะมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลกใบนี้.......ถึงมันจะเป็นแบบนั้น..........

ไม่ทันรู้ตัวผมก็พุ่งเข้าไปประชิด และเหวี่ยงค้อนในมือสุดแรงเข้าใส่ Minotaurus ที่ไร้การป้องกันตัวนั้น

Minotaurus ลอยกระเด็นทะลุผนังบ้านที่เป็นไม้ออกไปกระทบกำแพงด้านนอก มันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ถึงมันจะพยายามดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้

ผมเองก็ไม่คิดจะปล่อยให้มันได้มีชีวิตอยู่ต่อไป และเข้าไปจบชีวิตของมันลงอย่างรวดเร็วด้วยการฟาดค้อนเข้าทุบใส่หัวมันจนแหลก เลือดสีน้ำตาลเข้มกระเด็นเปรอะไปทั่วบริเวณ บางทีใบหน้าของผมในตอนนี้เองก็คงจะชุ่มไปด้วยเลือด

ขะ ขอบ คุณ ค่ะ

ผมเดินกลับเข้าไปหาเด็กสาวในบ้านหลังนั้น ถอดเสื้อแจ็คเก็ตขนกวางออกมาและใช้มันคลุมเด็กสาวเพื่อปกปิดร่างกายของเธอ ถึงแม้ใบหน้าของผมจะเต็มไปด้วยเลือดแต่เด็กสาวก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัว เธอพูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าและน้ำตา

จะปล่อยเธอเอาไว้ตรงนี้ก็ไม่ได้ด้วยสินะ

เนื่องจากผมยังต้องรีบไปช่วยไอโกะจังจึงไม่รอให้เด็กสาวตัดสินใจ

ผมเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิงและรีบวิ่งไปยังเป้าหมายต่อในทันที     

วะ ว้าย!!

เด็กสาวที่ถูกสัมผัสร่างกายโดยไม่ทันรู้ตัวนั้นแสดงอาการตกใจออกมาเล็กน้อย

ขอโทษด้วยนะแต่ผมกำลังรีบอยู่น่ะ

ค........ค่ะ

บางทีสิ่งที่เจ้าอากิโอะพูดมาเมื่อคืนอาจจะถูก บางทีการที่พวกเราถูกเรียกมายังโลกใบนี้นั้นอาจจะมีเหตุผล และบางทีเหตุผลนั้นอาจจะเพื่อเปลี่ยนแปลงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้......
 

7 ความคิดเห็น: