ตอนที่ 8 งานเลี้ยงดูตัว บทที่ 2


-- มุมมองของฟลอร่า --            
                                                        
ช่วงเช้าของวันที่ 17 เดือน 8 ศักราชเอลติซปีที่ 837

อุว๊า นี่มันดยอดไปเลยค่ะ!!! นั่งแล้วก้นจมลงไปเลย!! แค่ได้นั่งบนเจ้าโซฟาสุดหรูนี่ก็คุ้มกับการไปเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้แล้วนะคะเนี่ย!!

อากาศภายในนี้เย็นสบายจังเลยนะคะ สมกับที่เป็นพาหนะเวทมนต์

อ่ะ เอ่อ...ให้พวกเรานั่งบนพาหนะหรูหราแบบนี้ได้จริงๆเหรอคะ?

ถึงจะเคยได้ยินตำนานเรื่องเล่าของพวกท่านจอมเวทมากเยอะแล้วก็เถอะค่ะ แต่พอได้มาเห็นของจริงแล้ว ราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝันไปเลยนะคะ

เหล่าเด็กสาวชาวบ้านที่ได้ขึ้นมาบนพาหนะเวทมนต์ที่ชื่อว่ารถบัสเป็นครั้งแรกต่างแสดงความตื่นเต้นดีใจกันออกมา บ้างก็ไปกระโดดเล่นบนโซฟา บ้างก็กล้าๆกลัวและยืนมองดูเพื่อนๆอยู่ห่างๆ บางคนถึงขนาดคุกเข่าลงแล้วกราบลงกับพื้นด้วยความซาบซึ้ง

ซึ่งชั้นเองก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเธอเป็นอย่างดี เพราะสำหรับเด็กสาวชาวบ้านโดยทั่วไปแล้ว การจะได้สัมผัสกับข้าวขาวหรูหราอย่างโซฟาชั้นเลิศที่วางเรียงรายอยู่บนรถบัสคันนี้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนั้นก็ยังมีเจ้าอุปกรณ์เวทชื่อว่าเครื่องปรับอากาศที่แม้แต่พวกขุนนางเองยังยากจะหามาครอบครองได้อีก เรียกว่าทั้งชีวิตนี้แม้แต่เพียงในความฝันก็ยังไม่เคยคิดเลย

ดูเหมือนจะถูกใจกันสินะคะ เพียงแค่ได้ยินคำพูดพวกนี้ พวกท่านจอมเวทก็คงรู้สึกดีใจแล้ว เพราะงั้นก็เชิญเลือกที่นั่งกันตามสบายเลยนะคะ และหลังจากออกรถแล้ว ทางเราจะมีแจกอาหารว่างด้วยนะคะ

ชั้นพยายามพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองที่สุด เนื่องจากก่อนหน้านี้ชั้นไม่ค่อยได้มีโอกาสที่พูดคุยกับเด็กสาวสามัญชนอย่างพวกเธอยกเว้นแต่ในงานพิธีสำคัญๆ และในงานพิธีเหล่านั้นก็เป็นเพียงการพูดตามบทที่พวกขุนนางได้ทำการจัดเตรียมเอาไว้ให้เท่านั้น

เพาะงั้นในครั้งนี้จึงเรียกว่าเป็นครั้งแรกที่ชั้นได้คุยพูดแบบนี้กับเด็กสาวสามัญชนทั่วไปด้วยคำพูดที่ชั้นต้องการจะพูดออกมาด้วยใจจริง

อะ เอ่อ ไม่ทราบว่า.....อาหารว่าง คืออะไรหรือคะ?

กับคำพูดของชั้นนั้น เด็กสาวคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยท่าทางเป็นกังวล พวกชาวบ้านโดยปกติแล้วจะทานอาหารทั่วไปกันแค่เพียง 2-3 มื้อเท่านั้น จึงเป็นเรื่องปกติหากพวกเธอไม่รู้จัก และนี่ก็เป็นความผิดพลาดของชั้นที่เลือกใช้คำพูดไม่ดี

ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่าไปทำตัวบ้านนอกแบบนั้นสิจีเน็ตจัง อาหารว่างน่ะนะ มันก็คืออาหารหรูหราที่พวกขุนนางชอบทานกันในช่วงเวลาที่ว่างมากๆ และไม่มีอะไรให้ทำกันยังไงล่ะ!!

แต่ก่อนที่ชั้นจะได้ตอบคำถามของเธอออกไป เด็กสาวคนหนึ่งที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาก็ได้พูดออกมาเสียก่อน

งะ งั้นเหรอคะ...?

ก็คล้ายๆแบบนั้นนะคะ เพียงแต่ว่า.....อาหารว่างนั้นแม้จะไม่ใช่ตอนที่กำลังว่างอยู่ ก็สามารถทานได้นะคะ อย่างเช่นเวลาทำงานหนักๆเนี่ย หากได้ทานขนมหวานๆก็จะช่วยให้มีแรงทำงานได้มากขึ้น อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ

จากนั้นชั้นก็ได้อธิบายเรื่องต่างๆอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางในครั้งนี้ และในที่สุดพวกเวลน่าที่ไปแจกจ่ายอาหารให้กับผู้คนในหมู่บ้านก็กลับมา พวกเราจึงได้เริ่มออกเดินทางไปยังหมู่บ้านถัดไป

ในระหว่างทางไปยังหมู่บ้านถัดไป ชั้นก็เริ่มแจกจ่ายอาหารว่าง ซึ่งอาหารว่างในครั้งนี้ก็เป็นชิฟฟ่อนเค้กห่อด้วยกระดาษสวยงามและน้ำผลไม้ที่ถูกบรรจุอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการรับประทาน แม้พวกเราจะอยู่บนรถบัสก็จะไม่ทำให้สกปรกแต่อย่างใด

อุว๊า!! เจ้าชิฟฟ่อนเค้กนี่สุดยอดไปเลย ชั้นไม่เคยได้ทานอะไรอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย แถมมีตั้งหลายรสแหนะ!!

ชั้นไม่เคยเห็นน้ำผลไม้บรรจุกล่องแบบนี้มาก่อนเลยล่ะค่ะ สมแล้วที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจากอาณาจักรเวทมนต์ นี่พวกเราจะได้ไปอาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆสินะคะ?

เหล่าเด็กสาวต่างแสดงความประทับใจออกมาแตกต่างกัน และเมื่อได้เห็นพวกเธอมีความสุขกันขนาดนั้น ชั้นจึงนำอาหารว่างไปให้พวกเธอเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดูเหมือนในช่วงก่อนหน้านี้พวกเธอจะไม่ค่อยได้ทานอาหารมากนักเนื่องจากทางจักรวรรดิได้เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้ในสงคราม

เวลาผ่านไปพวกเราก็ไปถึงยังหมู่บ้านถัดไป ซึ่งชั้นก็ได้จัดเตรียมเอกสารและตามเวลน่าไปยังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนกับที่ทำกับหมู่บ้านก่อนหน้านี้

โดยในครั้งนี้พวกเราจะต้องไปรับตัวเด็กสาวจากทั้งหมด 6 หมู่บ้านที่อยู่ทางทิศใต้ของเมืองป้อมปราการมินิทาริส ดังนั้นแม้พาหนะเวทมนต์จะรวดเร็วแค่ไหน แต่ก็ยังเสียเวลาในการเดินทางรวมทั้งเวลาในจัดการเอกสารมากอยู่ดี

หลังจากรับตัวเด็กสาวจากทั้งหมด 6 หมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกลับไปยังเมืองป้อมปราการมินิทาริส ซึ่งในเวลานี้ก็เป็นช่วงสายมากแล้ว ดังนั้นกว่าจะไปถึงก็น่าจะเป็นเวลาประมาณใกล้ๆเที่ยง

หืมม!? เมรินกับอาเน็ตจัง……

ในระหว่างการเดินทาง เวลน่าได้พึมพำออกมา และรถบัสของพวกเราก็หยุดเคลื่อนที่ลง ดูเหมือนว่าจะมีคนจากกองอัศวินที่ 3 กำลังรอพวกเราอยู่ นอกจากนั้นแล้วรอบๆตัวของพวกเธอยังมีกลุ่มคนที่ดูคล้ายโจรป่าและเด็กสาวที่ดูท่าทางไม่ค่อยดีนักอีกจำนวนหนึ่ง

เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ หรือว่าพวกโจรป่าบุกโจมตี?

หลังจากรถบัสหยุดลง ชั้นก็หันไปถามพวกคนจากกองอัศวินผ่านทางหน้าต่างของรถบัส

ฟลอร่าซามะ!!? อ่ะ คือว่าพวกเราว่างก็เลยลองไปหาข้อมูลที่กิลด์นักผจญภัยน่ะค่ะ แล้วพอดีได้ข่าวว่ามีพวกโจรป่าจำนวนมากกำลังออกปล้นอยู่แถวนี้ เพราะงั้นพวกเราก็เลยรับเควสจับโจรป่ามาจัดการเองซะเลยค่ะ ฮะ ฮะ ฮะ

อัศวินสาวที่ชื่อเมรินตอบกลับมา ดูเหมือนว่าก่อนที่เธอจะเข้าร่วมกับกองอัศวินที่ 3 นั้น เธอและอาเน็ตจังจะทำงานเป็นนักผจญภัยด้วยกันมาก่อน

นี่คงจะขออนุญาตกันเรียบร้อยแล้วสินะคะ?

เวลน่าที่นั่งอยู่ข้างๆชั้นถามออกไป ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่กำลังว่างอยู่ แต่หากพวกเธอออกมาทำภารกิจนอกเมืองโดยไม่ขออนุญาตนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

นะ แน่นอนค่ะ!! พวกเราแจ้งท่านหัวหน้าสเตล่า แล้วก็ได้รับอนุญาตจากยูเมะซามะแล้วนะคะ!!

กับคำถามของเวลน่านั้น เมรินซังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไหร่

ท่านหญิงเวลน่าคะ บนรถบัสยังพอมีที่ว่างอยู่มั๊ยคะ พอดีพาหนะเวทมนต์ของพวกเรามีพื้นที่ไม่พอสำหรับขนย้าย กำลังเสริมที่เรียกไปก็ดูท่าจะใช้เวลาอีกนานพอดู เพราะงั้นถ้าเป็นไปได้ช่วยพาเด็กสาวที่ถูกพวกโจรลักพาตัวมากลับไปยังเมืองป้อมปราการมินิทาริสด้วยได้มั๊ยคะ?

อาเน็ตซังที่เห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาขวางและเปลี่ยนเรื่องในทันที ซึ่งจากที่เธอเล่าให้ฟังนั้น ดูเหมือนว่าเด็กสาว 4 คนนี้จะถูกพวกโจรป่าลักพาตัวมาจากเมืองป้อมปราการมินิทาริส และเนื่องจากสภาพจิตใจและร่างกายของพวกเธอดูไม่ดีนัก เพราะงั้นอาเน็ตซังจึงอยากจะให้พวกเราพาตัวพวกเธอกลับไปที่เมืองก่อน

เข้าใจแล้วค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ

หลังตอบรับคำข้อร้องของอาเน็ตซัง เวลน่าก็เดินไปพูดคุยกับเด็กสาวที่ด้านหลังเพื่อขอร้องให้พวกเธอช่วยแบ่งที่นั่งให้ ถึงแม้ภายนอกเธอจะดูโหดร้ายไปสักหน่อย แต่จริงๆแล้วเวลน่านั้นเป็นเด็กสาวที่อ่อนโยน เธอมักจะเป็นคนแรกๆที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน เมื่อวานชั้นยังได้เห็นเธอแอบนำขนมไปให้พวกเด็กกำพร้าที่โบสถ์เก่าอย่างลับๆอีกด้วย.....

ฟลอร่า เอ่อนี่อาจจะทำให้ลำบากสักหน่อย แต่คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก ยังไงก็ช่วยอดทนหน่อยนะคะ

เวลน่าพูดขึ้นพร้อมกับพาเด็กสาวสองคนขึ้นมานั่งข้างๆชั้น.....หืมม?

เอ่อ เวลน่า? นี่คงไม่ใช่ว่าจะยืนไปหรอกใช่มั๊ยคะ?

ชั้นถามออกไปด้วยความสับสน เพราะเวลน่าได้เสียสละที่นั่งของตัวให้กับเด็กสาวทั้งสองคนมานั่งเบียดกัน.....แล้วนี่เธอคิดจะยืนไปอย่างงั้นเหรอ ?

อย่าเข้าใจผิดไปนะคะ ชั้นน่ะก็แค่อยากจะยืนชมวิวเท่านั้น ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลยนะคะ!! แล้วอีกอย่างชั้นก็ได้ผ่านหลักสูตรฝึกยืนบนพาหนะเวทมนต์มาแล้วหลายรุ่นด้วยนะคะ!!

เวลน่า....

พอเห็นเธอเป็นแบบนี้ก็ทำให้ชั้นอดยิ้มออกมาไม่ได้ คงจะเป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ตัวเธอได้รับทั้งความรักและเคารพจากพวกเมดจนในที่สุดเธอก็ได้รับการยอมรับให้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยเมดติดอาวุธภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน

ถ้าหากเป็นในจักรวรรดิเอลติซล่ะก็ การที่ตัวเธอซึ่งเป็นถึงท่านหญิงชั้นสูงแต่กลับได้รับทั้งความรักและเคารพที่มากมายจากพวกเมดซึ่งเป็นข้ารับใช้นั้นคงจะเป็นเรื่องที่แปลกมาก แน่นอนว่าแม้ตัวชั้นเองก็รู้สึกว่าเวลน่านั้นเป็นคนที่น่ายกย่องมากเช่นเดียวกัน

เวลน่านั้นเป็นทั้งหัวหน้าหน่วยเมดติดอาวุธที่ 13 ที่ได้รับความเชื่อใจอย่างสูงจากพวกท่านจอมเวทและบรรดาลูกน้อง และเธอยังเป็นถึงเมดระดับแซฟไฟร์ ซึ่งถือว่าเป็นเมดที่มีความสามารถในระดับแนวหน้าแห่งอาณาจักรเวทมนต์

กับตัวเธอที่เป็นแบบนี้ทำให้ชั้นรู้สึกชื่นชม ตัวชั้นเองสักวันหนึ่งก็อยากจะเป็นเหมือนกับเธอ เพราะงั้นหลังจากนี้ชั้นคงจะต้องพยายามให้มาก และในเมื่อตัดสินใจได้แล้วชั้นก็จะเริ่มต้นจากเรื่องนี้ก่อนเลย....

ถ้างั้นชั้นเองก็จะขอยืนชมวิวบ้างนะคะ!!!

เด๋วสิคะ มันอันตรายนะคะ ฟลอร่ายังไม่ได้ผ่านการฝึกมาด้วย......

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงจะเห็นแบบนี้แต่ชั้นก็เคยฝึกอาวุธสำหรับป้องกันตัวมาด้วยนะคะ

ชั้นพูดออกไปด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าการยืนบนเจ้าพาหนะเวทมนต์ที่ชื่อว่ารถบัสคันนี้จะเป็นเรื่องที่ลำบากแสนสาหัส.....

ฮ่า............ฮ่า............!!??!!??

หลังจากมาถึงยังเมืองป้อมปราการมินิทาริส ชั้นที่พยายามอดทนยืนมาตลอดทางก็ได้ทรุดลงไปกับพื้น....ดูเหมือนชั้นจะเกิดอาการป่วยที่เรียกว่าเมารถ.....

ไม่นึกเลยจริงๆว่าเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าชั้นอย่างเวลน่าจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว...ดูเหมือนว่าชั้นคงจะเข้าใจอะไรผิดไป...มันไม่ใช่เพียงแค่ความอ่อนโยนเท่านั้นที่ทำให้เธอได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าหน่วย เพราะการที่เธอไม่เป็นอะไรเลยแบบนี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าเธอนั้นผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก.....

ก็บอกแล้วว่ามันอันตราย ไม่คิดจะเชื่อกันเลย.....ยังไงก็ลองดื่มน้ำผลไม้นี่ดูก่อนนะคะ...คิดว่าน่าจะช่วยให้หายได้เร็วขึ้น

หลังจากดื่มน้ำผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆเข้าไป ชั้นก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นอาการเวียนของชั้นก็ยังคงไม่หมดไป แต่แล้วในตอนนั้นเอง....

วะ ว๊า ว๊า หยุดสิ หยุดซี่ หยุดสิเกรดี้คุงงงงง!!!!!

ชั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูคุ้นเคย จากนั้นก็ได้ยินเสียงตูมมม!!!ขึ้นมาจากบริเวณใกล้ๆ ด้วยเสียงอันดังที่เกิดขึ้นทำให้ชั้น เวลน่า และเหล่าเด็กสาวมากมายที่พวกเราพามาจากหมู่บ้านต่างก็พากันหันไปมอง

และภาพที่ชั้นได้เห็นหลังจากหันไปมองก็คืออัศวินสาวผมสีเขียวน้ำทะเลคนหนึ่งในสภาพที่ไม่น่าดูนัก ร่างกายท่อนบนของเธอจมลงไปอยู่ในดิน กระโปรงของเธอถูกจะงอยปากของนกเกรูโด้ที่ชื่อว่าเกรดี้คุงคาบเอาไว้ และนั่นก็ทำให้กางเกงชั้นในลายทางสีขาวเขียวโผล่ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

เห้อ......ยัยอัศวินซุ่มซ่ามนี่เอาอีกแล้วสินะ.....

เวลน่าพูดออกมาด้วยสีน่าเบื่อหน่ายพักหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปหาโรน่าและช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้นมา

ท่านรองโรน่า!! เป็นอะไรมากมั๊ยคะ

สมกับเป็นท่านรองโรน่ากางเกงชั้นในยี่ห้อดังเลยนะคะเนี่ย

ไอเชียแบรนด์สินะคะ สุดยอดไปเลยล่ะค่ะ

วันนี้ร่วงลงมารอบที่ 8 แล้วนะคะเนี่ย แบบนี้ถึงเวลาจริงๆจะไหวเหรอคะ

เกรดี้คุงเองก็พยายามได้ดีมากเลยนะจ๊ะ

การฝึกของยูเมะซามะช่วงหลังมานี่ ไม่มีปราณีเลยนะคะเนี่ย

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเด็กสาวจากกองอัศวินที่ 3 ลูกน้องของโรน่าก็บินลงมาจากบนฟ้าด้วยนกเกรูโด้ พวกเธอต่างพากันเข้าไปดูอาการของโรน่าด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน

จากที่ชั้นทราบมา ดูเหมือนพวกเธอกำลังอยู่ในระหว่างฝึกฝนการจัดขนวบรบกลางอากาศ แต่ไม่ว่าจะฝึกฝนมากสักแค่ไหน โรน่าก็ยังดูจะไม่ค่อยชินกับการต่อสู้บนฟ้านักจึงทำให้การบังคับผิดพลาดและเสียหลักตกลงมาอยู่บ่อยครั้ง

ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรมากนะคะ แต่ต่อให้กระดูกหักหรือบาดเจ็บแค่ไหน ยูเมะซามะก็คงจะช่วยรักษาให้อยู่ดี เพราะงั้นแหละค่ะฟลอร่า ไม่ต้องไปเป็นห่วงยัยอัศวินซุ่มซ่ามแล้วดูแลตัวเองให้ดีก่อนดีกว่านะคะ

ถึงแม้ชั้นอยากจะเข้าไปดูโรน่า แต่ตัวชั้นในตอนนี้ก็ยังเดินไม่ค่อยไหว

เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

หลังจากพักกันครู่หนึ่งจนชั้นและพวกเด็กสาวชาวบ้านทั้งหมดที่พวกเราได้พามารู้สึกดีขึ้นแล้ว พวกเราก็นำทางพวกเธอไปยังที่พัก ซึ่งเป็นอาคารสูง 4 ชั้นที่ได้สร้างขึ้นมาจากเวทมนต์หิน ซึ่งตัวอาคารนั้นได้มีการออกแบบและยังมีการลงสีสันอย่างสวยงาม

อุว๊า นี่พวกเราจะได้พักกันที่นี่เหรอคะเนี่ย สุดยอดไปเลยค่ะ!!

จะว่าไปแล้ว ที่นี่ใช่เมืองป้อมปราการมินิทาริสจริงๆเหรอคะ? เท่าที่เคยมา ชั้นจำได้ว่าเมืองมันไม่ใช่แบบนี้นี่นา.....

สวนดอกไม้นี่ก็สุดยอดไปล่ะค่ะ!! มีการตัดแต่งต้นไม้ให้เป็นรูปสัตว์ด้วย นี่ใช้อะไรในการตัดแต่งต้นไม้กันเหรอคะเนี่ย

ไม่ใช่แค่ที่พัก แต่อาคารทั้งหมดที่นี่มันไม่เหมือนกับที่ชั้นเคยเห็นในเมืองอื่นๆเลยด้วยนะคะ

บรรดาเด็กสาวต่างแสดงความประทับใจออกมาแตกต่างกัน ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วที่พวกเธอจะแปลกใจ นั่นก็เพราะว่าอาคารเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยเวทมนต์อย่างสวยงามแตกต่างจากอาคารบ้านเรือนโดยปกติทั่วไป แถมพื้นที่ส่วนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองป้อมปราการมินิทาริสของเดิมอีกด้วย

เอาล่ะฟลอร่า เรื่องจัดการลงทะเบียนเข้าพักคงต้องฝากด้วยนะคะ ชั้นคงต้องไปหาเจ้านั่น......ไปรายงานความคืบหน้าของงานเลี้ยงดูตัวในครั้งนี้ให้กับทัตสึยะซามะนะค่ะ

หลังพูดจบเวลน่าก็เดินจากไปยังอาคารที่พักหรูหราอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมการรายงานความคืบหน้าของงานในครั้งนี้จึงได้ใช้เวลามากนัก ไม่สิบางทีชั้นอาจจะคิดอะไรง่ายเกินไป การรายงานของเมดระดับหัวหน้าอย่างเธอบางทีคงจะต้องมีรายละเอียดอะไรค่อนข้างเยอะสินะ

แต่แล้วความคิดของชั้นก็ได้พังทลายลงหลังจากได้เจอกับเวลน่าอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปร่วม 2 ชั่วโมง นั่นก็เพราะผิวพรรณของเธอดูเปล่งปลั่งแตกต่างจากตอนไป นอกจากนั้นแล้วทรงผมและเสื้อผ้าเองก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง กลิ่นหอมๆที่ออกมาจากร่างกายและผมของเธอเองก็ด้วย....

นี่หรือว่า......เธอจะไปทำไอ้อย่างว่ากับทัตสึยะซามะมา...แม้แต่ในเวลากลางวันเองก็ยังทำเรื่องแบบนั้นกันด้วยเหรอเนี่ย......เพียงแค่คิดถึงใบหน้าของทัตสึยะซามะเวลาทำเรื่องแบบนั้น.....ชั้นก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว.....

2 ความคิดเห็น:

  1. เอ่อ ท่านมายูมิครับ เมื่อตอนที่แล้วเห็นท่านเอ่ยถึงว่าเวลน่าเป็นเมดระดับแซฟไฟร์ คือจัดลำดับกันตั้งแต่เมื่อไรครับนั่น แล้วมีระดับอะไรบ้างเหรอครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตรงส่วนนี้จะอธิบายหลังจากที่ฟลอร่ากลับไปถึงคฤหาสน์แล้วนะครับ
      โดยระดับของเมดมีมีทั้งหมด 7 ระดับครับ

      ลบ