Spoil Christina Gensouki Vol.12

ย้อนกลับไปในตอนที่คริสติน่ายังเป็นเจ้าหญิงโลลิแสนน่ารัก

คริสติน่า เบลทรัม นั้นเป็นตัวตนที่พิเศษ เธอนั้นเป็นเจ้าหญิงอันดับที่ 1 และยังเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์อันดับที่ 1 ของประเทศขนาดใหญ่ คริสติน่าเป็นเจ้าหญิงผู้ที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องของการใช้เวทมนต์ เธอก็ล้วนแล้วแต่ทำได้ดีกว่าใคร ผู้คนรอบข้างต่างก็ยกย่องเธอให้เป็นถึงอัจฉริยะ

และถึงแม้เธอจะถูกยกย่องมากมายถึงขนาดนั้น แต่คริสติน่าก็ยังได้พยายามอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง เธอพยายามศึกษาเรียนรู้ในทุกด้านโดยไม่เคยหยุด และนั่นก็ทำให้เธอได้รับการชื่นชมจากพ่อแม่และได้รับความเคารพรักจากน้องสาว

คริสติน่านั้นได้ตั้งใจที่จะเป็นลูกที่น่าภาคภูมิใจของพ่อแม่ และเป็นพี่สาวที่พึ่งพาได้สำหรับน้องสาว เธอจึงได้พยายามมากกว่าใครๆ และความพยายามอย่างหนักตลอดทุกวันของเธอนั้นก็ได้แสดงผลออกมาอย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะอะไรเธอก็ล้วนทำได้ดี ไม่ว่าจะทำอะไรเธอล้วนแล้วแต่ได้รับคำชมอยู่เสมอ แต่ก็คงจะเป็นเพราะเหตุนั้นเองที่ทำให้คริสติน่านั้นคิดว่าตัวตนของเธอนั้นพิเศษกว่าใคร เธอนั้นรู้สึกภูมิใจที่ตัวเธอนั้นอยู่เหนือกว่าผู้อื่นทั้งหมด

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น คริสติน่าก็ยังไม่เคยคิดว่าฟลอร่าผู้เป็นน้องสาวที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ด้อยกว่าเธอนั้นเป็นพวกโง่เขลา คริสติน่านั้นรักฟลอร่าน้องสาวแสนน่ารักของเธอเป็นอย่างมาก และนั่นจึงทำให้คริสติน่ารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากเมื่อเธอได้รับรู้ว่าฟลอร่านั้นถูกลักพาตัวไป คริสติน่าจึงได้รีบออกไปตามหาน้องสาวอย่างลับๆพร้อมกับเซเรียและวาเนซซ่า

และในวันนั้น คริสติน่าก็ได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งในสลัม เด็กหนุ่มผู้มีกลิ่นเหม็นไปทั้งตัว เขานั้นสวมใส่เสื้อผ้าเก่าที่ขาดลุ่ยเลอะเทอะ เด็กหนุ่มที่แตกต่างกับเธออย่างสิ้นเชิงนั้นทำให้คริสติน่าได้รับรู้ถึงโลกภายนอกเป็นครั้งแรก ในโลกใบนี้มีเด็กแบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ

แต่เนื่องจากคริสติน่ากำลังกังวลและหงุดหงิดอย่างมาก เพราะเรื่องที่น้องสาวถูกลักพาตัว เธอจึงได้พูดจาไม่ดีกับเด็กคนนั้น และสุดท้ายก็จากกันไปเพราะเด็กหนุ่มบอกว่าไม่เห็นน้องสาวของเธอ

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ภาพของเด็กหนุ่มที่กำลังอุ้มน้องสาวของเธอในสภาพไร้สตินั้นทำให้คริสติน่าโกรธจนถึงขีดสุด ดังนั้นถึงแม้เด็กหนุ่มจะพยายามบ่ายเบี่ยงแบบหน้าด้านๆ แต่เธอก็ไม่คิดจะเชื่ออย่างแน่นอน

คริสติน่าที่ไม่อาจจะอดทนไหวจึงได้ตบหน้าเค้าด้วยความหึงหวงอย่างแรงไป.....

(เพราะคริสติน่าเองก็อยากจะเป็นฝ่ายถูกเด็กคนนั้นอุ้มบ้างแท้ๆ แต่เค้ากลับปฏิเสธและไปอุ้มน้องสาวของเธอแทน เธอก็เลยหึงและตบเข้าให้นั่นเอง)

แค่ครั้งเดียวนั้นยังไม่พอ คริสติน่าคิดจะตบเด็กหนุ่มซ้ำไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เด็กหนุ่มได้จับข้อมือของเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน สายตาที่จ้องมองแต่เธอเพียงคนเดียวของเด็กหนุ่มทำให้คริสติน่าหลงใหลจนไม่อาจจะตบเค้าซ้ำได้ลง

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คริสติน่าได้ถูกจับข้อมือและถูกหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คริสติน่าถูกจ้องมองด้วยแววตาที่ไม่ได้แสดงอาการชื่นชม

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คริสติน่ารู้สึกหวาดกลัวและเจ็บปวดไปจนถึงขั้วหัวใจ

เด็กสาวที่ชื่อว่าคริสติน่านั้นได้เปลี่ยนแปลงไปในวันนั้น ตัวเธอที่พิเศษกว่าคนอื่น ตัวเธอนั้นอยู่เหนือผู้อื่นทั้งหมด ทุกคนที่ได้พบเธอนั้นควรจะต้องแสดงความเคารพเทิดทูนเธอ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นความคิดที่ผิด ตัวตนของเธอนั้นความจริงแล้วไม่ได้พิเศษหรือแตกต่างจากคนอื่นเลย

คริสติน่ารู้สึกเจ็บปวด ศักดิ์ศรีของเธอถูกทำลายลงไปทั้งหมด เธอก็แค่ฐานะดีกว่าคนอื่นเพียงเพราะได้เกิดมาเป็นเจ้าหญิงเพียงเท่านั้น ความสามารถทุกอย่างที่เธอเคยคิดว่าเป็นอัจฉริยะนั้น แท้จริงแล้วก็แค่อยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยเพียงเล็กน้อย เธอไม่อาจจะเอาชนะผู้คนที่เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงได้

คริสติน่าไม่อาจจะเอาชนะเซเรียในทางเวทมนต์ได้ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถคิดค้นเวทมนต์ที่เหนือกว่าเซเรียในช่วงอายุเท่ากันได้

คริสติน่าไม่อาจจะเอาชนะเด็กหนุ่มจากสลัมในด้านการศึกษาเรียนรู้ได้ เด็กหนุ่มที่เริ่มต้นจากการอ่านตัวอักษรยังไม่ได้นั้น เพียงเข้าเรียนไม่นานก็ได้รับผลการเรียนระดับท็อป เธอนั้นไม่อาจจะเอาชนะเค้าได้

คริสติน่าที่เริ่มรู้สึกหลงใหลในตัวตนของเด็กหนุ่มจากสลัมได้ติดตามไปแอบดูเค้าอยู่เสมอเด็กหนุ่มคนนั้นมักจะฝึกฝนทักษะดาบอยู่เพียงลำพัง การลงดาบแต่ละครั้งของเค้านั้นช่างงดงามและน่าหลงใหล ไม่ว่าเธอจะได้เห็นสักกี่ครั้ง คริสติน่าก็ไม่อาจะละสายตาไปจากเด็กหนุ่มได้

เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเธอนั้นคงจะต้องเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงอย่างแน่นอน และเมื่อเวลาผ่านไปคริสติน่าก็ได้ยอมรับตัวตนของเค้าเข้ามาในหัวใจของเธอ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ระยะห่างของทั้งคนก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลง

นั่นก็เพราะคริสติน่าไม่รู้ว่าความรู้สึกในหัวใจของเธอคืออะไร และเธอก็ไม่รู้ว่าควรจะเข้าหาเค้าด้วยวิธีไหน และบางทีเด็กคนนั้นเองก็คงไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเธออีกแล้วก็ได้

(เพราะตอนนั้นดันหึงเค้ารุนแรงไปหน่อย คริสติน่าก็เลยกลัวว่าการเข้าไปคุยด้วยจะทำให้อะไรแย่กว่าเดิมนั่นเอง)

นอกจากนั้นแล้วตัวเธอก็ยังมีฐานะเป็นถึงเจ้าหญิงอันดับที่ 1 และเจ้าหญิงนั้นก็ไม่ควรไปจะเข้าไปขอโทษสามัญชน เธอจำเป็นจะต้องคิดทบทวนถึงบทบาทของคนในราชวงศ์และประเทศอยู่เสมอ ดังนั้นถึงแม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าเรื่องนี้เธอเป็นฝ่ายผิด แต่คริสติน่าก็ไม่อาจที่จะแก้ไขมันได้

และความรู้สึกผิดของเธอนั้นก็ไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น คริสติน่ารู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเมื่อได้เห็นเด็กหนุ่มคนนั้นต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เธอเจ็บปวดทุกครั้งที่เด็กหนุ่มคนนั้นถูกกลั่นแกล้ง คริสติน่ารู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาที่ไม่อาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเค้าได้

ทำไมตัวเธอที่เป็นเจ้าหญิงนั้นถึงได้ไร้พลังนัก เพียงแค่เด็กหนุ่มคนเดียวเธอก็ไม่อาจจะช่วยปกป้องเค้าได้ และสุดท้ายเด็กหนุ่มคนนั้นก็ยังได้ถูกใส่ร้ายและทำให้กลายเป็นแพะรับบาป เด็กหนุ่มที่เธอรักนั้นได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลฐานอำนาจของขุนนาง

เด็กหนุ่มที่เข้าไปช่วยปกป้องน้องสาวของเธอโดยไม่สนใจชีวิตของตัวเอง เด็กหนุ่มคนแรกและคนเดียวที่เธอรักนั้นได้ถูกใส่ร้าย คริสติน่ารู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่คิดถึงเค้าเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดอย่างที่สุด

เพราะงั้นเธอจึงได้พยายามที่จะลืมเค้า ในเมื่อพวกเราทั้งสองคนนั้นไม่อาจจะลงเอยด้วยกันได้ ในเมื่อเป็นแบบนั้นเธอจึงเลือกที่จะปล่อยเด็กหนุ่มไปตามทางของเค้า เธอตัดสินใจที่จะไม่พบกับเค้าอีก.....

จนกระทั่งวันนี้ วันที่เด็กหนุ่มคนนั้นได้กลับมาอยู่ต่อหน้าเธอ....ริโอะเด็กหนุ่มในความทรงจำได้กลับมาหาและยังได้ปกป้องชีวิตของเธอเอาไว้อีกครั้ง.....

ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากที่เรสได้หนีจากไปในป่า ฮารุโตะก็ได้สั่งให้ทุกคนรีบออกเดินทางในทันทีเพราะกลัวจะถูกพวกอัศวินตามมาทัน ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่เค้านำมาข้ออ้างเพราะเค้ายังไม่อยากจะพูดถึงเรื่องในอดีตกับคริสติน่า

คริสติน่าที่ได้จ้องมองแผ่นหลังของฮารุโตะด้วยความคิดถึงนั้นเข้าใจดี เธอไม่อาจจะพูดคุยกับเค้าในเวลาที่อันตรายแบบนี้ได้

ระหว่างนั้นฮารุโตะจะฝากไอเชียให้คอยดูแลปกป้องมิฮารุกับลาทีฟา จากนั้นเมื่อเดินมาสักพัก ฮารุโตะจะบอกว่าพวกเรากระโดดไปตามต้นไม้น่าจะดีกว่าเพราะจะได้ไม่หลงเหลือรอยเท้า ทำให้ติดตามมาได้ยากด้วย

และเพราะทุกคนจะงงว่าจะกระโดดไปตามต้นไม้ได้ยังไง ฮารุโตะจึงบอกว่าเค้าจะอุ้มไปเอง.....โดยฮารุโตะนั้นจะอุ้มสองหนุ่มผู้ติดร่างแหจากต่างโลก อัลม่าจะอุ้มเซเรีย ซาร่าจะอุ้มวาเนซซ่า ออเฟียจะอุ้มเจ้าหญิงคริสติน่าสุดสวย

(ความจริงแล้วฮารุโตะคงอยากจะอุ้มสองสาวอย่างคริสติน่ากับเซเรียแน่ๆ แต่พอเห็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักอันร้อนแรงของคริสติน่าก็เลยเขิน เพราะงั้นสุดท้ายก็เลยหนีไปอุ้มตัวผู้สองตัวแทน......)

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่อออกห่างจากจุดเกิดเหตุไปแล้วพอสมควร ฮารุโตะก็จะบอกให้หยุดแล้วก็จะแนะนำตัวพวกซาร่าให้กับเจ้าหญิงคริสติน่า นอกจากนั้นแล้วไอ้สองหนุ่มผู้ติดร่างแหซึ่งก็คือเรย์และโคตะก็จะแนะนำตัวด้วย โดยสองหนุ่มจะถามความสัมพันธ์ของพวกสาวๆกับฮารุโตะและก็ชมพวกเธอด้วย

จากนั้นฮารุโตะก็จะขออนุญาตคริสติน่าเพื่อบอกรายละเอียดสถาการณ์ คริสติน่าที่โดนฮารุโตะถามกะทันหันก็รีบตอบรับกลับไปด้วยท่าทางเขินแบบน่ารักสุดๆ

โดยหลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว พวกซาร่าก็จะเสนอตัวช่วยคุ้มกันไปด้วย ฮารุโตะก็จะขอบคุณทุกคน เพราะด้วยกำลังฮารุโตะคนเดียวเค้าไม่มั่นใจว่า จะสามารถปกป้องคริสติน่ารวมถึงพวกตัวแถมทุกๆคนได้อย่างไร้บาดแผล

เมื่อเห็นดังนั้นซาร่าจะงอนฮารุโตะแล้วบอกว่าเย็นชากับพวกเธอจัง โดยกับเซเรียทีก้มหัวขอบคุณเองก็จะโดนบอกว่าเย็นชาเช่นเดียวกัน ส่วนคริสติน่านั้นจะยอมรับพวกสาวๆทุกคนด้วยรอยยิ้มแสนสง่างาม

จากนั้นก็จะปรึกษาเรื่องแผนการกัน โดยจะเปลี่ยนแผนใช้เส้นทางอ้อมไกลไปถึงยังอาณาจักรกัลอาคเพื่อขอให้รีเซล็อตเต้ช่วยเหลือแทน โดยฮารุโตะนั้นให้เหตุผลว่าพวกทหารของเบลทรัมจะไม่สามารถข้ามชายแดนได้

(ความจริงคือฮารุโตะแค่อยากจะไปหารีเซล็อตเต้ล่ะมั้งเนี่ย หึหึ)

ส่วนคริสติน่าที่ได้ยินชื่อรีเซล็อตเต้ก็รีบตอบตกลงในแผนการนี้ด้วยรอยยิ้มสุดแสนงดงามที่ไม่ว่าจะเป็นแมวตัวไหนก็ต้องหยุดนิ่งและหันมามองในทันที เพราะสำหรับคริสติน่าแล้วนั้น รีเซล็อตเต้ถือเป็นหนึ่งในขุนนางที่ไว้ใจได้มาก

จากนั้นฮารุโตะก็จะบอกเรื่องที่ผู้กล้ารุย และอัลเฟรดกำลังติดตามมาด้วย และเมื่อสองหน่อที่ได้ยินชื่อรุยก็จะเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาในทันที จากนั้นก็จะมีการคุยกันในเรื่องของเรสที่หมายจะสังหารคริสติน่า โดยฮารุโตะจะบอกเรื่องที่เรสนั้นเกี่ยวข้องกับทหารรับจ้างลูชิอุส ซึ่งเป็นคนลักพาตัวฟลอร่าในเหตุการณ์โจมตีเมืองอามันดะ

วาเนซซ่าจะโกรธมากเมื่อได้รับรู้ถึงรายละเอียดการลักพาตัวฟลอร่า แต่คริสติน่านั้นถึงแม้เธอจะรู้สึกแย่และยังเป็นห่วงน้องสาวสุดๆ แต่เธอยังคงความงดงามเอาไว้ได้ไม่เปลี่ยนแปลง และพอคุยกันจบก็จะเริ่มออกเดินทางกันต่อด้วยความรวดเร็ว

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ชาร์ลูและอัลเฟรดจะมาถึงยังจุดที่เกิดการต่อสู้

รุยกับอัลเฟรดจะชื่นชมความสามารถในการต่อสู้ของฮารุโตะ ส่วนชาร์ลูจะบอกว่ามันก็แค่กากๆ ที่เขาแพ้เพราะมันฟลุคเฉยๆ หลังจานั้นชาร์ลูก็จะออกคำสั่งให้ปิดกั้นถนนทุกสายที่จะไปยังโรดาเนีย พูดง่ายๆก็คือถูกแผนการใช้เส้นทางอ้อมโลกของฮารุโตะหลอกไปเต็มๆ

ตัดกลับมาที่พวกฮารุโตะที่ได้วิ่งเสริมพลังต่อเนื่องบนต้นไม้ยาวนานติดกันตลอดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงโดยไม่มีหยุดพักเลย และถึงแม้จะไม่มีปัญหา แต่ฮารุโตะก็กลัวจะถูกคริสติน่าสงสัยถึงพลังที่มากเกินไป ก็เลยแกล้งเป็นเหนื่อยและให้ทุกคนเดินเท้าต่อไปกันแทน ความจริงแค่วิ่งเสริมพลังติดกันเป็นชั่วโมงก็เกินกว่ามนุษย์ทำได้แล้ว ฮารุโตะจะพยายามเนียนกลบเกลื่อนว่าเพราะสาวๆทุกคนเมพยังไงล่ะ

วาเนซซ่าจะยอมรับและชื่นชมในความสามารถของพวกซาร่าว่าสมแล้วที่พวกเธอนั้นเป็นผู้ถือครองอาวุธเวทโบราณ หลังจากนั้นฮารุโตะก็จะพยายามล่อลวงให้พวกสาวๆไปอาบน้ำ เพราะว่าวิ่งกันมาตลอดทางพวกเธอก็เลยแฉะกันหมดแล้ว

และเมื่อพวกซาร่าก็จะเปลือยกายลงไปอาบน้ำกัน เซเรียและคริสติน่าจะตามไปพูดคุยกับพวกเธอทั้งสามคนด้วย คริสติน่าบอกว่าเธอจะตอบแทนทั้งสามคนเมื่อไปถึงโรดาเนีย แต่สามสาวกลับบอกว่าไม่เป็นอะไร เพราะพวกเธอแค่ช่วยฮารุโตะ

คริสติน่าที่อาศัยอยู่ในปราสาทนั้นไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย เพราะปกติแล้วรอบตัวเธอนั้นจะมีแต่พวกขุนนางโลภมากกันทั้งนั้น ความรู้สึกของสาวๆทั้งสามนั้นแตกต่างจากความรักของครอบครัว และยังแตกต่างจากความจงรักภักดีที่มีต่อผู้เป็นเจ้านาย มันเป็นความรู้สึกรักที่พวกเธอมีต่อฮารุโตะอย่างบริสุทธิ์ใจ

คริสติน่าจะกล่าวชื่นชมฮารุโตะว่าเป็นชายหนุ่มที่สุดยอดมาก เพราะฮารุโตะสามารถที่จะทำให้พวกซาร่าทั้งสามหลงรักได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งนั่นก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะว่าตัวคริสตน่าเองก็เป็นเช่นเดียวกัน ฮารุโตะนั้นเป็นเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่เธอเคยหลงรัก

แต่ถึงแม้คริสติน่าจะเข้าใจถึงความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของสามสาว คริสติน่าก็ยังได้ขอแสดงความขอบคุณทั้งสามสาวออกไปจากใจจริง จากนั้นพวกซาร่าก็จะช่วยกันล่อลวงให้คริสติน่าอาบน้ำด้วยกันกับพวกเธอ และเนื่องจากคริสติน่าไม่ได้อาบน้ำมานานแล้วก็เลยทนไม่ไหวแล้ว

ดังนั้นถึงแม้มันจะค่อนข้างน่าอายที่ต้องมาเปลือยกายต่อหน้าทุกคน แต่โอกาสที่จะได้มาอาบน้ำร่วมกับเด็กสาวอายุเท่ากันแบบนี้ก็ไม่ง่าย เพราะงั้นคริสติน่าจึงค่อยๆเปลื้องผ้าออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนไหนคริสติน่าก็ยังต้องคงความสง่างามเอาไว้ รูปร่างงดงามโค้งเว้ากำลังดีสมส่วน ผิวกายที่ขาวเนียนหนุ่มงดงามน่าสัมผัส ภาพที่ราวกับเป็นผลงานศิลป์นั้นแม้แต่พวกสาวๆด้วยกันเองก็ยังต้องหลงใหล ส่วนเซเรียนั้นถึงแม้จะรู้สึกอายแต่เธอก็ไม่อยากสูญเสียความนิยม เพราะงั้นเธอจึงรีบถอดเสื้อผ้าเพื่อตามคริสติน่าไปอาบน้ำด้วย

(ซึ่งมันก็เป็นไปตามแผนของฮารุโตะ สาวๆทุกคนเปลือยหมดแล้ว หึหึ)

ตัดมาที่สองหนุ่มผู้ติดร่างแห เรย์กับโคตะ

ในเวลาเดียวกันกับที่ฮารุโตะได้แอบเนียนบอกว่าจะออกไปตรวจสอบรอบๆแต่จริงๆแล้วกำลังไปแอบดูคริสติน่าเปลือยกายอาบน้ำอย่างสบายใจอยู่นั้น

เรย์กำลังจินตนาการถึงภาพของเหล่าสาวสวยที่กำลังอาบน้ำ โคตะก็จะถกเถียงเรื่องของพวกสาวที่กำลังอาบน้ำอยู่ เรย์จะอยากไปอาบน้ำอย่างสนุกสนานพร้อมกันกับพวกสาวๆด้วย และบอกว่าโคตะนั้นไม่เข้าใจถึงความโรแมนซ์ของผู้ชายเลย

แล้วก็เพราะโคตะเอาแต่ปฏิเสธความเป็นจริง เรย์จึงได้แซวกันว่า ถ้าอากาเนะอยู่ตรงนั้นล่ะก็ โคตะจะคิดยังไงล่ะ โคตะที่ได้ยินชื่ออากาเนะก็ลองจินตนาการและหน้าแดงออกมา

โดยสำหรับอากาเนะนั้นเธอเป็นเพื่อนสาวมัธยมปลายที่ถูกอัญเชิญมาพร้อมกันกับรุยและทั้งสองคน ซึ่งก็เนื่องจากอากาเนะนั้นชอบรุยมาก ทำให้เรย์กับโคตะไม่สามารถที่จะ อดทนมองดูสาวที่ตัวเองชอบไปสวีทกับรุยได้ไหวก็เลยหนีออกมานั่นเอง

ในตอนนั้นเองที่ฮารุโตะซึ่งแอบดูคริสติน่าอาบน้ำจนพอใจแล้วโผล่ออกมาและก็จะคุยกันเรื่องการเรียนภาษาต่างโลกของทั้งสองคน โดยทั้งสองคนจะบอกว่ารุยช่วยเป็นล่ามคอยแปลภาษาให้กับทุกคน

จากนั้นทั้งสองก็จะถามฮารุโตะเรื่องชื่อที่เหมือนกันกับคนญี่ปุ่น ฮารุโตะก็เลยอธิบายเรื่องประเทศบ้านเกิดที่อยู่ทวีปยาคุโมะ ทั้งสองจะบอกเรื่องที่ไม่อยากอยู่ในปราสาทต่อนั้นก็เพราะรุย แทนที่จะอยู่กับไอ้หล่อแบบรุยอย่างโคตรจะไร้อนาคตสิ้นดี สู้ติดตามเจ้าหญิงคริสติน่าผู้ที่งดงามที่สุดในทวีปไปยังดีเสียกว่า โดยหลังจากที่ทุกคนนั้นสามารถหนีไปได้จนถึงโรดาเนียแล้ว ทั้งสองจะได้ขอให้คริสติน่าช่วยแนะนำลูกสาวขุนนางน่ารักๆให้ด้วย

จากนั้นพวกสาวที่อาบน้ำเสร็จก็จะกลับมาด้วยสภาพสุดเย้ายวน พวกเธอบอกให้พวกหนุ่มๆไปอาบน้ำกันต่อได้แล้ว เรย์จะดีใจมากที่จะได้อาบน้ำอุ่นที่เหลือต่อจากคริสติน่า คริสติน่าและพวกสาวๆจึงมองเรย์ด้วยสายตาเย็นชาสุดๆ

ตัดมาที่เรสเข้าไปพบกับกลุ่มทหารรับจ้างราชสีห์แห่งนภา เรสจะบอกเรื่องของฮารุโตะและพวกซาร่าที่คุ้มกันคริสติน่า แล้วก็จะสั่งให้ทุกคนไล่ตามหาและทำการปลิดชีวิตเจ้าหญิงคริสติน่าผู้งดงามที่สุดในทวีปแห่งนี้ลงให้ได้ เพราะคริสติน่านั้นเป็นเจ้าหญิงแสนสวยที่มากด้วยความสามารถ ดังนั้นหากปล่อยไปให้ถึงโรดาเนียจะเป็นปัญหาใหญ่โตในภายหลังได้

(แค่คิดจะยุ่งกับคริสติน่า ชีวิตพวกแกมันก็เปรียบได้เหมือนกับเปลวไฟใกล้ดับในตะเกียงทีไร้น้ำมันแล้ว เพราะงั้นถึงแม้ฮารุโตะจะใจดีไม่ฆ่า แต่พวกเราจะไม่มีทางปล่อยพวกแกแน่!!)

เจ้าหญิงคริสติน่านั้นแตกต่างจากฟลอร่าซึ่งมีดีเพียงแค่หน้าตาน่ารัก ฟลอร่านั้นเธอเป็นได้เพียงแค่หุ่นเชิดของดยุคยุกโนเท่านั้น แต่คริสติน่านั้นเป็นเจ้าหญิงที่แท้จริง

ดังนั้นถ้าหากคริสติน่าไปถึงโรดาเนียล่ะก็ ขั้วอำนาจของประเทศนี้จะเปลี่ยนไปในทันที ด้วยความงดงามและความสามารถที่เปี่ยมล้นของเธอนั้นสามารถที่จะทำเรื่องต่างให้กลายเป็นได้จริงแน่นอน

และการจะลอบสังหารคริสติน่าหลังจากไปถึงโรดาเนียแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดีด้วยเพราะนั่นจะทำให้ผู้คนโกรธแค้น ประชาชนจะเลิกสนับสนุนตระกูลอัลโบแน่

เรสยังบอกให้ทุกคนระวังตัวให้มาก เพราะฮารุโตะนั้นเอาชนะลูชิอุสซึ่งเป็นหัวหน้าสุดเมพของทุกคนได้แบบชิลๆสบายๆเลยทีเดียว แถมในครั้งนี้ยังมีสามสาวผู้ถือครองอาวุธเวทโบราณสุดเมพอีกด้วย

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

ตัดกลับมาที่ฝั่งฮารุโตะและเจ้าหญิงคริสติน่าสุดสวย โดยหลังจากอาบน้ำกันอย่างสนุกสนานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะเดินทางกันต่อสักพัก จากนั้นก็จะตัดสินใจเข้าพักที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งเนื่องจากฮารุโตะต้องการซื้อข้าวของเสื้อผ้าต่างๆที่จำเป็นให้กับเจ้าหญิงคริสติน่าสุดที่รักด้วย

(โดยเหตุผลนั้นก็เพราะว่าชุดเจ้าหญิงของคริสติน่านั้นสวยบาดตาบาดใจมากเกินไปจนทำให้ฮารุโตะยากที่จะอดใจไม่เข้าไปจู่โจมไหว)

โดยตอนเข้าเมืองจะมีการโกหกว่าเป็นกลุ่มคนคุ้มกันที่พาลูกสาวขุนนางแสนสวยสองคนมาแสวงบุญ ทหารยามมีการตรวจสีผมซึ่งก็แน่นอนว่าไม่เจอสีม่วงเพราะคริสติน่าได้เปลี่ยนสีผมด้วยอุปกรณ์เวทไปแล้วนั่นเอง

เมื่อถึงโรงแรมฮารุโตะก็จะจองห้องพักแบบหกคน 1 ห้อง และห้องพักแบบสามคน 1 ห้อง โดยถึงแม้คริสติน่าจะอยากให้ฮารุโตะมานอนข้างๆเธอเพื่อความสบายใจในยามหลับ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้ไปเพราะความเขิน

หลังจากแยกกันไปที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว ฮารุโตะก็จะชวนเซเรียออกไปเดทกันสองคน แต่พวกซาร่านั้นออกอาการอิจฉาเซเรียสุดๆ สุดท้ายก็เลยต้องพาพวกซาร่าไปด้วยกันทั้ง 5 คนเลย

โดยในช่วงนี้จะมีการเล่าให้พวกซาร่าเข้าใจถึงเรื่องที่ว่าคริสติน่านั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฮารุโตะ ดังนั้นการที่เรสบอกชื่อริโอะออกมานั้นอาจจะทำให้คริสติน่าเกิดสนใจตัวตนที่แท้จริงของฮารุโตะก็เป็นไปได้ แต่ถึงแม้จะถูกถามยังไงฮารุโตะก็บอกว่าเค้าเนียนเก่งอยู่แล้วเพราะงั้นคงไม่เป็นไร

ตัดมาที่เจ้าหญิงคริสติน่าแสนสวยที่กำลังนั่งลงบนเตียงเล็กๆด้วยความสง่างามนั้นได้แอบมองพวกฮารุโตะจากทางหน้าต่างโรงแรมด้วยท่าทางน่ารักสุดๆ และเนื่องจากในตอนนี้ยังเป็นเวลาว่างอยู่ วาเนซซ่าจึงได้ถือโอกาสนี้เข้ามานั่งข้างๆและพูดคุยเรื่องสำคัญที่เธอกำลังคาใจอยู่กับคริสติน่า

วาเนซซ่าจะถามคริสติน่าว่าไม่สนใจเรื่องที่มาของพวกซาร่าเลยเหรอ คริสติน่าก็พยายามเนียนๆไม่ตอบอะไรกลับไปจริงจัง ถึงแม้คริสติน่าจะเข้าใจดีว่าพลังของฮารุโตะและพวกซาร่าผู้ถือครองอาวุธเวทโบราณนั้นมีพลังเทียบเท่ากับทหารหลายพันคนก็ตาม

วาเนซซ่าถามต่อไปว่าคริสติน่านั้นไม่คิดจะขอร้องให้พวกฮารุโตะเข้ามาช่วยเหลือหลังจากที่เดินทางไปถึงยังเรสราชิออนแล้วงั้นเหรอ ยิ่งถ้าหากเป็นไปได้ก็ยิ่งควรที่จะเข้าไปสานความสัมพันธ์กับผู้คนในหมู่บ้านของพวกซาร่าเอาไว้ด้วยซ้ำ

(พวกซาร่านั้นได้เนียนบอกที่มาของตัวเองว่าพวกเธอมาจากชนเผ่าเล็กๆ)

คริสติน่าก็รีบตอบกลับไปว่า ที่ฮารุโตะได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเราในครั้งนี้ก็เป็นเพราะเค้าต้องการช่วยเซเรียเซ็นเซย์ ดังนั้นถึงแม้ในใจของคริสติน่านั้นจะอยากรีบโผเข้าไปกอดและซบอกข้อร้องฮารุโตะให้ช่วยมากสักแค่ไหน แต่คริสติน่าก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าฮารุโตะนั้นไม่มีเหตุผลที่จะต้องติดตามมาคอยช่วยเหลือเธอต่อไปในอนาคต

วาเนซซ่าจึงได้เสนอให้ใช้เซเรียในการเจรจากับฮารุโตะ แต่คริสติน่าที่เข้าใจถึงความคิดและจิตใจของฮารุโตะอย่างลึกซึ้งนั้นได้รีบปฏิเสธวิธีนี้ไปในทันที นั่นก็เพราะการนำเซเรียเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้มีแต่จะทำให้เสียความเชื่อใจจากฮารุโตะไปเท่านั้น

(คริสติน่าเข้าใจถึงหัวใจของฮารุโตะซึ่งเป็นอดีตรักแรกมากว่าใครนั่นเอง)

แต่วาเนซซ่าก็ยังไม่ยอมเข้าใจว่าทำไมคริสติน่าถึงไม่คิดจะทำอะไรในเรื่องนี้เลย วาเนซซ่ายังถามอีกว่าทำไมคริสติน่าถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงการดึงตัวฮารุโตะเข้ามาอยู่กับพวกเรามากถึงขนาดนั้น คริสติน่าก็ตอบไปว่าฮารุโตะนั้นเป็นขุนนางของอาณาจักรกัลอาค แถมพวกเราก็พึ่งจะรู้จักกันไม่นานเท่านั้น เพราะงั้นมันจึงแน่นอนอยู่แล้วที่เค้าจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องภายในของเบลทรัม

สุดท้ายวาเนซซ่าจึงโยงไปถึงเรื่องที่เรสเรียกฮารุโตะว่าริโอะก่อนหน้านี้ วาเนซซ่านั้นจำเด็กหนุ่มที่ชื่อว่าริโอะได้เป็นอย่างดี เรื่องสีผมเองก็สามารถเปลี่ยนได้จากอุปกรณ์เวท ซึ่งพอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คริสติน่าก็เลยยอมแพ้และยอมรับว่าเธอกำลังรู้สึกกังวลในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

แต่คริสติน่าก็บอกว่าเธอนั้นไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงในเรื่องนี้ เพราะงั้นถึงแม้ในหัวใจของคริสติน่าจะเข้าใจดีว่าทั้งสองเป็นคนเดียวกัน แต่ต่อหน้าคนอื่นแล้วเธอก็ไม่สามารถที่จะพูดความจริงออกไปได้ ซึ่งนั่นก็เพราะมันเกี่ยวข้องอดีตของริโอะที่ได้ถูกกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลาในสมัยที่อยู่ในโรงเรียน และหลังจากนั้นยังมีคดีป้ายความผิดที่เกิดขึ้นกับริโอะเมื่อหลายปีก่อนตามมาด้วยอีก นอกจากนั้นแล้วคริสติน่าก็ยังเข้าใจดีด้วยว่าฮารุโตะนั้นก็คงไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องในอดีต

วาเนซซ่าจะถามว่าเรื่องนั้นความจริงเป็นการป้ายคามผิดงั้นเหรอ คริสติน่าก็บอกว่าเธอเองก็ไม่ได้เห็นในขณะเกิดเหตุจึงบอกไม่ได้ แต่ถ้าหากคิดตามหลักเหตุผลและผลประโยชน์แล้วล่ะก็ มันเป็นไปได้ถึง 100 ใน 10 ส่วนเลยที่เรื่องนี้จะเป็นการป้ายความผิดเพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองของดยุคยุกโน

เพราะงั้นถึงแม้ในตอนนี้ฮารุโตะจะเข้ามาช่วยเหลือเธอในตอนนี้เพราะเซเรีย แต่เค้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออาณาจักรเบลทรัมในอนาคต กลับกันฮารุโตะนั้นอาจจะมีความแค้นต่ออาณาจักรเบลทรัมเสียด้วยซ้ำ

จากเหตุผลนี้จึงทำให้คริสติน่าตัดสินใจที่จะปิดเรื่องราวในอดีตทั้งหมดเอาไว้ เธอได้สั่งห้ามไม่ให้วาเนซซ่านำเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกในอนาคต นอกเสียจากว่าฮารุโตะนั้นจะเป็นฝ่ายเข้ามาพูดถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นก็เพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์เล็กน้อยที่มีอยู่ในตอนนี้กับฮารุโตะเอาไว้

และถึงมันจะดูแย่มากในการที่เธอยังหวังที่จะกลับมาสานสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มรักแรกทั้งๆที่เธอเคยละทิ้งเค้าไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ว่ายังไงคริสติน่าก็ยังอยากที่จะรักษาความสัมพันธ์กับฮารุโตะที่แม้จะเหลืออยู่เพียงแค่เส้นด้ายบางๆ และถ้าหากเป็นไปได้คริสติน่าก็อยากจะเพิ่มความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นในอนาคต แต่ถึงแม้ว่าเธอจะคิดแบบนั้น ความเป็นจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

พอพูดถึงเรื่องนี้แล้วคริสติน่าได้คิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีตของฮารุโตะ เด็กหนุ่มที่อยู่อย่างเดียวดายคนนั้นเป็นอัจฉริยะ เค้าเป็นคนมีความสามารถที่ไม่มีใครอาจจะเทียบได้ และในปัจจุบันเค้าก็ยังสร้างผลงานใหญ่โตจนได้รับการแต่งตั้งโดยตรงให้เป็นถึงอัศวินกิตติมศักดิ์ของอาณาจักรกัลอาค ในตอนนี้เด็กหนุ่มที่ไม่มีใครต้องการในอาณาจักรเบลทรัมนั้นได้กลายเป็นที่จับตามองของทุกประเทศ

และนี่ก็เป็นข้อผิดพลาดที่ใหญ่มากของระบบการคัดเลือกบุคลากรในอาณาจักรเบลทรัม ระบบขุนนางที่ดูถูกผู้อื่นที่มีฐานะต่ำกว่าตนเองโดยไม่ดูถึงความสามารถนั้นทำให้อาณาจักรเบลทรัมได้สูญเสียผู้คนที่มีความสามารถไปมากมาย โดยในขณะที่คิดเรื่องนี้คริสติน่าก็รู้สึกเจ็บปวดภายในหัวใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะยังคงความสง่างามและไม่ได้แสดงความเปลี่ยนแปลงใดๆออกมาเลยก็ตามที

หลังจากนี้ไม่ว่าเธอจะได้พบเจอกับฮารุโตะอีกสักกี่ครั้ง ความผิดบาปในอดีตที่ประเทศของเธอเคยทำไว้กับฮารุโตะนั้นก็จะกลับมาทิ่มแทงหัวใจของเธอทุกครั้ง แต่ไม่ว่ามันเธอจะต้องเจ็บปวดทุกทรมานมากสักแค่ไหน คริสติน่าก็คิดที่จะยอมรับบาปทั้งหมดนั้นเอาไว้ในฐานะที่เธอนั้นเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักรเบลทรัม

แต่วาเนซซ่านั้นก็ยังไม่ยอมและบอกว่าคริสติน่านั้นจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาพลังของฮารุและพวกซาร่า เพราะคริสติน่านั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เบลทรัม ดังนั้นไม่ว่าเรื่องนี้จะยุ่งยากมากสักแค่ไหน เพื่ออนาคตของประเทศนี้แล้วคริสติน่าก็จำเป็นจะต้องหาทางทำเรื่องนี้ให้สำเร็จให้ได้ คริสติน่าจึงได้ตอบกลับไปว่า เธอจะพยายามสานความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อใจระหว่างตัวเธอกับฮารุโตะและพวกซาร่าให้ได้มากที่สุด

(ถึงเวลาที่คริสติน่าจะต้องทุ่มเททั้งร่างกายและหัวใจเพื่อทำให้ฮารุโตะหันมาหลงรักเธอแล้วล่ะ อุฟุฟุ)

วาเนซซ่าเองก็ตดสินใจที่จะช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย แต่พอเธอนึกถึงความสัมพันธ์ของเธอกับริโอะในอดีตแล้ว วาเนซซ่าก็รู้สึกเลยว่าตัวเธอเองนั้นไม่มีหวังที่จะช่วยเหลืออะไรคริสติน่าได้เลยเช่นเดียวกัน......

ตัดกลับมาที่พวกฮารุโตะซึ่งไปเดทพร้อมกัน 5 คนเสร็จแล้ว ทั้ง 5 คนก็ได้ยืมครัวของโรงแรมเพื่อที่จะทำอาหารเย็นสุดแสนจะอร่อยให้เจ้าหญิงคริสติน่าได้ทาน

หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง คริสติน่าที่ได้เห็นอาหารทำมือของฮารุโตะครั้งแรกก็หลงรักฮารุโตะรอบใหม่ในทันที รสชาติอาหารแสนนุ่มนวลหลากรสนั้นอร่อยเสียยิ่งกว่าอาหารที่เสริฟให้กับราชวงศ์ในปราสาทเสียอีก ความอร่อยของอาหารนั้นทำให้ใบหน้าแสนงดงามของคริสติน่าที่ไม่เคยจะเปลี่ยนสีหน้านั้นถึงกับเผยรอยยิ้มเล็กๆที่มีพลังทำลายสูงโคตรๆออกมาจนทุกคนตะลึงกันไป

ตรงส่วนนี้จะมีการพูดถึงเรื่องที่ฮารุโตะนั้นได้เรียนสูตรอาหารมาจากมิฮารุด้วย คริสติน่าก็เลยถามพวกเรย์กับโคตะว่า เด็กสาวอีกสองคนที่ถูกอัญเชิญมาด้วยกันนั้นไม่ทำอาหารให้ทานกันหรอกเหรอ

สองหนุ่มก็เลยตอบว่าในประเทศญี่ปุ่นยุคนี้สาวๆส่วนใหญ่เค้าไม่ทำอาหารเองกันแล้ว เรื่องที่มิฮารุทำอาหารอร่อยนั้นเป็นเพราะเธอคงจะชอบทำเป็นการส่วนตัวเท่านั้น จากนั้นคริสติน่าที่มีความสุขกับอาหารจากเด็กหนุ่มรักแรกของเธอก็เข้านอนฝันหวานดุ๊กดิ๊กถึงฮารุโตะจนรู้สึกตัวอีกทีก็เช้าวันถัดมาแล้ว

เข้าวันถัดมา ทุกคนก็จะออกเดินทางกันโดยใช้เส้นทางผ่านทางป่าซึ่งยากต่อการพบตัว วาเนซซ่าจะบอกว่าปกติแล้วพวกทหารนั้นจะไม่เข้ามาในป่าแต่จะอ้อมไปดักรอตามถนน เพราะงั้นคงไม่มีอันตรายแน่

ฮารุโตะจะนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในอดีต ในสมัยเรียนนั้นกลุ่มของฮารุโตะและคริสติน่าเลือกที่จะเดินทางตัดผ่านป่าแต่สุดท้ายก็หลงกันเงิบทั้งกอง ซึ่งพอมานึกย้อนดูแล้วก็รู้สึกตลกตัวเองในตอนนั้นมากๆ และก็เป็นในตอนนั้นเองที่ฮารุโตะรู้สึกตัวว่ากำลังถูกเจ้าหญิงคริสติน่าแสนสวยจ้องมองด้วยแววตาสุดแสนงดงามและน่ารัก

ส่วนคริสติน่าที่กำลังมองดูฮารุโตะด้วยแววตาของเด็กสาวที่กำลังตกหลุมหลงรักอยู่นั้น เมื่อฮารุโตะรู้สึกตัวและหันกลับมาสบตากับเธอเข้า คริสติน่าก็รีบหันหน้าหนีเพราะความเขินอายแบบสุดๆในทันที

จากนั้นฮารุโตะก็จะเสนอให้ทานข้าวกลางวันกัน โดยฮารุโตะได้ขอให้เซเรียช่วยสร้างโต๊ะครัวรวมทั้งขอน้ำกินได้จากเซเรียด้วย หลังจากสร้างเสร็จฮารุโตะก็ยังขอให้เซเรียช่วยสร้างโต๊ะกินข้าวและก้าวครบทุกคนด้วย เซเรียที่ถูกฮารุดตะพึ่งพานั้นก็แอบยิ้มแบ้วๆด้วยความดีใจอย่างที่สุดของที่สุด

ในระหว่างที่ฮารุโตะกำลังทำอาหารนั้น คริสติน่าที่ไม่อาจจะอดใจไหวก็เข้ามาแนบชิดกับฮารุโตะและถามด้วยแววตาออดอ้อนน่ารักว่ามื้อนี้จะทำอะไรให้พวกเราทานกันงั้นหรือคะ กับการเข้ามาแนบชิดของคริสติน่านั้นทำให้ฮารุโตะรู้สึกแปลกๆ

เพราะเมื่อฮารุโตะได้ลองนึกย้อนกลับไปถึงคริสติน่าในสมัยที่อยู่ในโรงเรียนแล้ว ในเวลาปกติคริสติน่านั้นจะวางตัวเป็นเจ้าหญิงแสนสวยสง่างามไร้อารมณ์และไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครโดยไม่จำเป็น แต่ในเวลานี้คริสติน่ากลับยิ้มแย้มน่ารักสุดๆแถมยังเข้ามาแนบชิดกับฮารุโตะอย่างเปิดเผยโดยไม่กลัวสายตาชาวบ้าน

และถึงแม้ฮารุโตะจะรู้สึกแปลกๆเพราะไม่เข้าใจความคิดของคริสติน่า แต่ฮารุโตะก็ไม่รังเกียจเวลาที่มีเจ้าหญิงผู้ที่แสนจะน่ารักและยังครอบครองตำแหน่งเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในทวีปอย่างคริสติน่าเข้ามาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ดังนั้นฮารุโตะจึงได้ทำอาหารอย่างมีความสุขพร้อมๆกับพูดคุยบอกถึงที่มาและวัตถุดิบของอาหารต่างๆที่กำลังจะทำซึ่งนั่นก็คือชีสรีซอตโต้สูตรข้าวบาร์เลย์

จากนั้นเมื่อถึงเวลาทานอาหาร คริสติน่าที่อดทนไม่ไหวก็จะส่งเสียงท้องร้องน่ารักโคตรๆออกมาจนทำให้เธอรู้สึกอายและม้วนกลิ้งยืนนิ่งไป ฮารุโตะที่เห็นความน่ารักของคริสติน่านั้นเกือบที่จะตกหลุมรักแล้วแต่ก็ยังพยายามยับยั้งหัวใจเอาไว้และรีบทำการเสริฟอาหารและทุกคนก็เริ่มล้อมวงทานพร้อมกันในทันที

คริสติน่าที่ได้ทานชีสรีซอตโต้รสชาติอร่อยล้ำลึกสุดหอมหวานฝีมือฮารุโตะนั้นก็รู้สึกมีความสุขมากๆจนเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ เธอได้กล่าวชมฝีมือการทำอาหารของฮารุโตะจากจริงใจ และก็เป็นในตอนนั้นเองที่รอยยิ้มแสนงดงามที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็นก็ได้แสดงออกมาอีกครั้ง และแล้วรอยยิ้มพลังทำลายสูงสุดๆของเธอก็ได้สร้างดาเมจที่รุนแรงให้กับเหล่าเด็กหนุ่มทั้งหลายกันอีกครั้ง

(แน่นอนว่าใช่แค่พวกหนุ่มๆในเรื่องเท่านั้น เพราะแม้แต่ผมที่ตามอ่านเองก็โดนดาเมจที่รุนแรงมากจนลงไปนอนฟินกับพื้นเช่นเดียวกัน ฮา.....)

ตัดมาที่เมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป ชายหนุ่มคนหนึ่งเข้าไปที่บาร์แห่งหนึ่งและนำเงินจำนวนมากออกมาเป็นค่าจ้างให้กับนักจญภัยที่สามารถให้ข้อมูลของกลุ่มพวกฮารุโตะทั้ง 9 คนได้ ซึ่งมันก็แน่นอนว่าเหล่านักผจญภัยเหล่านั้นหน้าเงินและรีบรับงานไปในทันที

ตัดมาที่ฮิโรกากซึ่งกำลังให้โรน่ากับฟลอร่าสองสาวขนาดข้างและช่วยกันรุมปรนเปรออยู่ ดยุคยุกโนได้เข้ามาพบฮิโรกากและบอกถึงเรื่องการแต่งงานโดยเสนอให้ฟลอร่าเป็นภรรยาหลวง

ฮิโรกากนั้นจึงบอกว่าเค้าไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบมีอันดับ เค้าต้องการสร้างฮาเร็มที่สาวๆทุกคนเท่าเทียมกัน จากนั้นเค้าก็ถามฟลอร่าว่าตามเงื่อนไขฮาเร็มนี้ฟลอร่าจะยอมรับเป็นภรรยาหลวงหรือเปล่า

ฮิโรกากนั้นแม้จะไม่ได้ชอบอะไรฟลอร่ามากมายเพราะเธอมีดีเพียงแค่หน้าตาน่ารัก แต่ฮิโรกากก็คิดว่าฟลอร่านั้นเหมาะสมกับตำแหน่งเมียหลวง เพราะเธอคงไม่มีปัญญาที่จะไปตามรังแกสาวๆคนอื่นในฮาเร็มอย่างแน่นอน

จากนั้นก็มีถามโรน่าว่าจะแต่งกับเค้าด้วยมั๊ย โรน่าก็รีบเบี่ยงเบนประเด็นและตอบว่าฮิโรกากมาถามอะไรฉุกละหุกแบบนี้เธอเขินและตอบทันทีไม่ได้หรอก

(จริงๆแล้วโรน่าก็ไม่อยากแต่งด้วย แค่มาคอยปรนเปรอเพราะจำเป็นเฉยๆสินะ)

เสร็จแล้วดยุคยุกโนก็จะนำรายชื่อของสาวๆลูกขุนนางจากกัลอาคที่ยื่นเสนอคำขอแต่งงานมาให้ โดยในรายชื่อเหล่านั้นก็จะมีเจ้าหญิงโลลิอันดับที่ 3 โรซารี่อายุ 12 ปี และลูกสาวดยุคลีเซ็ตเต้รวมอยู่ด้วย แต่ดันไม่มีชื่อของรีเซล็อตเต้ซึ่งเป็นคนที่ฮิโรกากชอบมากที่สุดซะงั้น

และก็เป็นเพราะรีเซล็อตเต้ไม่ยอมมาหา ดังนั้นฮิโรกากจึงได้ตัดสินใจที่จะไปหารีเซล็อตเต้ด้วยตัวเอง และเมื่อฮิโรกากตัดสินใจมาแบบนี้ ดยุคยุกโนก็ตอบตกลงและตัดสินใจพาทุกคนเดินทางกลับโรดาเนีย โดยก่อนจะกลับนั้นจะไปแวะที่เมืองอามันดะเพื่อพบกับรีเซล็อตเต้ก่อน เพราะสำหรับดยุคยุกโนแล้วนั้น รีเซล็อตเต้เป็นคนที่เค้าต้องการสานความสัมพันธ์ทางการเมืองมากที่สุดเช่นเดียวกัน

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

ตัดกลับมาที่ฮารุโตะและเจ้าหญิงคริสติน่าสุดสวย โดยในวันนี้ก็ได้ผ่านไปเป็นเวลา 4 วันหลังจากมื้ออาหารกลางวันชีสรีซอตโต้สื่อรักพิชิตใจเจ้าหญิง ฮารูโตะและพวกซาร่าได้โอกาสใช้เวทเสริมพลังเพื่ออุ้มทุกคนและรีบเร่งออกเดินทางทิ้งระยะห่างโคตรๆอีกครั้ง

และหลังจากที่ทำระยะทางเท่ากับเดินเท้าวันได้สำเร็จ ทุกคนก็กลับมาเดินเท้ากันแบบชิลๆจนในที่สุดก็มาถึงยังเมืองแห่งหนึ่งในยามบ่าย โดยก่อนที่จะเข้าเมืองนั้นฮารุโตะก็ได้พยายามตรวจสอบรอบๆ ซึ่งฮารุโตะก็ได้พบกับนกบางอย่างที่บินสูงขึ้นไปบนฟากฟ้า แต่เค้าคิดว่าคงจะไม่มีอะไรเลยปล่อยผ่านไป

แต่หลังจากที่ผ่านประตูเมืองเข้าไปได้แบบชิลๆก็มีเรื่องเกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้ นั่นก็คือกลุ่มพวกนักผจญภัยที่ได้มารวมตัวกันจ้องมองพวกฮารุโตะโดยพยายามนำเอาไปเปรียบเทียบกับหนังสือนำจับ

และเมื่อฮารุโตะบอกเจ้าหญิงคริสติน่าสุดสวยที่เดินเข้ามาใกล้ๆว่า ไม่เป็นอะไรอย่าได้ไปสนใจพวกนักผจญภัยป่าเถื่อนหิวเงินไร้ค่าพวกนั้น ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่นักผจญภัยพวกนั้นรีบเข้ามาหยุดกลุ่มของพวกฮารุโตะเอาไว้

กลุ่มนักผจญภัยป่าเถื่อนเข้ามาหยุดพวกฮารุโตะแล้วบอกว่ากลุ่มของพวกแกมันตรงกันกับในหนังสือนำจับเลย ชายหนุ่ม 3 คน เด็กสาวแสนสวย 5 คนกับหญิงสาวธรรมดาอีก 1 คน แถมผู้นำยังเป็นชายหนุ่มอายุน่าจะประมาณ 20 ที่มีผมสีเทาเหมือนกับแกอีกด้วย

ฮารุโตะพยายามเนียนบอกว่าไม่ใช่พวกเค้าแน่นอนและขอยืมหนังสือนำจับมาตรวจสอบดู และก็เป็นในตอนนั้นเองที่คริสติน่ารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากจึงได้รีบเบียดเข้ามาแนบชิดกับฮารุโตะเพื่อขอดูรายละเอียดด้วยกันสองต่อสอง

สุดท้ายเถียงกันไปมาทั้งสองฝ่ายไม่ยอมกันสักที ฮารุโตะเลยบอกให้ทกคนถอดฮู๊ดที่ปิดหน้าออกเพื่ออวดความงดงามของพวกสาวๆในฮาเร็ม ซึ่งพอพวกนักผจญภัยกากๆโง่ๆเห็นหน้าตาที่งดงามในระดับที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้เห็นมาก่อน พวกมันก็เลยเงิบอึ้งทึ่งกันไปแบบมึนๆ

หลังจากนั้นพวกฮารุโตะก็รีบหนีและตรงไปที่โรงแรม โดยในระหว่างทางนั้นเค้าก็ได้รู้ว่ากำลังถูกพวกนักผจญภัยแอบสโตรกเกอร์ตามมาด้านหลัง ฮารุโตะจึงตัดสินใจออกไปสืบข่าวในเมืองและให้พวกซาร่าปกป้องเจ้าหญิงคริสติน่าผู้แสนจะน่ารักจนไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องหลงใหลเอาไว้

จากนั้นประมาณ 30 นาที ฮารุโตะก็กลับมายังโรงแรมและพูดถึงเรื่องคนแปลกๆที่นำหนังสือนำจับที่ว่านั่นมามอบให้กับพวกนักผจญภัย ก่อนอื่นเลยคือไม่มีหนังสือนำจับอย่างเป็นทางการภายในเมืองนี้ มันจึงเป็นเรื่องแปลกมากเลยที่หนังสือนำจับนั้นไปอยู่เพียงแค่ในมือของพวกนักผจญภัยกากๆหิวเงินเหล่านั้น

สุดท้ายจึงมีการสรุปกันว่าหนังสือนำจับนั่นน่าจะเป็นของที่เรสทำปลอมขึ้นมาเอง เพราะทางหากมาจากทางอาณาจักรจริงๆล่ะก็ ลักษณะของแต่ละบุคคลนั้นควรจะมีรายละเอียดมากกว่านี้ นอกจากนั้นแล้วการที่จำนวนคนในหมายจับเป็น 9 คน แทนที่จะเป็น 6 คนนั้นก็เป็นเรื่องแปลก

เพราะคนที่รู้ว่าพวกซาร่าทั้ง 3 คนได้เข้าร่วมมาปกป้องคริสติน่าและออกเดินทางมาด้วยกันนั้นน่าจะมีเพียงแค่เรสคนเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเรสกับชาร์ลูน่าจะไม่ได้ร่วมมือกันในการวางแผนสังหารคริสติน่าครั้งนี้

และเมื่อรู้ถึงขนาดนี้แล้ว จะปล่อยชิลๆก็คงจะไม่ได้ ฮารุโตะจึงวางแผนล่อไอ้พวกนักผจญภัยกากเหล่านั้นให้มาโจมตี โดยพรุ่งนี้เช้าจะย้อนกลับไปทางประตูที่ทางตะวันตกที่พวกเราผ่านมาเข้า โดยหากพวกนักผจญภัยพวกนั้นไม่เข้ามาโจมตีก็จะทำการเดินอ้อมเมืองและมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเหมือนเดิม

คริสติน่าที่ฟังแผนการของฮารุโตะนั้นจะตอบตกลงและชื่นชมฮารุโตะอย่างใหญ่โตว่าเป็นแผนการที่ง่ายแต่ได้ผลยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก เพราะการทำแบบนี้คงจะทำให้พวกนักผจญภัยกากโง่ๆพวกนั้นสับสนได้มากแน่นอน นอกจากนั้นแล้วยังทำให้ข้อมูลเส้นทางที่พวกเราจะไปหลังจากนี้ไม่มีใครรู้ได้อีกด้วย

และเมื่อได้รับคำชมจากเจ้าหญิงคริสติน่าแสนสวย ฮารุโตะก็ดีใจและรีบลงไปที่ครัวเพื่อเตรียมการทำอาหารเย็นสื่อรักพิชิตใจเจ้าหญิงชุดใหม่

ตัดมาที่กลุ่มพวกนักผจญภัยกากหน้าเงินที่กำลังพูดคุยกันด้วยความไม่พอใจเรื่องที่ฮารุโตะทำเป็นเมินพวกเขาและยังทำตัวหยิ่งใส่อีก โดยนักผจญภัยกากตัวใหญ่จะบอกว่าเค้าจะสั่งสอนไอ้หัวเทานั่นให้รู้ถึงความน่ากลัวของโลกใบนี้ จากนั้นก็จะจับพวกเด็กสาวแสนสวยทั้ง 6 คน ที่เมินใส่เค้ามากระหน่ำรุมโทรมต่อเนื่องยันเช้า เพราะยังไงพวกเธอก็เป็นนักโทษ ดังนั้นถึงจะทำอะไรไปแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า หรือต่อให้ผิดตัวก็จับฝังเอาไว้แถวนั้นให้หมดก็ได้อยู่

(หุหุ......หุหุ.....อุฟุฟุ...........หุหุ.............หุหุ...............ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกแกได้รู้ถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของโลกใบนี้แน่ๆ...........อุฟุฟุ...อุฟุฟุ)

เช้าวันถัดมา ฮารุโตะได้พาเจ้าหญิงคริสติน่าย้อนกลับออกไปทางประตูทิศตะวันตกโดยทำเนียนเป็นเหมือนกับกำลังตามหาสิ่งของที่ตกหาย พวกนักผจญภัยที่งงกับการกระทำของพวกฮารุโตะก็เข้ามาถามว่าพวกแกทำอะไรกันวะ

โดยพวกนักผจญภัยกากโง่ๆหน้าเงินยังไม่ยอมแพ้เรื่องรางวัลนำจับและต้องการที่จะใช้กำลังจับตัวพวกฮารุโตะกลับไปส่งให้ได้ แต่พวกมันก็ไม่ได้คิดเพียงแค่จะจับตัวกลับไปเท่านั้น เพราะพวกมันยังเผยสีหน้าหื่นๆเข้าใส่พวกสาวๆออกมากันอย่างแจ่มแจ้งอีกด้วย

ฮารุโตะเลยถามกลับไปว่าแล้วถ้าถามพวกเค้าไม่ใช่คนตามในหมายจับล่ะจะทำยังไง ไอ้พวกพวกนักผจญภัยกากโง่ๆก็เลยตอบว่าแค่ฆ่าพวกแกทิ้งซะทั้งหมดก็พอ เพราะยังไงคนตายก็พูดแก้ต่างอะไรออกมาไม่ได้อยู่แล้ว

พวกนักผจญภัยกากโง่ๆยังคุยโม้โอ้อวดและบอกอีกว่าถ้าพวกสาวๆยอมถูกจับดีดีก็จะไว้ชีวิต แน่นอนว่าแค่ชีวิตของพวกเธอเท่านั้นที่จะปล่อยเอาไว้ ส่วนความบริสุทธิ์ของพวกเธอนั้นจะช่วยพรากเอาไปให้อย่างแน่นอน วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

โคตะกับเรย์ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมาตลอดจะตะโกนโวยวายออกมา และบอกว่าการกระทำป่าเถื่อนแบบนั้นจะให้ยอมรับกันได้ยังไง แต่ฮารุโตะก็บอกว่าโลกนี้ก็แบบนี้แหละ เพราะงั้นคงต้องจบเรื่องด้วยการใช้กำลังเท่านั้น

ฮารุโตะได้ส่งคำเตือนให้กับพวกนักผจญภัยกากๆโง่ๆหน้าเงินอีกครั้งว่าหากยอมถอยกลับไปดีดีจะปล่อยให้รอดไปก็ได้ แต่พวกนักผจญภัยเหล่านั้นมันก็โง่จัดและไม่สนใจคำเตือน ฮารุโตะจึงบอกให้พวกซาร่าตั้งใจทำเพียงแค่การป้องกันอย่างเดียว เพราะเรสอาจจะใช้นักผจญภัยพวกนี้เป็นเหยื่อล่อเพื่อลอบโจมตีมาก็ได้

จากนั้นฮารุโตะจึงใช้เวทเสริมพลังและบอกว่า กับพวกแกน่ะแค่มือเปล่าก็เพียงพอจะจัดการ หลังจากนั้นนักผจญภัยกว่า 20 คนก็ถูกจัดการจนเรียบอย่างรวดเร็วสุดๆ พวกที่พยายามวิ่งหนีเองก็ถูกไล่ตามไปกระทืบและถูกลากกลับมามัดรวมกันเอาไว้ในสภาพที่ไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ......

โคตะกับเรย์ที่เห็นภาพของพวกนักผจญภัยถูกฮารุโตะซ้อมอยู่ฝ่ายเดียวแบบ 1 รุม 20 ก็แสดงอาการสงสารออกมา แต่พวกซาร่าบอกว่าไอ้พวกสวะนั่นสมควรโดนแล้ว ก็ดันมาคิดเรื่องหื่นๆกับพวกเธอและเจ้าหญิงคริสติน่าเองนี่นา

จากนั้นฮารุโตะก็ทำการรีดไถข้อมูลจากพวกนักผจญภัยออกมาจนหมดเปลือก แต่เนื่องจากพวกมันยังไม่ได้แตะต้องเจ้าหญิงคริสติน่าแสนสวย ฮารุโตะก็เลยใจดีแค่กระทืบนิดหน่อยแล้วปล่อยให้พวกมันมีชีวิตอยู่ต่อไป

แต่ในตอนที่กำลังจะออกเดินทางต่อไปนั้น มีพวกสาวๆบางคนที่ไม่พอใจเข้าไปอัดไอ้พวกนักผจญภัยกากซ้ำกันคนละหลายทีเพื่อความสะใจแถมท้ายอีกด้วย และก็แน่นอนว่าคริสติน่าที่เป็นเจ้าหญิงแสนสวยนั้นรีบติดตามฮารุโตะสุดที่รักของเธอไปโดยไม่แม้แต่จะเสียเวลาไปชายตามองพวกนักผจญภัยสวะกากๆอย่างพวกมันเลยแม้แต่เพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาทีเดียว

ระหว่างทางฮารุโตะจะบอกให้ออเฟียสั่งให้แอเรี่ยลซึ่งเป็นภูติสัญญาของเธอขยายขอบเขตการค้นหาศัตรูออกไป เพราะเค้ารู้สึกเหมือนกำลังถูกจับตาดูอยู่จากบนฟ้า แต่มันก็อาจจะเป็นเพียงแค่การคิดไปเองก็ได้

แล้วก็จะมีการพูดคุยเรื่องข้อมูลที่ได้มา โดยในข้อมูลนั้นจะมีพูดถึงลักษณะของเซเรียด้วย เพราะงั้นจึงทำให้เซเรียรู้สึกกลัวว่าเรื่องครั้งนี้อาจจะเป็นฝีมือของพ่อตัวเอง

แต่คริสติน่าก็บอกว่าเธอนั้นเชื่อใจเอิร์ลแคลร์ และเอิร์ลแคลร์นั้นคงไม่มีทางที่จะร่วมมือกับชาร์ลูและคิดจะจับตัวเซเรียส่งคืนไปแน่ๆ นอกจากนั้นแล้วเอิร์ลแคลร์ก็ยังไม่รู้เรื่องของพวกซาร่าอีกด้วย ฮารุโตะเองก็รีบเข้ามาแสดงความเห็นด้วยกับคริสติน่า ซึ่งเมื่อได้ยินดังนั้นเซเรียจึงรู้สึกสบายใจมากขึ้น แล้วก็จากเหตุผลข้างต้นทำให้ผู้ต้องสงสัยของเรื่องในครั้งนี้จึงเหลือเพียงแต่ฝีมือของเรสเท่านั้น

โคตะกับเรย์จะบอกว่าพวกเค้าเข้าใจเพียงแค่ครึ่งเดียวเอง และยังรู้สึกสงสัยอีกว่าทำไมเจ้าหญิงคริสติน่าผู้แสนจะงดงามรวมถึงฮารุโตะถึงสามารถที่จะวิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ต่างๆออกมาจนส่งผลไปถึงยังคำตอบด้วยหลักเหตุและผลแต่เพียงอย่างเดียวได้ขนาดนั้น

วาเนซซ่าจึงบอกคริสติน่านั้นเป็นเจ้าหญิงทีทั้งสวยและฉลาดมาตั้งแต่สมัยที่เธอนั้นยังเป็นเพียงแค่เจ้าหญิงโลลิแล้ว เธอยังแสดงความภาคภูมิใจออกมารากับเป็นเรื่องของตัวเองอีกด้วย

แต่คริสติน่าจะบอกวาเรื่องแค่นี้ไม่เหมาะกับคำชมหรอก และเริ่มพูดถึงเรื่องที่ว่าทำไมเรสถึงได้รู้ว่าเซเรียนั้นได้เข้าร่วมกลุ่มในครั้งนี้ด้วย โดยในเรื่องนี้ฮารุโตะจะบอกว่าถ้าหากเรสนั้นเป็นคนเดียวกับราชทูตของจักรวรรดิทีเข้าร่วมงานแต่งงานของเซเรียในวันนั้นล่ะก็ การที่จะรู้ถึงตัวตนของเซเรียนั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก

คริสติน่าที่ได้ยินดังนั้นก็แสดงความเข้าใจออกมา ว่าเรสนั้นคงจะรู้ถึงตัวจริงของเซเรียด้วยอย่างแน่นอน และก็จะมีการคุยกันถึงเรื่องที่ว่าทำไมเรสถึงได้ต้องการจะเอาชีวิตคริสติน่า ซึ่งก็ได้ข้อสรุปออกมว่าคริสติน่านั้นคงจะเป็นก้างชิ้นใหญ่ในแผนการภายในอนาคตของเรสอย่างแน่นอน

แต่ถึงแม้จะรู้แบบนี้ ก็ไม่มีเรื่องที่พวกเราสามารถทำอะไรได้ เพราะงั้นคริสติน่าจึงได้ตัดสินใจที่จะก้าวเดินต่อไป ในตอนนี้เธอจะต้องไปให้ถึงยังโรดาเนียและเข้าร่วมกับเรสราชิออนให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นค่อยหาวิธีสานความสัมพันธ์กับฮารุโตะผู้เป็นอดีตรักแรกของเธอให้มากขึ้นในภายหลัง

ตัดมาที่เรสกำลังพูดคุยกับอลันอยู่บนฟากฟ้าห่างไปจากพวกฮารุโตะไม่ไกลมากนัก เรสจะบอกให้อลันคอยตามพวกฮารุโตะไปห่างๆ และยังให้คอยระวังนกที่บินวนตรวจสอบหาศัตรูรอบๆพกฮารุโตะด้วย ส่วนเรสนั้นจะไปตามพวกรูจจิกับเวนให้มาสมทบ แล้วก็จะไปบอกพวกชาร์ลูถึงตำแหน่งของพวกฮารุโตะและให้รีบยกทั้งกองทัพตามมาสมทบด้วย

ตัดที่ชาร์ลูซึ่งกำลังหงุดหงิดเพราะทั้งๆที่ทุ่มกำลังทหาร 5,000 นายออกตามหาแล้ว แต่ก็ยังไม่พอร่องรอยของเจ้าคริสติน่าเลยแม้แต่นิดเดียว

จากนั้นเรสจะเข้ามาหาชาร์ลูแล้วบอกว่าเค้ารู้เรื่องการหายตัวไปของเจ้าหญิงคริสติน่าแล้ว เพราะงั้นก็ไม่ต้องปิดบังอีก และเรสยังบอกว่าคนคุ้มกันของพวกนั้นมี อามาคาวะ ฮารุโตะ อัศวินกิตติมศักดิ์ของกัลอาค และสามสาวผู้ถือครองอาวุธเวทโบราณซึ่งเป็นสาวในฮาเร็มของฮารุโตะรวมอยู่ด้วย

และพวกเจ้าหญิงคริสติน่าก็หนีไปไกลแล้วเพราะได้พวกนั้นช่วยอุ้มวิ่งไป ชาร์ลูจึงเข้าใจว่าทำไมถึงหาไม่เจอสักที ที่แท้ก็เป็นเพราะออกนอกขอบเขตการค้นหาตัวไปตั้งแต่แรกแล้วนี่เอง

จากนั้นชาร์ลูก็จะนึกถึงอัศวินดำ อัศวินกิตติมศักดิ์แห่งกัลอาค โดยชาร์ลูก็คิดอยู่เพราะว่าเห็นไอ้หมอนั่นเข้าไปพูดคุยสนุกสนานกับเจ้าหญิงคริสติน่าหลายครั้งในช่วงงานเลี้ยงเปิดตัวผู้กล้า เพราะงั้นจึงเป็นไปได้ว่าเจ้าหญิงคริสติน่าได้ติดต่อกับเค้าเพื่อขอให้มาช่วยพาตัวเธอหนี จากนั้นชาร์ลูก็จะขอบคุณเรสและรีบสั่งการพวกทหารทั้ง 5,000 นาย รวมทั้งหน่วยอัศวินกริฟฟอน ให้รีบเคลื่อนย้ายกำลังไปดักรอพวกฮารุโตะที่บริเวณชายแดนเชื่อมต่อกับอาณาจักรกัลอาค

☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆

ตัดกลับมาที่ฮารุโตะและเจ้าหญิงคริสติน่าสุดที่รักของพวกเราที่ได้เดินทางมาถึงยังป้อมปราการชายแดนได้สำเร็จโดยไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว แต่สุดท้ายหลังออกจากป้อมปราการเพื่อมุ่งหน้าสู่อาณาจักรกัลอาคนั้นเอง เรสและพวกพ้องทหารรับจ้างทั้งหลายก็โผล่หัวออกมาล้อมเอาไว้

ฮารุโตะตัดสินใจสู้ โดยระเบิดพลังโจมตีเข้าใส่และบอกให้เจ้าหญิงคริสติน่าแสนสวยหลบหนีไปก่อน โดยฝากให้พวกซาร่าช่วยปกป้องเธอด้วย จากนั้น เวน รุจจิ อลัน รวมถึงพวกทหารรับจ้างกากๆอีกกว่า 30 คนก็จะถูกฮารุโตะอัดกระจุยกระจาย ถึงแม้พวกนั้นจะใช้ดับเบิลเวทเสริมพลังแล้วก็แต่ก็สู้ไม่ได้เลย สุดท้ายเรสจึงตัดสินใจเข้ามาช่วยกันรุมฮารุโตะด้วย

แล้วก็เนื่องจากการต่อสู้นั้นดุเดือดกระจุยกระจายเป็นอย่างมากจนน่าเป็นห่วง ดังนั้นซาร่าและอัลม่าจึงได้อาสาเข้ามาช่วยเหลือฮารุโตะต่อสู้ด้วย โดยซาร่าจะให้ออเฟียเป็นคนนำทางและคุ้มกันเจ้าหญิงคริสติน่าไปแทน

แต่เนื่องจากเจ้าหญิงคริสติน่าสุดที่รักของพวกเราไม่อยากที่จะทิ้งฮารุโตะไปเหมือนกับในอดีต เธอจึงได้หันไปมองฮารุโตะและพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างออกไป แต่สุดท้ายก็ถูกวาเนซซ่ามาขวางเอาไว้และบอกให้รีบหนีไป

พอมาถึงตรงนี้ ฮารุโตะจะขอบคุณและขอยืมพลังจากสองสาว โดยฮารุโตะจะไปต่อสู้กับเรสกลางอากาศแบบออมมือให้ ส่วนอัลม่าและซาร่าจะสู้กับ เวน รุจจิ อลัน รวมถึงพวกทหารรับจ้างกากๆอีกกว่า 30 คน

สามหน่อจะถามถึงพลังของพวกซาร่าด้วยความแมว พวกซาร่าก็เลยตอบว่าไม่ต้องกลัวพวกเธอหรอก เพราะพวกเธอนั้นอ่อนแอกว่าฮารุโตะเยอะ แต่ถึงแบบนั้นพวกเธอก็แข็งแกร่งกกว่าพวกนาย พอพูดจบอัลม่าก็ซัดเข้าใส่รุจจิกระเด็นปลิวลอยขึ้นฟ้าไปไกลยิ่งกว่าที่ฮารุโตะทำก่อนหน้านี้.......

ตัดมาที่ฝั่งเจ้าหญิงคริสติน่าสุดแสนน่ารักซึ่งกำลังวิ่งหนีไล่ตามหลังออเฟียไป แต่อยู่ดีดีออเฟียก็บอกให้ทุกคนหยุดก่อน เพราะเธอตรวจพบกองทหารของศัตรูที่อยู่บริเวณเนินด้านหน้าโดยจำนวนนั้นมีมากกว่า 2,000 นาย แล้วก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะที่เนินอีกฟากก็ยังมีอีกมากกว่า 2,000 นาย

วาเนซซ่าจะสงสัยว่าออเฟียรู้ได้ยังไง ออเฟียจึงโกหกกลับไปว่าเป็นพลังของธนูเวทที่เธอถือเอาไว้อยู่ และในตอนนั้นเองที่กองอัศวินกริฟฟอน 50 นายบินเข้ามาล้อมกรอบเอาไว้ ออเฟียจึงได้สั่งให้แอเรียลรีบไปแจ้งเรื่องนี้กับฮารุโตะ และบอกทุกคนว่าพวกเราจำเป็นจะต้องถ่วงเวลาเอาไว้จนกว่าฮารุโตะจะมาช่วย

ชาร์ลูจะโผล่มาและบอกให้คริสติน่ายอมแพ้และคืนของที่ขโมยมาซะ โดยคริสติน่าจะทำหน้าเนียนๆแล้วบอกว่าไม่รู้เรื่อง ซึ่งไอ้ของที่ว่านั้นก็น่าจะเป็นของที่ใช้เกี่ยวกับการขึ้นครองราชอะไรแบบนั้นแหละ

เรย์กับโคตะที่เห็นรุยก็จะถามออกไปเสียงดังด้วยความโกรธว่าตามพวกเรามาทำไม รุยจึงตอบกลับไปแบบแมวๆว่าเค้าได้ให้สัญญากับอากาเนะเอาไว้แล้วว่าจะพาทุกคนกลับไปที่ญี่ปุ่นด้วยกัน เพราะงั้นรุยจึงต้องมาพาตัวเรย์และโคตะกลับไปหาอากาเนะ จากนั้นค่อยมาคุยกันว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

วาเนซซ่าจะเถียงกับอัลเฟรดพี่ชายของเธอด้วยความโกรธแค้น แต่อัลเฟรดก็บอกว่าการมาพาตัวคริสติน่ากลับไปนั้นเป็นคำสั่งโดยตรงของราชา ซึ่งก็แน่นอนว่าคำสั่งโดยตรงของราชาในตอนนี้ก็คือคำสั่งของดยุคอัลโบ ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นแต่ทำไมอัลเฟรดยังคงจะทำตามคำสั่งอีก

ชาร์ลูจะทำการข่มขู่พวกสาวๆ บอกว่าถ้ายอมแพ้ดีดีเค้าก็จะไม่ทำให้พวกเธอต้องเจ็บตัว และจะลดโทษให้วาเนซซ่าที่ขัดคำสั่ง โดยที่ชาร์ลูจะส่งสายตาหื่นๆใส่ออเฟียซึ่งเป็นสาวสวย แต่สุดท้ายคริสติน่าก็ตัดสินใจเชื่อในตัวของฮารุโตะและไม่คิดที่จะยอมแพ้

เมื่อเป็นดังนั้น การต่อสู้ก็จะเริ่มขึ้น โดยชาร์ลูได้สั่งให้อัลเฟรดจับตัวพวกสาวๆมาให้ได้โดยอย่าให้มีบาดแผลโดยเฉพาะออเฟียซึ่งเป็นสาวสวยนั้นห้ามทำให้เธอเป็นรอยอย่างเด็จขาด

ตัดมาที่ซาร่าที่ไม่สามารถเอาชนะได้สักที เธอก็เลยตัดสินใจใช้เวทภูติน้ำโจมตีเข้าใส่ไอ้สามหน่อจากต่อสู้จึงจบลงในเสี้ยววิ อัลม่าที่เห็นซาร่าใช้เวทภูติก็เลยจัดเวทภูติดินใส่พวกกองทหารรับจ้างกากๆบ้าง แล้วก็ชนะไปในเวลาไม่กี่วิเช่นกัน

ตัดมาที่ฮารุโตะที่กำลังสู้กำลังเรสแบบมือ ฮารุโตะได้ถามเรสถึงที่อยู่ของลูชิอุส แต่เรสไม่ตอบยอมฮารุโตะก็เลยคิดจะฆ่าเรสให้ตาย เรสก็เลยบอกว่ามาเสียเวลากับเค้าแบบนั้น ไม่ห่วงเจ้าหญิงคริสติน่าแสนสวยงั้นเหรอ ตอนนี้พวกเธอกำลังถูกกองทหารของพวกชาร์ลูล้อมอยู่นะ

และเมื่อได้ยินดังนั้น ฮารุโตะจึงระเบิดพลังและซัดเข้าใส่เรสจนทำให้เรสแขนขาดไปข้างหนึ่งและกระเด็นจมลงไปในดินแบบแมวๆ จากนั้นซาร่าและอัลม่าก็จะเข้ามาบอกกับฮารุโตะว่าออเฟียได้ส่งแอเรียลให้มาแจ้งข่าว ฮารุโตะจึงใช้เวทเสริมพลังขั้นสุดยอดและวิ่งไปหาเจ้าหญิงคริสติน่าในทันที

ตัดมาที่ออเฟียซึ่งได้ต่อสู้กับอัลเฟรด ออเฟียใช้ทั้งธนูแฟลช ธนูโฮมมิ่ง ธนูช็อตกัน และธนูโกงๆทุกรูปแบบแต่อัลเฟรดก็ป้องกันได้ทั้งหมดและสุดท้ายเธอก็ถูกอัลเฟรดตุ้ยท้องลงไปนอนกองกับพื้น

วาเนซซ่าจะเข้าไปฟันใส่อัลเฟรดแต่ก็ลงไปนอนกองในครึ่งวิ ชาร์ลูที่เห็นแบบนั้นก็เดินชิลๆเข้าไปลวนลามออเฟียพร้อมกับจับเธอใส่ปลอกคอทาส เซเรียที่เห็นแบนนั้นจึงตัดสินใจยิงเซเรียบีมพลังสูงเข้าใส่ชาร์ลูเพื่อขัดจังหวะแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะถูกอัลเฟรดเข้ามาช่วยปกป้องชาร์ลูเอาไว้

ชาร์ลูที่โกรธมากเพราะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีจึงวิ่งเข้าไปตบหน้าเซเรียกระเด็นลอยหมุนตัวตกลงไปกลิ้งบนพื้น และก็เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ฮู๊คลุมหน้าของเซเรียอยู่ถูกเปิดออกและเผยใบหน้าที่แท้จริงออกมา

แต่แล้วในจังหวะนั้นเองที่พวกกองทหารได้แตกตื่นเพราะมีใครคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ด้วยความเร็วแสง ชาร์ลูที่เห็นได้รู้ทันทีว่าเรสแพ้ให้กับฮารุโตะแล้ว เขาจึงสั่งให้กองทหารโจมตีใส่ฮารุโตะแบบไม่ต้องยั้ง รุยเองที่เห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปช่วยยิงธนูเทพโจมตีใส่ฮารุโตะด้วย

แต่แล้ว ทั้งเวทมนต์โจมตีทุกรูปแบบจากกองทหาร 5000 นาย และกองอัศวินกริฟฟ่อน 50 นาย ก็ไม่แม้แต่จะสร้างรอยขีดข่วน ไม่สิ เพียงแค่ลดความเร็วของฮารุโตะลงก็ยังทำไม่ได้เลย และเมื่อฮารุโตะเข้าไปใกล้เค้าก็จะสร้างพายุออกมาระเบิดกองทหารหลายร้อยคน พวกกองอัศวินกริฟฟ่อนเองก็ถูกเป่ากระจุยร่วงหัวทิ่มดินด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเช่นเดียวกัน

จากนั้นเมื่อฮารุโตะหันไปเห็นว่าเจ้าหญิงคริสติน่ากำลังถูกรังแก แถมพวกออเฟียยังมาถูกชาร์ลูลวนลามอีก เค้าก็เลยรู้สึกโกรธอย่างสุดขีด ฮารุโตะได้ตะโกนถามออกไปเสียงดังสุดๆว่าพวกเธอยังมีชีวิตกันอยู่ไหม และถึงแม้คนส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าฮารุโตะถามอะไรกับใคร แต่เจ้าหญิงคริสติน่าที่สามารถเข้าใจถึงหัวใจของฮารุโตะอย่างลึกซึ้งก็รีบตอบกลับไปในทันทีว่าทุกคนเพียงแค่สลบไปเท่านั้น

แต่เนื่องจากในเวลาปกตินั้นฮารุโตะเป็นคนที่แสดงรอยยิ้มอ่อนโยนต่อทุกคนอยู่เสมอ เจ้าหญิงคริสติน่าแสนสวยของเราจึงรู้สึกเสียวสยิววูบวาบไปทั้งตัวและหัวใจ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าเธอพึ่งจะเคยได้เห็นใบหน้าของฮารุโตะที่แสดงอาการโกรธอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก

จากนั้นพวกซาร่าจะตามมาทัน ฮารุโตะจึงบอกให้พวกเธอไปช่วยดูแลเจ้าหญิงคริสติน่าผู้แสนจะงดงามและคนอื่นๆที่สลบไป ส่วนตัวเค้าจะจัดการกับศัตรูตรงนี้ทั้งหมดด้วยตัวเองเพียงคนเดียว

ฮารุโตะหันไปถามชาร์ลูว่าเป็นแกใช่ไหมที่ทำแบบนี้ ชาร์ลูจึงตอบว่าเป็นฝีมืออัลเฟรด แต่ฮารุโตะก็บอกว่ามันต้องเป็นคำสั่งของแกแน่ๆและกำลังจะพุ่งเข้าใส่ชาร์ลู อัลเฟรดที่เห็นดังนั้นก็รีบบอกให้ชาร์ลูรีบหนีไปก่อนและพยายามเข้าไปขวางฮารุโตะ แต่ก็โดนฮารุโตะสวนกลับทีเดียวกระเด็นปลิวลงไปนอนกลิ้ง

รุยจะเข้ามาทักทายฮารุโตะด้วยรอยยิ้มและบอกว่าถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ อยากจะเจอกันในสถานการณ์อื่น โดยฮารุโตะจะตอบว่าเค้าเองก็เหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไงเค้าก็จะไม่ยอมให้รุยพาตัวเจ้าหญิงคริสติน่ากลับไปแน่ๆ เพราะงั้นขอให้รุยช่วยรออยู่ตรงนี้และอย่าได้เข้ามายุ่งเกี่ยว

แต่รุยก็บอกว่าเค้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะว่าเค้านั้นเป็นผู้กล้าแห่งอาณาจักรเบลทรัม มันเป็นหน้าที่ของเค้าที่จะต้องสู้กับฮารุโตะ และก็เนื่องจากอัลเฟรดฟื้นกลับมาพอดี ทั้งสองจึงได้ช่วยกันรุมฮารุโตะ แต่สุดท้ายถึงแม้ทั้งคู่จะใช้พลังอย่างเต็มที่แล้วก็ยังพ่ายแพ้ให้กับฮารุโตะในเวลาแค่ครู่เดียว

จากนั้นฮารุโตะก็ไล่ตามไปหาชาร์ลู โดยพวกทหารทั้ง 5,000 ที่ได้เห็นการต่อสู้ของฮารุโตะก่อนหน้านี้ต่างก็หวาดหลัวและถอยหนีจากฮารุโตะโดยไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะเข้าไปช่วยปกป้องชาร์ลู

ชาร์ลูจะถามฮารุโตะว่าแกมันเป็นตัวอะไรวะ ฮารุโตะจึงตอบว่าเค้าก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ชาร์ลูจึงขำด้วยความแมวเสียงดัง ฮารุโตะก็เลยกระทืบชาร์ลูสองสามทีก่อนจะลากคอชาร์ลูกลับไปมอบให้กับเจ้าหญิงคริสติน่าผู้ที่กำลังเฝ้ารอฮารุโตะด้วยความซาบซึ้ง

ในวันนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ได้เป็นที่ประจักษ์ต่อทั้งโลก นั่นก็คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่ทำให้กองทหารมากกว่า 5,000 นายหวาดกลัวและไม่กล้าแม้แต่ที่คิดจะชักดาบขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้า บุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ว่าจะกำลังพลหรือแผนการรบใดๆก็ไม่อาจจะเอาชนะเค้าได้ และบุคคลที่ว่านั้นก็มีตัวตนอยู่จริงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวที่แต่งขึ้น อามาคาว่า ฮารุโตะ ตัวตนของเค้าได้ทำให้ทุกประเทศภายในผืนทวีปนี้สั่นคลอน

บทส่งท้าย ความรักของเจ้าหญิงนั้นเป็นสิ่งที่ควรจะเก็บซ่อนไว้เป็นความลับ

คริสติน่ารู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าเธอ

ในเวลาอีกไม่นานหลังจากนี้ ทุกๆประเทศคงจะต้องเคลื่อนไหว ทุกๆประเทศจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งตัวฮารุโตะเป็นแน่

และนี่ก็ไม่ใช่เพียงความคิดของเธอคนเดียว มันไม่ใช่เพียงแค่รู้สึกไปเอง ไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์ ฮารุโตะนั้นเป็นตัวตนที่พิเศษ การที่ฮารุโตะสามารถสยบกองทหารมากกว่า 5,000 นายได้ด้วยตัวคนเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป

ทั้งๆที่เมื่อก่อนเค้านั้นถูกโดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพัง ทั้งๆที่เมื่อก่อนนั้นเค้ามีฐานะอยู่ในจุดต่ำสุด ความเสียใจและความรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรกับฮารุโตะในอดีตได้นั้นทำให้คริสติน่ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

แต่แล้วความรู้สึกเหล่านั้นก็ได้ถูกลบล้างไปเพราะความรักที่เธอมีต่อฮารุโตะ ความรู้สึกรักและชื่นชมที่มีต่อตัวตนของฮารุโตะนั้นได้เข้ามาแทนที่ความรู้สึกผิดและความเสียใจทั้งหมดที่เธอมีอยู่

ถ้าหากว่าฮารุโตะได้เกิดมาเป็นคนของราชวงศ์เบลทรัมล่ะก็ บางทีอาณาจักรเบลทรัมก็คงจะไม่ต้องมาเผชิญกับเรื่องราวแบบนี้

หรือถ้าหากฮารุโตะได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแล้วล่ะก็ เพียงแค่ได้จินตาการภาพของตัวเธอที่ยืนอยู่เคียงข้างฮารุโตะมันก็ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่น ฮารุโตะที่มีพลังมากมายนั้นเจิดจ้า ส่วนตัวเธอที่อ่อนแอแล้วทำได้เพียงแค่ขอยืนอยู่เคียงข้างเค้านั้นช่างน่าอาย

แต่ทั้งหมดนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ภาพมายา มันเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นในความเป็นจริงได้ นั่นก็เพราะบาปที่อาณาจักรเบลทรัมเคยทำกับฮารุโตะในอดีตนั้นไม่มีทางที่จะลบล้างออกไปได้ เพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ความเจ็บปวดภายในหัวใจของเธอกลับมาอีกครั้ง

เพราะงั้นแล้ว.....ความรักและความรู้สึกที่เธอมีต่อฮารุโตะนั้นจึงเป็นสิ่งที่เธอควรจะเก็บซ่อนมันเอาไว้ เธอจะเก็บซ่อนความรู้สึกนี้เอาไว้เป็นความลับ คริสติน่าได้ตัดสินใจเรื่องนี้ในขณะที่เฝ้ามองฮารุโตะค่อยๆเดินมาหาเธอ

จบเล่ม 12

หลังจบเล่มนี้ ผู้แต่งได้บอกว่าเรื่องราวความในใจของคริสติน่านั้นเป็นสิ่งที่อยากจะเขียนตั้งแต่เริ่มต้นเขียนเรื่องนี้ในเล่มที่ 1 แล้ว

สำหรับเล่ม 13 นั้นมีบอกเอาไว้ว่าฮารุโตะจะเดินทางไปตามหาลูชิอุสที่จักรวรรดิฟลอเกียเพื่อล้างแค้น ส่วนลูชิอุสนั้นก็ได้กำลังจ้องมองไปยังเด็กสาวสองคน เค้าคิดจะใช้เด็กสาวสองคนนี้ในการล้างแค้นกับฮารุโตะ