-- มุมมองของสเตฟานี่ --
ช่วงเย็นของวันที่
2 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่
837
ตัวชั้น
สเตฟานี่ วอน เอลเนสตี้ บุตรสาวคนโตแห่งตระกูลเอลเนสตี้
ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นสตรีศักดิ์สิทธิคนใหม่แห่งศาสนจักร
และจากวันนั้นก็พึ่งจะผ่านมาได้เพียงไม่ถึงหนึ่งปี
สำหรับตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิแห่งศาสนจักรนั้นถือเป็นตำแหน่งที่มีเกรียติสูงสุดเทียบเท่าได้กับตำแหน่งของสังฆราช
โดยแต่เดิมแล้วมันเป็นตำแหน่งที่จะถูกมอบให้กับเด็กสาวที่มีความสามารถในการรับคำทำนายจากเทพธิดา
แต่เรื่องเหล่านั้นมันก็เป็นเพียงอดีตเท่านั้น
เพราะในปัจจุบันนั้น ขอเพียงเป็นเด็กสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดี มีความสามารถในการแสดง
และยังได้รับการสนับสนุนจากเหล่านักบวชและขุนนางมากเพียงพอ
พวกเธอก็สามารถได้รับตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิมาครอบครองได้โดยไม่ยากนัก
และยิ่งสำหรับตัวชั้นที่ถูกพร่ำสอนถึงการแสดงและการใช้คำพูดหลอกลวงผู้คนมาตั้งยังเด็กนั้น
การแสดงตัวเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ
การเสแสร้งและหลอกลวงผู้คนด้วยคำทำนายจอมปลอมเหล่านั้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับตัวชั้นยิ่งกว่าสิ่งใด
และด้วยพลังอำนาจของตระกูลรวมถึงคำลวงของสตรีศักดิ์สิทธิ
จึงทำให้ตระกูลของชั้นในตอนนี้กลายมาเป็นผู้มีอำนาจอันดับหนึ่งในทวีปยูลูฟแห่งนี้
และนั่นทำให้ไม่ว่าชั้นจะต้องการหรือจะกระทำสิ่งใด ก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะมาขัดขืน
ภายในห้องโถงคฤหาสน์ของตระกูลเอลเนสตี้ซึ่งตั้งอยู่ในเขตขุนนางของเมืองเอลซาเรียซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจักรวรรดิเอลติซแห่งทวีปยูลูฟ
และในตอนนี้ชั้นกำลังอยู่ในระหว่างการกล่าวทักทายเหล่าแขกคนสำคัญซึ่งได้มาเข้าร่วมงานเลี้ยง
ซึ่งก็เหมือนกันกับทุกๆครั้ง ด้วยอำนาของตระกูลเอลเนสตี้รวมถึงคำลวงของสตรีศักดิ์สิทธิ
ชั้นได้รวบรวมทาสเผ่าเอล์ฟมากมายมาเพื่อใช้ในการต้อนรับแขก
「ฮ่า ฮ่า ร้องเข้าไปอีกสิ ร้องดังๆเลยสิ
ยัยเอล์ฟร่าน!!! ฮ่า
ฮ่า」
「โอ๊สสสส สุดยอดเลย!! นี่มันสุดยอดเลยจริงๆ!!
ไม่ว่าจะกี่รอบก็ยังตอดแน่นได้อารมณ์ สมแล้วที่เป็นพวกเผ่าพันธุ์แห่งทาสความใคร่
โอ๊สสสส เสียววว!!!」
「ฮ่า ฮ่า ใบหน้าแบบนั้นแหละ!! สายตาแบบนั้นแหละ!! เจ้าทำให้ข้าพอใจจริงๆ ฮ่า ฮ่า」
เหล่าแขกที่เข้าร่วมงานต่างพากันสนุกสนานไปกับการข่มขืนและการทรมานพวกเอล์ฟสาวๆด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
เสียงของพวกเอล์ฟสาวทั้งหลายที่กรีดร้องไปด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่ว
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของพวกเธอมันก็ทำให้เหล่าแขกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
พวกทาสเผ่าเอล์ฟนั้นเป็นสินค้าที่ราคาสูงกว่าเผ่าอื่นๆมาก
ซึ่งเหตุผลนั้นก็เพราะพวกเธอนั้นล้วนแล้วแต่มีใบหน้าที่งดงาม
และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเพียงใดก็ยังดูเป็นเหมือนเด็กสาวแรกรุ่นอยู่เสมอ
「ดูเหมือนจะถูกใจมากเลยนะคะ ไวส์เคานท์เลนาร์ท」
ชั้นเข้าไปกล่าวทักทายไวส์เคานท์เลนาร์ทที่กำลังกระแทกช่วงล่างใส่เอล์ฟสาวแสนสวยคนหนึ่งอย่างสนุกสนานด้วยรอยยิ้มจอมปลอม
ไวส์เคานท์เลนาร์ทนั้นเป็นขุนนางของอาณาจักรเมลเดียร์ซึ่งเป็นอาณานิคมทางตอนใต้
เนื่องจากทางอาณาจักรเมลเดียร์นั้นเป็นอาณาจักรแห่งทะเลทราย การจะได้ตัวทาสเอล์ฟไปครอบครองจึงเป็นเรื่องยาก
ดังนั้นชั้นจึงคิดว่างานเลี้ยงในครั้งนี้คงจะทำให้เจ้าตัวพึงพอเข้าใจเป็นอย่างมากแน่
「โฮ่ โฮ่ ช่วงเอวของสาวเอล์ฟพวกนี้สุดยอดมากเลยล่ะท่านหญิงสเตฟานี่
ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมารู้สึกดีสุดๆแบบนี้อีกครั้ง โฮ่ โฮ่」
ไวส์เคานท์เลนาร์ทตอบกลับมาด้วยสีหน้าพึงพอใจ
ตระกูลเอลเนสตี้ของเรากำลังต้องการกำลังทหารเป็นจำนวนมากเพื่อเข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่กับอาณาจักรออร์ธรอสที่กำลังจะมาถึง
ด้วยชื่อเสียงของเหล่าจอมเวทที่เก่งกาจรวมถึงอาวุธเวทมนต์ที่น่าหวาดกลัว
ทำให้ลำพังกำลังทหารภายในนั้นคงจะไม่เพียงพอ
เพราะเหตุนั้นเองชั้นจึงได้เป็นตัวแทนของตระกูลในการช่วยร่วมรวบทหารจากอาณาจักรอาณานิคมต่างๆ
ซึ่งไวส์เคานท์เลนาร์ทเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีกำลังทหารมากในเขตทะเลทรายทางตอนใต้
ชั้นจึงคิดว่าความพึงใจของไวส์เคานท์เลนาร์ทตรงหน้านี้คงจะช่วยพวกเราได้ไม่มากก็น้อย
「เพร้ง!! 」「เพร้งงงง!! 」「ตูมมมมม!!」「เพร้ง!! 」「ตูมม!!」
และในขณะที่ชั้นกำลังคิดเรื่องนี้อยู่
ไฟทุกดวงจากอุปกรณ์เวทภายในห้องโถงก็ดับลง
พร้อมๆกันนั้นก็ได้ยินเสียงกระจกแตกและเสียงระเบิดตามมา
「ฟุเคี๊ยะ!!! ปะ ปล่อยนะ!!」「ไฟดับ......อ๊ากกก!!!」「ฟุเนี๊ยะ!!!」「โอ๊ย เกิดอะไรขึ้นวะ อั่กกก!!!」「พวกแกเป็นใครวะ ข้าเป็นขุนนางวะโว๊ย อ๊ากกก!!!」
หลังจากนั้นก็เกิดเสียงกรีดร้องมากมายดังขึ้นทั่วห้องโถง ทั้งเสียงกรีดร้องของพวกทาสสาวเผ่าเอล์ฟที่ดูเหมือนจะถูกบังคับเอาตัวไป
พวกแขกทั้งหลายที่กำลังสนุกสนานอยู่ต่างก็พากันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ความสับสนวุ่นวายแผ่ออกไปภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
ตัวชั้นเองที่กำลังตกใจกับสถานที่ไม่คาดถึงเองก็......
「ฟุเนี๊ยะ!! คะ ใครน่ะ!! ปะปล่อยนะยะ!! ฟุเนี๊ยะ!! อย่าจับตรงนั้นนะ!!」
ชั้นกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
นั่นก็เพราะมีใครบางคนที่เข้ามาล็อคตัวชั้นจากทางด้านหลัง นอกจากนั้นก็ยังขยำหน้าอกทั้งสองข้างของชั้นต่อเนื่องหลายต่อหลายครั้งราวกับเป็นของเล่นสนุก
และถึงแม้ชั้นจะพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่อาจจะสู้แรงของฝ่ายนั้นได้
「ผมนึกว่าเพราะตัวเธอเองไม่มีอะไรดีก็เลยต้องใช้พวกเอล์ฟมาทำงานแทน
แต่หน้าอกของเธอกลับสู้มือใช่เล่นเลยนะ หน้าตาและผิวพรรณเองก็ไม่เลว เจ้าทัตสึคงจะดีใจแน่หากได้ตัวเธอเป็นของฝาก
เธอว่างั้นมั๊ย ริกะจัง?」
「ชั้นเองก็คิดว่าทั้งหน้าตาและรูปร่างของเธอคงจะถูกใจทัตสึยะซังเหมือนกันค่ะ
และถึงแม้รสนิยมและนิสัยของยัยสตรีศักดิ์สิทธิจอมปลอมนี่จะเลวร้ายไปสักหน่อย แต่ทัตสึยะซังคงจะสามารถฝึกฝนให้เธอกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆได้แน่ค่ะ」
ตัวชั้นถึงแม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเค้ากำลังพูดคุยสักเท่าไหร่นัก
แต่ชั้นก็พอจะทราบได้ว่าพวกเค้าต้องการจะพาชั้นไปขายให้กับใครบางคนในฐานะทาสความใคร่
ไอ้พวกระยำต่ำทรามอวดดีพวกนี้นี่ คิดว่าชั้นคนนี้เป็นใครกันแน่ยะ
「ท่านผู้กล้า ช่วยชั้นด้วยค่า!!! ข้อร้องล่ะค่ะท่านผู้กล้า!! เจ้าพวกคนชั่วนี่มันคิดจะข่มขืนชั้น!! ช่วยชั้นด้วย
ชั้นอยู่ตรงนี้ ช่วยชั้นด้วยค่า!!!」
ถึงแม้ชั้นจะไม่รู้ทั้งจำนวนและความสามารถของศัตรู
แต่นี่น่ะถือว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว เพราะงั้นชั้นจึงไม่ลังเลและตัดสินใจขอความช่วยเหลือ
ชั้นเร่งพลังมานาและเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทขยายเสียงในรูปสร้อยคอที่ติดตัวเอาไว้ในทันที
เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนของชั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ
เสียงที่ถูกส่งผ่านอุปกรณ์เวทนั้นดังมากพอที่จะให้ทุกคนภายในคฤหาสน์นี้ได้ยิน
ดังนั้นเสียงร้องขอความช่วยเหลือของชั้นจะต้องดังไปถึงหูของท่านผู้กล้า ที่องค์จักรพรรดิได้ส่งตัวมาช่วยเหลือตระกูลเอลเนสตี้ของเราอย่างแน่นอน
ตามปกติแล้วพวกท่านผู้กล้าจะไม่ปรากฏออกมาเบื้องหน้าเท่าใดนัก
ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะองค์จักรพรรดิเลคซิอุสต้องการจะเก็บตัวตนและความสวามารถของพวกเค้าเอาไว้เป็นเป็นความลับให้มากที่สุด
แต่นี่น่ะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางศัตรูเองก็มีความสามารถมากพอที่จะบุกรุกผ่านพวกอัศวินคุ้มกันคฤหาสน์จำนวนมากเข้ามาได้โดยที่ผู้คนในคฤหาสน์ไม่รู้ตัว
ดังนั้นชั้นจึงคิดว่าการตัดสินใจของชั้นนั้นถูกแล้ว
และหากองค์จักรพรรดิคิดจะเอาผิดจริงๆล่ะก็ ถึงตอนนั้นค่อยมาคิดหาทางแก้ไขอีกที
「ผู้กล้างั้นรึ?..............!!」「ฟุเคี๊ยะ!! มันเจ็บนะยะ!!」
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ชายหนุ่มที่จับตัวชั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็ผลักชั้นไปด้านหลังพร้อมกับชักดาบสีเงินขึ้นมาเพื่อตั้งรับในทันที
ตัวชั้นที่ถูกผลักนั้นถึงกับล้มลงไปกระแทกกับพื้น
「เกร๊งง!!」「โฮ่ ฝีมือดีเลยนี่!! มีฝีมือระดับแกไม่น่าจะมาเป็นโจรล่าทาสเลยจริงๆนะ!!」「เกร๊งง!!」「แกสินะที่ถูกเรียกว่าผู้กล้า น่าสนุกจริงๆนะนี่」「เกร๊งง!!」
เสียงดาบปะทะกันหลายต่อหลายครั้งดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง
เนื่องจากสายตาของชั้นเริ่มชินกับความมืดบ้างแล้ว เพราะงั้นจึงพอจะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
ซึ่งภาพที่มองเห็นอยู่ตรงหน้านั้นก็คือท่านผู้กล้า ฮิโรมิ ยูตะ ฟาดฟันและแทงเรเปียร์เข้าใส่ชายหนุ่มที่จับตัวชั้นไว้ก่อนหน้านี้ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
แต่การที่ชายหนุ่มผู้นี้สามารถรับดาบของท่านผู้กล้า
และยังสามารถไล่ตามความเร็วอันน่าเหลือเชื่อได้ทันนั้นก็ยิ่งทำให้ชั้นรู้สึกประหลาดใจมากกว่า
「ท่านผู้กล้า สู้เค้านะค๊า!!」
ชั้นตะโกนเชียร์ท่านผู้กล้าออกไป
และนั่นก็ทำให้ชั้นพึ่งจะรู้สึกตัว
เพราะนอกจากเสียงกับท่านผู้กล้าที่กำลังปะทะดาบกับชายหนุ่มผู้นั้นแล้ว
ชั้นไม่ได้ยินเสียงของพวกแขกหรือพวกทาสเผ่าเอล์ฟเลยแม้แต่นิดเดียว
และในตอนนั้นเองชั้นจึงได้มองออกไปรอบๆห้อง
ถึงแม้จะไม่มีแสงจากตะเกียงหรืออุปกรณ์เวท แต่เนื่องจากในคืนนี้แสงจันทร์ทั้งสองค่อนข้างที่จะสว่าง
จึงทำให้ชั้นพอจะเข้าใจสภาพโดยรอบห้องโถงได้เป็นอย่างดี ซึ่งภาพที่เห็นนั่นก็ทำให้ชั้นถึงกับพูดไม่ออก
「พวกทาสเอล์ฟหายไปหมด......พวกขุนนางและแขกทุกคนถูกสังหาร?」
ถ้าหากต้องการพวกทาสและผู้หญิงเพื่อนำไปขายชั้นก็พอจะเข้าใจอยู่
แต่ทำไมถึงต้องฆ่าพวกขุนนางและพวกพ่อค้าด้วยล่ะ
หากทำแบบนี้ก็เท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรูกับจักรวรรดิเอลติซ
เพราะทางจักรวรรดิไม่มีทางที่จะอยู่เฉยและคงจะส่งหน่วยอัศวินชั้นสูงออกตามล่าเป็นแน่....เจ้าพวกนี้มันคิดจะทำอะไรกัน?
「ก็แค่พวกพ่อค้าขยะที่ฉ้อโกงและหลอกลวงผู้คน
กับพวกขุนนางเน่าเหม็นที่ขูดรีดประชาชน ไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจชีวิตของพวกมันเลยนี่คะ?」
เด็กสาวที่พูดกับชายหนุ่มก่อนหน้านี้พูดออกมาด้วยท่าทางไม่เดือดร้อน
อะไรกันล่ะยะไอ้หน้าตาสบายๆแบบนั้นน่ะ นี่พวกแกคิดจะเป็นศัตรูกับจักรวรรดิเอลติซจริงๆเหรอ
ไอ้เรื่องโง่ๆแบบนี้เนี่ยคิดได้ยังไงกันยะ
「พวกรู้รึเปล่าว่าทำแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น จักรวรรดิไม่มีทางปล่อยพวกแกไปง่ายๆหรอกนะ!!」
「น่าตลกจริงๆเลยนะคะ ฟุฟุ」
「มีอะไรน่าขำกันยะ? แล้วจะพาชั้นไปไหน
ปล่อยชั้นนะยะ!! ท่านผู้กล้าช่วยชั้นด้วยค่า!!!」
เด็กสาวไม่ตอบคำถาม แต่เธอกลับส่งเสียงหัวเราะออกมาแทน
จากนั้นเธอก็ดึงแขนของชั้นและลากตัวออกไปจากห้องโถง
ชั้นพยายามจะขัดขืนแต่ก็ไม่อาจจะสู้แรงของเธอได้ อะไรกันล่ะเนี่ย
ยัยนี่แรงเยอะชะมัดเลย!!
เพราะไม่มีทางเลือกอื่นชั้นจึงพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือไปยังท่านผู้กล้า
แต่ในตอนนั้นเองก็ทำให้ชั้นรับรู้ถึงความจริงที่น่าสิ้นหวัง เพราะท่านผู้กล้า
ฮิโรมิ ยูตะ ที่มีฉายาว่าเทพแห่งความเร็วได้พ่ายแพ้และนอนจมกองเลือดไปเสียแล้ว....
「เจ้าผู้กล้านั่นสุดยอดเลย ทำเอาดาบหักไปตั้งสองเล่มแหนะ
สุดยอดจริงๆ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาเจอเรื่องสนุกๆแบบนี้ หึหึ」
「........」
ชายหนุ่มที่ตามพวกเรามาทีหลังพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนชั่วร้าย
เจ้าพวกนี้มันอะไรกัน การที่จะเอาชนะผู้กล้าที่ได้รับพรจากเทพธิดาได้นั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้.......แล้วทำไม......คนพวกนี้เป็นใครกัน.....พวกมันเป็นมนุษย์แน่อย่างงั้นเหรอ......เพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ชั้นรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว.....
「ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ได้ฆ่าเจ้านั่นไปหรอกนะ
แววตาเคียดแค้นของเจ้าผู้กล้าที่พ่ายแพ้แล้วถูกแย่งผู้หญิงที่ตัวเองชอบไปต่อหน้ามันน่าสนใจมากเลยล่ะ
สักวันหนึ่งเจ้านั่นคงจะต้องมาล้างแค้นแน่ๆ น่าสนุกมากเลยใช่ไหมล่ะ หึหึ」
「น่าสนุกจริงๆด้วยค่ะอากิโอะซัง
ถ้าเจ้าผู้กล้านั่นได้มาเห็นยัยนี่กลายเป็นยัยร่านที่ยอมถ่างขาให้ทัตสึยะซังทุกที่ทุกเวลาจะทำหน้ายังไงกันแน่นะคะ
ฟุฟุฟุ」
กับคำพูดของพวกมันชั้นอยากจะเถียงกลับไป
แต่ตัวชั้นที่สั่นกลัวก็ไม่สามารถพูดอะไรตอบกลับไปได้เลยแม้แต่เพียงคำเดียว
นี่ชั้นจะต้องถูกทำให้กลายเป็นทาสความใคร่ที่ยอมถ่างขาทุกที่ทุกเวลาตามที่พวกมันพูดจริงๆงั้นเหรอ......
.....ใครก็ได้.....ช่วยชั้น......ได้โปรดช่วยชั้นด้วย.....แต่ไม่ว่าชั้นจะภาวนาต่อเหล่าเทพธิดาไปมากสักเพียงใด..........ก็ไม่มีผู้ใดตอบรับคำขอร้องของชั้นกลับมาเลยแม้แต่เพียงคนเดียว.........
ไม่อยู่อีกประมาณ 2 อาทิตย์นะครับ -0-//
ตอบลบตอนต่อไปมากิจังจะมีบทแล้ว เย่ -0-//
ตับเตรียมระเบิด !!
ตอบลบในที่สุดอากิก็มีบทนึกว่าจะหายไปแล้วซะอิก
ตอบลบจะเริ่มกลับมามีบทบ้างละครับ -0-//
ลบ