ตอนที่ 15 ล่าโจรสลัด บทที่ 6



ช่วงสายของวันที่ 7 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 837

สะ สเตล่า ขะ ขวางมันเอาไว้!!

เจ้าชายวัยกลางคืนตะโกนขึ้นมาด้วยสีหน้าวิตกกังวลก่อนจะมองไปรอบๆเพื่อหาหนทางในการหลบหนี แต่ที่นี่น่ะเป็นกลางทะเล แถมเรือของพวกมันก็ถูกยึดเอาไว้หมดแล้ว เพราะงั้นไม่ว่าเจ้านั่นจะดิ้นรนยังไงก็ไม่มีทางจะหนีไปได้แน่นอน

แล้วก็ดูเหมือนว่าทั้งชื่อและรูปร่างหน้าตาของผมจะเป็นที่รู้จักกันอย่างมาก เพราะแค่เพียงผมประกาศชื่อออกไป ทั้งเจ้าชายวัยกลางคนนี่ ทั้งเด็กสาวที่ถูกจับตัวมา และยังเด็กสาวที่ถือดาบอยู่ด้านหลัง ทุกคนต่างก็แสดงออกถึงความประหลาดใจออกมา

ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีหากสามารถที่จะจบเรื่องวุ่นวายแบบนี้ลงได้อย่างรวดเร็ว

ต้องขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ ชั้นชื่อสเตล่า มัลฟราวด์ แต่ถึงแม้คุณจะเป็นทัตสึยะซามะตัวจริง ชั้นก็ยังจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของผู้ชายคนนั้น หรือถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะขอให้ปล่อยพวกเราหนีไป จะได้หรือเปล่าคะ

เด็กสาวถือดาบยาวที่อยู่ด้านหลังชายวัยกลางคนเดินออกมาด้านหน้าพร้อมกับกล่าวแนะนำตัว เธอเป็นเด็กสาวที่มีดวงตาสีม่วงท่าทางสุขุมเยือกเย็น เธอมีผมสีเทาม่วงยาวไปถึงช่วงสะโพก และหากดูจากแรงกดดันที่ปะทุออกมาจากฝักดาบของเธอแล้วล่ะก็ ผมสามารถบอกได้เลยว่าทั้งฝีมือและสกิลการใช้ดาบของเธอคงจะต้องอยู่ในระดับสูงแน่นอน

สะ สเตล่า มัลฟราวด์!! เด๋วสิ!! หรือว่าเธอจะเป็นนักดาบหญิงอัจฉริยะที่หายตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน ทะ ทะไมเธอถึงได้ไปอยู่กับโจรชั่วพวกนี้กันล่ะ!!

พอได้ยินชื่อของเด็กสาวคนนั้น เมรินจังก็พูดออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ หากเด็กสาวคนนี้เป็นนักดาบหญิงอัจฉริยะล่ะก็ ผู้คนมากมายคงจะต้องการตัวเธอเป็นแน่

ไม่ว่าจะพวกขุนนางหรือกิลด์ต่างๆก็ล้วนแล้วแต่แสดงหาบุคลากรที่มีความสามารถ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องแปลกที่เด็กสาวมากความสามารถอย่างเธอกลับต้องไปอยู่กับพวกโจรสลัดที่ทำแต่เรื่องเลวร้าย

ไม่สิจะสรุปไปแบบนั้นก็คงไม่ได้ เพราะหากพูดถึงโลกใบนี้แล้วล่ะก็ มันยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน บางทีเธออาจจะถูกควบคุมโดยอุปกรณ์บางอย่าง หรือเธออาจจะกำลังทำเพื่อคนรักหรืออะไรบางอย่างก็เป็นได้

ต้องขอโทษด้วยละกัน ผมเองก็พอเข้าใจว่าบางทีเธออาจจะมีเหตุผลสำคัญที่ต้องมาทำแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นผมก็คงจะปล่อยพวกมันที่ทำเรื่องแบบนี้......ไม่สิไม่ใช่แค่พวกมันเท่านั้น........ไม่ว่าใคร หากคิดจะเข้ามาขวางทางล่ะก็ ผมจะไม่ปล่อยไปทั้งนั้น เธอคงเข้าใจความหมายของมันสินะ

ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา การปล่อยเจ้านั่นไปไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้ผมจะไม่ได้เดือดร้อนอะไร....แต่กับเธอคนนั้น....กับเด็กสาวที่กำลังนั่งน้ำตาคลอในสภาพที่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรงคนนั้นแล้ว หากผมปล่อยมันไปล่ะก็เธอคงจะไม่สามารถทำใจได้ยอมรับในสิ่งที่ผมทำได้แน่ๆ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็คงไม่มีทางเลือก เชิญหนีไปก่อนได้เลยค่ะ แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต ชั้นก็จะขวางเทพสงครามทมิฬแห่งอาณาจักรเวทมนต์เอาไว้ให้ได้ค่ะ

เมื่อเด็กสาวที่ชื่อสเตล่าพูดจบเธอก็ค่อยๆชักดาบยาวของเธออกจากฝักช้าๆ ส่วนเจ้าโจรสลัดนั่นก็ได้วิ่งหนีไปทางด้านหลังเรียบร้อยแล้ว

นี่แก!! คิดว่าจะหนีไปได้ง่ายๆ.......วะ ว๊าย!!!! นี่ไม่ใช่เวลามาทำเรื่องแบบนี้นะคะ!!

ผมรีบบีบก้นของยัยโรน่าก่อนที่เธอจะพุ่งตัวเข้าไปในระยะโจมตีของเด็กสาวคนนั้น เพราะถึงแม้ยัยโรน่าจะใส่เสื้อคลุมที่ทำขึ้นด้วยสกิล Create Jacket ของผม แต่มันคงจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเด็กสาวคนนั้นได้แน่

โรน่าจัง เมรินจัง พวกเธอช่วยพาเด็กสาวคนนั้นไปรักษาทีนะ

ผมออกคำสั่งให้กับเมรินจังและโรน่าจัง ในพื้นที่แคบๆแบบนี้นั้น ผมเพียงคนเดียวจะต่อสู้ได้สะดวกกว่า ส่วนเจ้านั่นที่หนีไปนั้น ถึงมันจะมีประสบการณ์มากแค่ไหนก็คงไม่มีทางหลบพ้นสายตาพวกเราที่เฝ้าอยู่ด้านบนไปได้ง่ายๆแน่

นอกจากนั้นตอนนี้พวกยูเมะจังก็มาถึงเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นถึงแม้เจ้านั่นจะหนีลงไปในทะเลก็คงถูกอสูรรับใช้ของยูเมะจังจับตัวได้อยู่ดี ดังนั้นในตอนนี้ผมจึงต้องการให้ความสำคัญกับการดูแลคนที่บาดเจ็บเสียก่อน

จะ จะ สู้กับเธอคนนั้นด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอคะ แบบนี้มันเสี่ยงเกินไปนะคะ

เมรินจังพูดเสียงดังออกมาด้วยความเป็นห่วง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเธอจะรู้สึกเป็นห่วง เพราะถึงแม้เธอจะเคยได้ยินข่าวลือของพวกเรามาบ้าง แต่เธอก็ยังไม่เคยเห็นผมเอาจริงในการต่อสู้มาก่อน

ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะเมรินจัง ผมน่ะไม่เคยแพ้ในการต่อสู้มาก่อน ถึงอีกฝ่ายจะเป็นนักดาบสาวอัจฉริยะหรือจะเป็นใครก็ตาม ผมน่ะจะไม่มีทางแพ้ใครอย่างเด็จขาด

ผมพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงหยิบค้อนเหล็กขึ้นมาและพุ่งเข้าไปหาสเตล่าที่กำลังตั้งท่าเตรียมพร้อมอยู่ด้วยความรวดเร็ว

เกร๊ง!!!

เสียงค้อนของผมปะทะเข้ากับดาบของเธอดังกังวานไปทั่ว ซึ่งก็สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ เพราะเธอไม่ได้ใช้ดาบเข้าปะทะกับค้อนของผมตรงๆแต่ใช้วิธีการตั้งรับในจุดที่ผมไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่ก่อนจะเหวี่ยงตัวปัดค้อนของผมออกไปพร้อมกับโจมตีเข้ามาทางจุดบอด

ผมใช้มือซ้ายหยิบมีดสั้นออกมารับการโจมตีจากดาบของเธอก่อนจะหาจังหวะถอยห่างออกมาและพุ่งเข้าโจมตีสวนกลับไปอีกครั้ง แต่ทุกครั้งที่ผมพุ่งเข้าโจมตีเธอก็สามารถตั้งรับและตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วซะทุกครั้ง

การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบมาก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ การใช้มองหาจุดอ่อน หรือแม้แต่การใช้ข้อดีของพื้นที่ต่างระดับโดยรอบเข้ามาช่วยในการป้องกัน

อีกทั้งเธอยังมีสายตาที่แหลมคมและยังมีความยืดหยุ่นของร่ายกายที่ยอดเยี่ยม แถมยังสามารถใช้งานดาบยาวได้เต็มประสิทธิภาพแม้จะอยู่ในพื้นที่แคบๆ เรียกได้ว่าสมแล้วที่ผู้คนต่างเรียกเธอว่านักดาบสาวอัจฉริยะ การที่พวกเราต้องมาเป็นศัตรูกันนั้นผมรู้สึกว่ามันน่าเสียดายจริงๆ

ทักษะการใช้ดาบของเธอยอดเยี่ยมจริงๆเลยนะ สเตล่า มัลฟราวด์

ทัตสึยะซามะเองก็แทบไม่มีช่องโหว่เลยเช่นกันนะคะ

พวกเราต่างฝ่ายต่างยอมรับในฝีมือของกันและกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว

มันจะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าหากเธอจะยอมแพ้แล้วมาเป็นผู้หญิงของผมน่ะ

กับโจรสลัดที่ทำแต่เรื่องสกปรกอย่างชั้นก็ยังต้องการตัวเนี่ย ช่างเป็นคนเจ้าชู้เหมือนกับที่เค้าพูดกันเลยนะคะ

สเตล่าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสบายๆพร้อมกับพุ่งเข้ามาโจมตีด้วยความรวดเร็ว การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้ เธอยังคงฟาดฟันดาบยาวเล่มนั้นอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่เวลาในต่อสู้ผ่านไปหลายนาทีแล้วแต่ความเร็วของเธอก็ยังไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อย

ไม่คิดว่าผู้ชายแย่ๆแบบผมยิ่งเหมาะสมกับเธองั้นเหรอ

ผมตอบกลับไปในขณะที่พยายามหลบคมดาบที่แม่นยำของเธอ แต่ไม่ว่าจะหลบไปซักกี่ครั้งคมดาบของเธอก็ยังคงไล่ตามมาได้ตลอด หรือมันจะเป็นเพราะว่าช่วงหลังผมเอาแต่ทำงานเอกสารอยู่แต่ในเมืองฝีมือจึงตกลงกันนะ ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ผมคงไม่สามารถจับเธอด้วยตัวคนเดียวได้แน่ๆ

ถ้าหากเป็นเมื่อ 2 ปีก่อนล่ะก็ ชั้นคงจะตอบตกลงในทันทีแล้วล่ะค่ะ

สเตล่าตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่น้ำเสียงของเธอกลับแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อย บางทีเมื่อ 2 ปีก่อนคงจะเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้น

ขอโทษด้วยนะ แต่ผมน่ะตัดสินใจลงไปแล้ว เพราะงั้นถึงแม้จะต้องใช้วิธีขี้โกงซักหน่อย ผมก็ต้องเอาตัวเธอมาให้ได้……

ผมกระโดดถอยห่างออกมาพร้อมกับส่งสัญญาณให้กับฮารุกะจังที่อยู่ห่างออกไปทางด้านหลังของสเตล่า

Dimension Magic: World Binding!!!

……!!!

World Binding ของฮารุกะจังนั้นจะทำการเปลี่ยนพื้นที่โดยรอบให้กลายเป็นห้วงมิติ ผู้ที่ตกอยู่ภายในห้วงมิตินั้นไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้หากไม่ได้รับอนุญาต ต่อให้เป็นผมเองหากตกอยู่ภายในอาณาเขตของเวทมนต์นี้ล่ะก็ เรียกได้ว่าหมดหนทางที่จะต่อสู้เลยโดยไร้ข้อแม้เลยทีเดียว

ช่างเป็นเวทมนต์ที่สะดวกจริงๆเลยนะคะ ไม่นึกเลยว่ายมทูตชั้นในสีดำจะปรากฏตัวออกมาเร็วแบบนี้

สเตล่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทั่วทั้งร่างกายของเธอถูกผนึกเอาไว้ด้วยเวทมนต์จึงไม่สามารถกวัดแกว่งดาบของเธอได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงกำดาบในมือเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

แม้แต่เวทมนต์ของฮารุกะจังเธอก็รู้จักด้วยงั้นเหรอ แบบนี้พวกเราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกมากเลยสินะ

ผมพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ทั้งๆที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกถึงความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย หรือมันอาจจะเป็นเพาะเธอได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้วก็เป็นได้


-- Extra –

เด็กสาวคนนั้นสำคัญมากเลยงั้นเหรอคะ

ในสถานที่ต้องห้ามบริเวณชั้นใต้ดินของห้าง Seirien เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินเป็นประกายกำลังพูดกับใครคนหนึ่ง

หากเธอไม่ได้พบกับทัตสึยะซามะในวันนี้ล่ะก็ ในอนาคตเธอจะกลายเป็นคนที่ทำให้อาณาจักรแห่งนี้ต้องแตกแยกอย่างแน่นอน

แต่ครั้งนี้ถึงกับต้องเสียสละชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากมายเลยนะคะ มันไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอคะ.....

เด็กสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความไม่สบายใจนัก

นั่นสินะ ถ้าหากเลือกได้พวกเราเองก็ไม่อยากจะให้คนเหล่านั้นต้องมาตายไปแบบนี้เช่นกัน.........แต่หากไม่ทำแบบนี้ล่ะก็ พวกเค้าทั้งคู่จะต้องคลาดกันอย่างแน่นอน

ตั้งแต่วันที่เด็กสาวได้ให้คำสัญญา เธอก็ได้เตรียมใจยอมรับกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นเอาไว้แล้ว แต่ถึงมันจะเป็นการทำเพื่อความสุขของคนที่เธอรัก เธอก็ยังรู้สึกผิดต่อผู้คนมากมายที่ต้องมาตายด้วยมือของเธออยู่ดี..........

8 ความคิดเห็น:

  1. มาแล้ววววว ซับซ้อนจริงๆ ติดตามต่อไปครับ 555555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เริ่มค่อยๆเฉลยเนื้อเรื่องทีละนิด....

      ลบ
  2. คำตอบ
    1. รอก่อนครับ มันเขียนยากอยู่นา.....

      ลบ
  3. ข้าคือจอมมาร!!!?ว่าแต่ กี่ปีเรื่องนี่จะจบผมจะได้รออ่านที่เดียวเลย("//")

    ตอบลบ
  4. เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินนี่ใครครับ

    ตอบลบ