ช่วงสายของวันที่ 7 เดือน 1 ศักราชเอลติซปีที่ 837
「สะ สเตล่า ขะ ขวางมันเอาไว้!!」
เจ้าชายวัยกลางคืนตะโกนขึ้นมาด้วยสีหน้าวิตกกังวลก่อนจะมองไปรอบๆเพื่อหาหนทางในการหลบหนี
แต่ที่นี่น่ะเป็นกลางทะเล แถมเรือของพวกมันก็ถูกยึดเอาไว้หมดแล้ว
เพราะงั้นไม่ว่าเจ้านั่นจะดิ้นรนยังไงก็ไม่มีทางจะหนีไปได้แน่นอน
แล้วก็ดูเหมือนว่าทั้งชื่อและรูปร่างหน้าตาของผมจะเป็นที่รู้จักกันอย่างมาก
เพราะแค่เพียงผมประกาศชื่อออกไป ทั้งเจ้าชายวัยกลางคนนี่
ทั้งเด็กสาวที่ถูกจับตัวมา และยังเด็กสาวที่ถือดาบอยู่ด้านหลัง
ทุกคนต่างก็แสดงออกถึงความประหลาดใจออกมา
ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีหากสามารถที่จะจบเรื่องวุ่นวายแบบนี้ลงได้อย่างรวดเร็ว
「ต้องขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ ชั้นชื่อสเตล่า
มัลฟราวด์ แต่ถึงแม้คุณจะเป็นทัตสึยะซามะตัวจริง
ชั้นก็ยังจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของผู้ชายคนนั้น หรือถ้าเป็นไปได้
ก็อยากจะขอให้ปล่อยพวกเราหนีไป จะได้หรือเปล่าคะ」
เด็กสาวถือดาบยาวที่อยู่ด้านหลังชายวัยกลางคนเดินออกมาด้านหน้าพร้อมกับกล่าวแนะนำตัว
เธอเป็นเด็กสาวที่มีดวงตาสีม่วงท่าทางสุขุมเยือกเย็น
เธอมีผมสีเทาม่วงยาวไปถึงช่วงสะโพก
และหากดูจากแรงกดดันที่ปะทุออกมาจากฝักดาบของเธอแล้วล่ะก็ ผมสามารถบอกได้เลยว่าทั้งฝีมือและสกิลการใช้ดาบของเธอคงจะต้องอยู่ในระดับสูงแน่นอน
「สะ สเตล่า มัลฟราวด์!! เด๋วสิ!! หรือว่าเธอจะเป็นนักดาบหญิงอัจฉริยะที่หายตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน ทะ
ทะไมเธอถึงได้ไปอยู่กับโจรชั่วพวกนี้กันล่ะ!!」
พอได้ยินชื่อของเด็กสาวคนนั้น เมรินจังก็พูดออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
หากเด็กสาวคนนี้เป็นนักดาบหญิงอัจฉริยะล่ะก็ ผู้คนมากมายคงจะต้องการตัวเธอเป็นแน่
ไม่ว่าจะพวกขุนนางหรือกิลด์ต่างๆก็ล้วนแล้วแต่แสดงหาบุคลากรที่มีความสามารถ
ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องแปลกที่เด็กสาวมากความสามารถอย่างเธอกลับต้องไปอยู่กับพวกโจรสลัดที่ทำแต่เรื่องเลวร้าย
ไม่สิจะสรุปไปแบบนั้นก็คงไม่ได้ เพราะหากพูดถึงโลกใบนี้แล้วล่ะก็
มันยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน
บางทีเธออาจจะถูกควบคุมโดยอุปกรณ์บางอย่าง
หรือเธออาจจะกำลังทำเพื่อคนรักหรืออะไรบางอย่างก็เป็นได้
「ต้องขอโทษด้วยละกัน ผมเองก็พอเข้าใจว่าบางทีเธออาจจะมีเหตุผลสำคัญที่ต้องมาทำแบบนี้
แต่ถึงแบบนั้นผมก็คงจะปล่อยพวกมันที่ทำเรื่องแบบนี้......ไม่สิไม่ใช่แค่พวกมันเท่านั้น........ไม่ว่าใคร
หากคิดจะเข้ามาขวางทางล่ะก็ ผมจะไม่ปล่อยไปทั้งนั้น เธอคงเข้าใจความหมายของมันสินะ」
ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา การปล่อยเจ้านั่นไปไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน
เพราะถึงแม้ผมจะไม่ได้เดือดร้อนอะไร....แต่กับเธอคนนั้น....กับเด็กสาวที่กำลังนั่งน้ำตาคลอในสภาพที่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรงคนนั้นแล้ว
หากผมปล่อยมันไปล่ะก็เธอคงจะไม่สามารถทำใจได้ยอมรับในสิ่งที่ผมทำได้แน่ๆ
「ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็คงไม่มีทางเลือก เชิญหนีไปก่อนได้เลยค่ะ
แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต
ชั้นก็จะขวางเทพสงครามทมิฬแห่งอาณาจักรเวทมนต์เอาไว้ให้ได้ค่ะ」
เมื่อเด็กสาวที่ชื่อสเตล่าพูดจบเธอก็ค่อยๆชักดาบยาวของเธออกจากฝักช้าๆ
ส่วนเจ้าโจรสลัดนั่นก็ได้วิ่งหนีไปทางด้านหลังเรียบร้อยแล้ว
「นี่แก!! คิดว่าจะหนีไปได้ง่ายๆ.......วะ ว๊าย!!!! นี่ไม่ใช่เวลามาทำเรื่องแบบนี้นะคะ!!」
ผมรีบบีบก้นของยัยโรน่าก่อนที่เธอจะพุ่งตัวเข้าไปในระยะโจมตีของเด็กสาวคนนั้น
เพราะถึงแม้ยัยโรน่าจะใส่เสื้อคลุมที่ทำขึ้นด้วยสกิล Create Jacket ของผม
แต่มันคงจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเด็กสาวคนนั้นได้แน่
「โรน่าจัง เมรินจัง
พวกเธอช่วยพาเด็กสาวคนนั้นไปรักษาทีนะ」
ผมออกคำสั่งให้กับเมรินจังและโรน่าจัง ในพื้นที่แคบๆแบบนี้นั้น ผมเพียงคนเดียวจะต่อสู้ได้สะดวกกว่า
ส่วนเจ้านั่นที่หนีไปนั้น ถึงมันจะมีประสบการณ์มากแค่ไหนก็คงไม่มีทางหลบพ้นสายตาพวกเราที่เฝ้าอยู่ด้านบนไปได้ง่ายๆแน่
นอกจากนั้นตอนนี้พวกยูเมะจังก็มาถึงเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นถึงแม้เจ้านั่นจะหนีลงไปในทะเลก็คงถูกอสูรรับใช้ของยูเมะจังจับตัวได้อยู่ดี
ดังนั้นในตอนนี้ผมจึงต้องการให้ความสำคัญกับการดูแลคนที่บาดเจ็บเสียก่อน
「จะ จะ
สู้กับเธอคนนั้นด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอคะ แบบนี้มันเสี่ยงเกินไปนะคะ」
เมรินจังพูดเสียงดังออกมาด้วยความเป็นห่วง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเธอจะรู้สึกเป็นห่วง
เพราะถึงแม้เธอจะเคยได้ยินข่าวลือของพวกเรามาบ้าง
แต่เธอก็ยังไม่เคยเห็นผมเอาจริงในการต่อสู้มาก่อน
「ไม่ต้องห่วงไปหรอกนะเมรินจัง
ผมน่ะไม่เคยแพ้ในการต่อสู้มาก่อน ถึงอีกฝ่ายจะเป็นนักดาบสาวอัจฉริยะหรือจะเป็นใครก็ตาม
ผมน่ะจะไม่มีทางแพ้ใครอย่างเด็จขาด」
ผมพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน
จากนั้นจึงหยิบค้อนเหล็กขึ้นมาและพุ่งเข้าไปหาสเตล่าที่กำลังตั้งท่าเตรียมพร้อมอยู่ด้วยความรวดเร็ว
「เกร๊ง!!!」
เสียงค้อนของผมปะทะเข้ากับดาบของเธอดังกังวานไปทั่ว ซึ่งก็สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ
เพราะเธอไม่ได้ใช้ดาบเข้าปะทะกับค้อนของผมตรงๆแต่ใช้วิธีการตั้งรับในจุดที่ผมไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่ก่อนจะเหวี่ยงตัวปัดค้อนของผมออกไปพร้อมกับโจมตีเข้ามาทางจุดบอด
ผมใช้มือซ้ายหยิบมีดสั้นออกมารับการโจมตีจากดาบของเธอก่อนจะหาจังหวะถอยห่างออกมาและพุ่งเข้าโจมตีสวนกลับไปอีกครั้ง
แต่ทุกครั้งที่ผมพุ่งเข้าโจมตีเธอก็สามารถตั้งรับและตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วซะทุกครั้ง
การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบมาก
ไม่ว่าจะเป็นการอ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ การใช้มองหาจุดอ่อน หรือแม้แต่การใช้ข้อดีของพื้นที่ต่างระดับโดยรอบเข้ามาช่วยในการป้องกัน
อีกทั้งเธอยังมีสายตาที่แหลมคมและยังมีความยืดหยุ่นของร่ายกายที่ยอดเยี่ยม
แถมยังสามารถใช้งานดาบยาวได้เต็มประสิทธิภาพแม้จะอยู่ในพื้นที่แคบๆ เรียกได้ว่าสมแล้วที่ผู้คนต่างเรียกเธอว่านักดาบสาวอัจฉริยะ
การที่พวกเราต้องมาเป็นศัตรูกันนั้นผมรู้สึกว่ามันน่าเสียดายจริงๆ
「ทักษะการใช้ดาบของเธอยอดเยี่ยมจริงๆเลยนะ สเตล่า
มัลฟราวด์ 」
「ทัตสึยะซามะเองก็แทบไม่มีช่องโหว่เลยเช่นกันนะคะ」
พวกเราต่างฝ่ายต่างยอมรับในฝีมือของกันและกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว
「มันจะไม่ดีกว่าเหรอ
ถ้าหากเธอจะยอมแพ้แล้วมาเป็นผู้หญิงของผมน่ะ」
「กับโจรสลัดที่ทำแต่เรื่องสกปรกอย่างชั้นก็ยังต้องการตัวเนี่ย
ช่างเป็นคนเจ้าชู้เหมือนกับที่เค้าพูดกันเลยนะคะ」
สเตล่าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสบายๆพร้อมกับพุ่งเข้ามาโจมตีด้วยความรวดเร็ว
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้
เธอยังคงฟาดฟันดาบยาวเล่มนั้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งๆที่เวลาในต่อสู้ผ่านไปหลายนาทีแล้วแต่ความเร็วของเธอก็ยังไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อย
「ไม่คิดว่าผู้ชายแย่ๆแบบผมยิ่งเหมาะสมกับเธองั้นเหรอ」
ผมตอบกลับไปในขณะที่พยายามหลบคมดาบที่แม่นยำของเธอ แต่ไม่ว่าจะหลบไปซักกี่ครั้งคมดาบของเธอก็ยังคงไล่ตามมาได้ตลอด
หรือมันจะเป็นเพราะว่าช่วงหลังผมเอาแต่ทำงานเอกสารอยู่แต่ในเมืองฝีมือจึงตกลงกันนะ
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ผมคงไม่สามารถจับเธอด้วยตัวคนเดียวได้แน่ๆ
「ถ้าหากเป็นเมื่อ 2 ปีก่อนล่ะก็
ชั้นคงจะตอบตกลงในทันทีแล้วล่ะค่ะ」
สเตล่าตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
แต่น้ำเสียงของเธอกลับแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อย บางทีเมื่อ 2
ปีก่อนคงจะเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้น
「ขอโทษด้วยนะ แต่ผมน่ะตัดสินใจลงไปแล้ว
เพราะงั้นถึงแม้จะต้องใช้วิธีขี้โกงซักหน่อย ผมก็ต้องเอาตัวเธอมาให้ได้……」
ผมกระโดดถอยห่างออกมาพร้อมกับส่งสัญญาณให้กับฮารุกะจังที่อยู่ห่างออกไปทางด้านหลังของสเตล่า
「Dimension Magic: World Binding!!!」
「……!!!」
World Binding
ของฮารุกะจังนั้นจะทำการเปลี่ยนพื้นที่โดยรอบให้กลายเป็นห้วงมิติ
ผู้ที่ตกอยู่ภายในห้วงมิตินั้นไม่มีทางที่จะหนีออกไปได้หากไม่ได้รับอนุญาต
ต่อให้เป็นผมเองหากตกอยู่ภายในอาณาเขตของเวทมนต์นี้ล่ะก็ เรียกได้ว่าหมดหนทางที่จะต่อสู้เลยโดยไร้ข้อแม้เลยทีเดียว
「ช่างเป็นเวทมนต์ที่สะดวกจริงๆเลยนะคะ ไม่นึกเลยว่ายมทูตชั้นในสีดำจะปรากฏตัวออกมาเร็วแบบนี้」
สเตล่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ทั่วทั้งร่างกายของเธอถูกผนึกเอาไว้ด้วยเวทมนต์จึงไม่สามารถกวัดแกว่งดาบของเธอได้
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงกำดาบในมือเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
「แม้แต่เวทมนต์ของฮารุกะจังเธอก็รู้จักด้วยงั้นเหรอ
แบบนี้พวกเราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกมากเลยสินะ」
ผมพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ทั้งๆที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกถึงความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
หรือมันอาจจะเป็นเพาะเธอได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้วก็เป็นได้
-- Extra –
「เด็กสาวคนนั้นสำคัญมากเลยงั้นเหรอคะ」
ในสถานที่ต้องห้ามบริเวณชั้นใต้ดินของห้าง Seirien เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินเป็นประกายกำลังพูดกับใครคนหนึ่ง
「หากเธอไม่ได้พบกับทัตสึยะซามะในวันนี้ล่ะก็ ในอนาคตเธอจะกลายเป็นคนที่ทำให้อาณาจักรแห่งนี้ต้องแตกแยกอย่างแน่นอน」
「แต่ครั้งนี้ถึงกับต้องเสียสละชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปมากมายเลยนะคะ
มันไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอคะ.....」
เด็กสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความไม่สบายใจนัก
「นั่นสินะ
ถ้าหากเลือกได้พวกเราเองก็ไม่อยากจะให้คนเหล่านั้นต้องมาตายไปแบบนี้เช่นกัน.........แต่หากไม่ทำแบบนี้ล่ะก็
พวกเค้าทั้งคู่จะต้องคลาดกันอย่างแน่นอน」
ตั้งแต่วันที่เด็กสาวได้ให้คำสัญญา เธอก็ได้เตรียมใจยอมรับกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นเอาไว้แล้ว
แต่ถึงมันจะเป็นการทำเพื่อความสุขของคนที่เธอรัก
เธอก็ยังรู้สึกผิดต่อผู้คนมากมายที่ต้องมาตายด้วยมือของเธออยู่ดี..........
มาแล้ววววว ซับซ้อนจริงๆ ติดตามต่อไปครับ 555555
ตอบลบเริ่มค่อยๆเฉลยเนื้อเรื่องทีละนิด....
ลบค้างอะแอด
ตอบลบรอก่อนครับ มันเขียนยากอยู่นา.....
ลบข้าคือจอมมาร!!!?ว่าแต่ กี่ปีเรื่องนี่จะจบผมจะได้รออ่านที่เดียวเลย("//")
ตอบลบนั่นสิครับ อีกซัก 3-4ปีมั้ง
ลบเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีเงินนี่ใครครับ
ตอบลบต้องเดาเอานะครับ
ลบ