-- มุมมองของฟลอร่า --
ช่วงเช้าของวันที่ 15 เดือน 8 ศักราชเอลติซปีที่ 837
ในตอนนี้ชั้นกำลังทานอาหารเช้าร่วมกับเมดสาวเวลน่าและอัศวินหญิงโรน่าอยู่ภายในห้องอาหารหรูหราบนเรือเหาะของอาณาจักรออร์ธรอส
ทั้งๆที่ชั้นเป็นเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิเอลติซ
ทั้งๆที่พวกเราเป็นศัตรูกันแท้ๆแต่พวกเค้าก็ยังปฏิบัติต่อชั้นอย่างอ่อนโยน
หรือพวกเค้าจะไม่ได้คิดว่าตัวชั้นเป็นศัตรูกันนะ.....
ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่ชั้นถูกพาตัวมายังเรือเหาะขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากเหล็ก
ซึ่งหากคิดตามปกติแล้วนั้น การจะสร้างเรือเหาะที่ใหญ่ขนาดนี้ด้วยเหล็กมันไม่ควรจะเป็นไปได้เลย
ด้วยน้ำหนักที่มากมายนั้น จะต้องใช้มานาซักแค่ไหนถึงจะทำให้มันบินได้กันแน่นะ
กับข้อเท็จจริงนี้จึงทำให้ชั้นพอจะเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงได้หวาดกลัวอาณาจักรเวทมนต์กันนัก
「ละ ลองทานเจ้านี่ดูสิคะ ฟะ ฟลอร่า」
โรน่าตักอาหารรูปร่างแปลกๆมาให้กับชั้น
เธอพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกันเองตามที่ชั้นได้ขอร้องเอาไว้
แต่การที่เธอพยายามมากขนาดนี้มันกลับทำให้ท่าทางของเธอดูตลกเป็นอย่างมาก
และนั่นทำให้ชั้นอดที่จะยิ้มออกมาในเวลาที่ได้เห็นใบหน้าแบบนี้ของเธอไม่ได้
「กรอบๆ นุ่มๆ อร่อยมากเลยค่ะ
มันเรียกว่าอะไรเหรองั้นคะ เจ้าลูกกลมๆนี่น่ะ」
ชั้นถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
บนเรือเหาะลำนี้มีแต่สิ่งของแปลกๆเต็มไปหมด
ทั้งอุปกรณ์เวทที่สะดวกสบายหลากหลายอย่าง ภาพวาดงดงามที่มีความสมจริงและน่าทึ่ง และอาหารที่ชั้นกำลังทานอยู่ตรงหน้านี้เองก็เป็นสิ่งที่ชั้นไม่เคยได้ทานมาก่อนเช่นเดียวกัน

「เจ้านี่เรียกว่า คาราอาเกะนี่ค่ะ
ถึงตัวคาราอาเกะที่กรอบนุ่มอร่อยไร้ที่ติอยู่แล้ว แต่หากได้ลองทานคู่กับซอสพวกนี้ดูล่ะก็
จะยิ่งอร่อยยิ่งขึ้นไปอีกมากเลยล่ะค่ะ」
ผู้ที่ตอบคำถามของชั้นคือเวลน่า
ในตอนแรกชั้นคิดว่าเธอเป็นเมดเพราะการแต่งกายของเธอ
แต่ตามจริงแล้วตัวเธอนั้นกลับเป็นขุนนางและยังเป็นหนึ่งในคู่หมั้นของทัตสึยะซามะผู้ปกครองอาณาจักรเวทมนต์
โรน่าเองก็ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในคู่หมั้นของทัตสึยะซามะเช่นเดียวกัน
ในตอนแรกชั้นคิดว่าชายที่ชื่อทัตสึยะจะเป็นพวกขุนนางที่ต้องการตัวชั้นไปเพื่อใช้ในการแย่งชิงอำนาจ
ไม่คิดเลยจริงๆว่าผู้ชายที่ต้องการตัวของชั้นจะเป็นถึงผู้ปกครองอาณาจักรออร์ธรอสที่กำลังโด่งดัง
หากเป็นเค้าคนนั้นที่โรน่าและเวลน่าพูดถึงล่ะก็
บางทีชีวิตของชั้นหลังจากนี้อาจจะดีกว่าที่ผ่านมาก็เป็นได้.....
「จริงด้วยนะคะ
แค่เพียงเล็กน้อยก็ทำให้รสชาติของคาราอาเกะเปลี่ยนไปอย่างลึกซึ้งแล้ว
นี่ช่างเป็นอาหารที่สมกับอาณาจักรเวทมนต์จริงๆเลยค่ะ」
หลังจากนั้นพวกเราก็ทานอาหารอีกหลากหลายอย่างกันอย่างสนุกสนาน
และในตอนนั้นเองก็มีเด็กสาวในชุดเมดคนหนึ่งเดินเข้ามา
「มายุซามะและคาโอริซามะได้นำเฮลฮาวล์และทหารจากกองพันแวร์วูล์ฟ
200 นายเข้าประชิดเมืองป้อมปราการมินิทาริสแห่งจักรวรรดิเลเรียสตามกำหนดการเรียบร้อยแล้ว โดยทางฝั่งของเมืองป้อมปราการมินิทาริสนั้นมี
เจ้าหญิงเอลรีสเต้ เอเลน ลา เลเรียส เป็นผู้บัญชาการกองทัพด้วยตัวเอง」
เมดสาวกล่าวรายงานต่อไปโดยไม่ได้สนใจว่าตัวชั้นเองก็นั่งอยู่ด้วย นี่พวกเค้าไม่ได้คิดในเรื่องที่ควรจะปิดบังรายงานด้านการทหารกับชั้นที่เป็นคนนอกเลยงั้นเหรอ....
「และท่านจอมเวททั้งสองยังได้มีคำสั่งให้พวกเราเตรียมความพร้อมเอาไว้
หากหน่วยเรือเหาะจู่โจมของจักรวรรดิเลเรียสตามมาเสริมกำลังให้ล่ะก็ ให้เข้าโจมตีได้ทันทีโดยมีคำสั่งให้เน้นการจับกุมตัวเชลยให้ได้มากที่สุดด้วยค่ะ」
หลังรายงานจบเมดสาวก็เดินจากไป ซึ่งหากคิดตามรายงานของเมดสาวเมื่อครู่นี้แล้วล่ะก็
ดูเหมือนว่าเรือเหาะที่ชั้นกำลังอยู่ลำนี้เองก็จะต้องเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกันสินะ....
「น่าสงสารจริงๆเลยนะคะเจ้าหญิงเอลรีสเต้เนี่ย
เพราะไปถูกใจเจ้านั่น....ทัตสึยะซามะเข้าก็เลยต้องมาตกที่นั่งลำบาก」
เวลน่าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
นี่เธอหมายความยังไงกันนะเรื่องที่ว่าน่าสงสารเนี่ย....
「น่าสงสารอะไรกันล่ะคะ!! ที่เกิดสงครามขึ้นก็เป็นเพราะฝ่ายนั้นไม่ยอมรับข้อเสนอการส่งตัวเผ่าโลลิเทียกลับคืนมา!! แถมเจ้าจักรพรรดิงี่เง่านั่นก็เป็นฝ่ายประกาศสงครามกับพวกเราก่อนด้วยนะคะ!!」
แต่กับคำพูดของเวลน่านั้น
โรน่าก็รีบคัดค้านขึ้นมาด้วยท่าทางไม่พอใจ และทั้งๆที่ทั้งสองคนนี้ดูจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ
แต่พวกเธอก็ดูสนิทกันมากเช่นเดียวกัน.....
「อุฟุฟุ! สมกับที่เป็นคนโปรดจริงๆนะคะ โรน่าจังเนี่ย
ไม่ว่าเจ้านั่น....ไม่ว่าทัตสึยะซามะจะทำอะไรเธอก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกเสมอเลยสินะ
เธอเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ กับคนขี้โกงอย่างเจ้านั่น....สำหรับทัตสึยะซามะแล้ว
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เนี่ย เค้าคงจะต้องวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เรื่องราวมันกลายมาเป็นแบบที่ต้องการอยู่แล้วล่ะค่ะ」
「มะ ไม่ใช่นะคะ!! ทัตสึยะซามะน่ะไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเลยนะคะ!!! ทัตสึยะซามะน่ะเป็นคนที่อ่อนโยนแล้วก็ใจกว้าง!!
เป็นคนที่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นและยังคอยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออยู่เสมอ!! ทัตสึยะซามะน่ะ
ถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองและเข้าปกป้องชีวิตของคนอย่างชั้นเลยนะคะ!!!」
「อ่อนโยนและใจกว้างอะไรนั่นก็แค่แผนการนั่นแหละค่ะ
เจ้านั่นน่ะ ก็แค่ใช้ความอ่อนโยนมาหลอกลวงหญิงสาวให้ตกหลุมรัก
เพราะงั้นเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอเองก็ต้องเป็นแผนการที่วางเอาไว้เพื่อให้ได้หัวใจของเธอนั่นแหละค่ะ!!」
「คนที่แอบขโมยเสื้อผ้าของทัตสึยะซามะมาดมขณะช่วยตัวเอง
แล้วยังร้องครางเสียงดังออกมานอกห้องเนี่ย!!
กล้าพูดสินะคะว่าทั้งหมดนั่นก็เป็นแผนที่ทัตสึยะซามะวางเอาไว้น่ะค่ะ!!」
「มะ ไม่ใช่นะคะ!!! นะ นะ
นั่นน่ะไม่ใช่เสียงของชั้นนะคะ ล ละ แล้วชั้นก็ไม่ได้ช่วยตัวเองด้วยนะคะ!!!
นะ นั่น เป็นเสียงจากทีวีต่างหากล่ะคะ ชะ ใช่แล้ว มะ
มันเป็นเสียงจาก DVD อนิเมะสาวน้อยเวทมนต์ที่กำลังโดนเจ้าสัตว์ประหลาดร้อยหนวดลวมลามต่างหากล่ะคะ!!!」
「อาร๊า ยอมรับแล้วสินะคะว่าชอบดู DVD อนิเมะลามกพวกนั้นน่ะค่ะ!!」
「มะ ไม่ใช่นะคะ นะ
นั่นน่ะเป็นเพราะเจ้านั่นเปิดทิ้งเอาไว้ต่างหากล่ะคะ!!! ชะ ชั้นน่ะ
ไม่มีทางที่จะอยากถูกหนวดอะไรนั่นลวมลามอยู่แล้วล่ะค่ะ!!!」
และพวกเค้าทั้งสองคนก็ยังคงถกเถียงเรื่องราวของทัตสึยะซามะกันต่อโดยที่ไม่มีฝ่ายใดยอมแพ้
และทั้งๆที่เป็นแบบนั้นก็ยังไม่มีใครคิดจะเข้าไปห้าม....แต่ทุกคนกลับเฝ้ามองดูทั้งคู่ด้วยแววตาอบอุ่น
มันช่างเป็นปริศนาที่ยากจะเข้าใจ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชั้นเข้าใจได้ดี
นั่นก็คือทั้งสองคนนั้นต่างก็หลงรักทัตสึยะซามะจากก้นบึ้งของหัวใจ......
เวลาผ่านไปครู่หนึ่งพวกเราก็ถูกเรียกตัวให้ไปยังสะพานเดินเรือ
เพราะเหตุนั้นทั้งสองคนจึงเลิกถกเถียงกันและรีบไปยังสะพานเดินเรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อ
และเมื่อพวกเรามาถึงยังสะพานเดินเรือ
ชั้นก็ได้เห็นภาพของสนามรบจากหลายมุมมองแสดงอยู่บนจอภาพขนาดใหญ่หลายจอปรากฏอยู่ตรงหน้า
การที่สามารถเห็นภาพจากระยะไกลได้ชัดเจนขนาดนี้นั้น
บางทีพวกเค้าคงจะต้องใช้อุปกรณ์เวทชั้นสูงที่ราคาแพงมากแน่ๆ
『ในนามของท่านจอมเวทมายุซามะและคาโอริซามะ
ขอให้พวกท่านรีบวางอาวุธและยอมแพ้ซะ
พวกเรานั้นมีเป้าหมายเพียงการช่วยเหลือเผ่าโลลิเทียที่ถูกจับมาเป็นทาสเท่านั้น』
『เพราะงั้นหากพวกท่านยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็
ท่านจอมเวททั้งสองได้ให้สัญญาว่าจะไม่ทำอันตรายหรือแย่งชิงสิ่งใดไปจากพวกท่านโดยเด็จขาด
แน่นอนว่าข้อเสนอนี้รวมถึงเหล่าประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองป้อมปราการมินิทาริสแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน』
บนหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดได้ปรากฏภาพของชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเกราะสีดำขี่นกเจลโล่อยู่บริเวณด้านนอกกำแพงเมืองห่างออกไปไม่ถึง
50 เมตร ชายหนุ่มผู้นี้คงจะเป็นตัวแทนในการเจรจาของฝ่ายอาณาจักรออร์ธรอสในครั้งนี้
「สมกับที่เป็นคาโอริซามะ ตั้งใจจะเล่นตลกแล้วโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับเจ้าหญิงเอลรีสเต้โดยตรงเลยสินะคะเนี่ย」
หลังจากมองดูภาพของชายหนุ่มที่ปรากฏบนจอ เวลน่าก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าสนุกสนาน
แต่ชั้นไม่เข้าใจเลยซักนิดจึงถามเธอออกไป
「เวลน่า
ที่พูดนั่นหมายความว่าอย่างไรกันเหรอคะ」
「นี่น่ะเป็นสงครามที่ฝ่ายจักรวรรดิเลเรียสเป็นคนเริ่ม นั่นก็หมายความว่าทางจักรวรรดิเลเรียสได้เตรียมพร้อมที่จะทำสงครามอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะยอมแพ้ง่ายๆนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นคาโอริซามะกลับยื่นข้อเสนอยอมแพ้ให้กับเจ้าหญิงเอลรีสเต้ที่มีกำลังทหารมากกว่า
10,000 นาย แถมยังมีกำแพงหินป้องกันที่สูงใหญ่แบบนั้น
ด้วยกำลังทหารเพียง 200 นายเนี่ย ไม่ว่าจะมองยังไงก็คงเรียกได้ว่าเป็นเรื่องตลกไม่ใช่เหรอคะ」
「ทั้งๆที่มีทหารเพียงแค่ 200 นาย แต่ดันเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอให้ยอมแพ้….นั่นสินะคะ.....ถึงแม้ชั้นจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องสงครามนัก
แต่ไม่ว่าจะมองยังไงทางฝ่ายเจ้าหญิงเอลรีสเต้ก็น่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แบบนี้ก็ต้องไม่มีทางที่จะยอมแพ้อยู่แล้ว.......」
「แล้วทีนี้หากฝ่ายเจ้าหญิงเอลรีสเต้แพ้ขึ้นมาล่ะก็
พวกทหารก็คงจะไปโทษเธอที่ไม่ยอมรับข้อเสนอตั้งแต่แรก ส่วนพวกชาวเมืองนั้นถ้าหากกองทัพไม่ไปทำร้ายพวกเค้าล่ะก็
พวกเค้าเองก็คงจะต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อให้กองทัพของฝ่ายเราพึงพอใจอย่างแน่นอน
เท่านี้ทัตสึยะซามะและทหารของฝ่ายเราก็สามารถครอบครองทุกอย่างที่ต้องการ โดยไม่ต้องไปห่วงว่าพวกชาวเมืองจะขัดขืนขึ้นมาในอนาคตยังไงล่ะคะ」
กับคำพูดของเวลน่านั้น ชั้นพอจะเข้าใจอยู่บ้าง
เพราะไม่ว่าใครก็คงจะไม่คิดที่จะไปต่อสู้กับกองทัพที่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามที่มีกำลังมากกว่าคง
50 เท่าแน่ๆ
และยิ่งเป็นพวกชาวเมืองทั่วไปยิ่งแล้วใหญ่ บางทีพวกเค้าคงจะยอมเชื่อฟังและยกทุกอย่างให้เพื่อรักษาชีวิตตัวเองแน่
แถมความผิดทั้งหมดยังจะถูกโยนไปให้กับเจ้าหญิงเอลริสเต้ที่ไม่ยอมรับข้อเสนอยอมแพ้ในตอนแรกด้วย....
การที่ต้องมาสูญเสียความเชื่อมั่นจากทหารและประชาชนนั้น
สำหรับเจ้าหญิงที่เป็นผู้บัญชาการอย่างเธอแล้ว
มันคงจะทำให้เธอไม่สามารถอยู่ในประเทศแห่งนี้ต่อไปได้แน่ เพราะงั้นหลังจากนี้
ทัตสึยะซามะก็จะสามารถพาตัวเธอไปได้โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่คิดจะขัดขืนอย่างแน่นอน.....
และหลังจากนั้นเค้าก็จะคอยช่วยเยียวยาหัวใจของเธอ
และทำให้เธอตกหลุมรัก นี่สินะที่เวลน่าได้บอกเอาไว้
ว่าทุกอย่างนั้นเป็นแผนการที่ทัตสึยะซามะได้วางเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว.....
「แต่ถึงจะเป็นพวกท่านจอมเวท กับทหารเพียงแค่
200 นายนั้น จะสามารถเอาชนะได้จริงงั้นหรือคะ....」
กับคำพูดของชั้นนั้น โรน่าที่กำลังยุ่งกับการสั่งการพวกกองอัศวินให้เตรียมพร้อมตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
「ลองดูด้วยตาของตัวเองน่าจะทำให้เข้าใจได้ดีกว่านะคะ」
นั่นสินะ.....การที่เห็นด้วยตาของตัวเองนั้นคงจะดีที่สุดแล้ว......ชั้นหันไปมองดูยังจอภาพที่กำลังฉายภาพของสงครามหลายมุมมองอยู่ด้วยความตื่นเต้น
ซึ่งก็เป็นไปตามที่เวลน่าพูด
เจ้าหญิงเอลริสเต้ผู้บัญชาการทหารฝ่ายจักรวรรดิได้ปฏิเสธข้อเสนอยอมแพ้
และเริ่มสั่งการให้พวกทหารเตรียมตั้งรับการโจมตี และแล้วสงครามระหว่าง 200 ปะทะ 10,000 ก็เริ่มเปิดฉากขึ้น
ความคิดของจอมมารไม่มีโครเข้าถึงหรอกน่ สาวน้อยยิ่งถลำลึกไปเท่าไหรฝ่ายที่จะถูกอ่านเป็นพวกเจ้าเสียเอง...และมันจะจบด้วยการปรับทัศนคติบนเตียงก็....เป็น....ได้....
ตอบลบปรับทัศนคติกันเลยทีเดียว หุหุ
ลบ