เริ่มเรื่องจะเป็นไดอารี่ของลาทีฟา
จากนั้นก็จะเป็นฉากที่ลาทีฟาขี่ตัวอะไรสักอย่าง
บินออกไปรับพวกฮารุโตะที่กำลังมายังหมู่บ้าน
พร้อมๆกันกับ 3 สาว(ซาร่า ออเฟีย อัลม่า)
ฮารุโตะแนะนำลาทีฟา
ที่แม้จะไม่ได้ร่วมสายเลือด
แต่ก็เป็นน้องสาวคนสำคัญของเขา กับสาวๆทั้ง 3
ให้พวกมิฮารุรู้จัก
มาซาโตะที่ได้เห็นสาวหูหมาครั้งแรกก็ใจละลายไป
จากนั้นก็เป็นการแนะนำตัวไอเชียที่เป็นภูติ
ซึ่งทั้ง 3 สาวก็ได้คุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพ
ไอเชียซามะ
แต่ลาทีฟาขอเรียกไอเชียเป็นพี่สาวแบบสนิทสนมแทน
จากนั้นก็มีการสงสัยเรื่องชื่อ ริโอะ
ฮารุโตะก็เลยเล่าให้ฟังถึงอดีตของเขา
และเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องเปลี่ยนชื่อเป็นฮารุโตะ
(ซึ่งเหตุผลนั้นก็คงเป็นเพราะไม่อยากให้เจ้าหญิงคริสติน่า
ต้องมาเป็นห่วงเรื่องเกี่ยวกับเขาอีก ฮ่า ฮ่า
ฮ่า)
พวกมิฮารุจะเรียกฮารุโตะเหมือนเดิมเพราะชินกับชื่อนี้แล้ว
จากนั้นทุกคนก็จะบินกลับเข้าไปในหมู่บ้าน
ซึ่งที่บริเวณหน้าหอประชุมจะมี
โดริวอัสรอรับอยู่
โดริวอัสก็จะเข้ามาทักทายไอเชีย
ที่เป็นภูติระดับสูงเหมือนกัน
แล้วทุกคนก็จะเข้าไปคุยรายละเอียดกันด้านใน
หลังจากแนะนำตัวอะไรกันเสร็จเรียบแล้วร้อย
พวกซาร่าก็จะพาพวกมิฮารุออกไปเดินเล่น
เพราะด้านในกำลังจะคุยเรื่องซีเรียสอะไรมากมายกัน
ซึ่งอากิก็จะบอกว่ามาซาโตะเป็นพวกชอบพี่สาวสวยๆ
ออเฟียก็จะขอบคุณที่มาซาโตะคิดว่าเธอเป็นคนสวย
ส่วนมาซาโตะก็เขินและบอกว่าคงเป็นเจ้าบ่าวไม่ได้แล้ว...
หลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องราวสนุกสนานคุยกันทั่วไป
มีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกมิฮารุบลาๆๆๆ
พอจบบทก็จะตัดไปที่เมืองอมันดะอาณาจักรกัลอาค
ภายในคฤหาสน์
รีเซล็อตเต้กำลังเตรียมตัวต้อนรับ
พวกเจ้าหญิงฟลอร่าที่มาพร้อมไอ้ผู้กากที่ชื่อว่าฮิโรกาก
ลูกสาวดยุคโรน่า และก็มีดยุคกูสตาฟยุกโนมากับเค้าด้วย
โดยอาหารเย็นมีการเสริฟพาสต้าและเค้กหลายอย่าง
ซึ่งฮิโรกากชอบมาและขอเบิลพาสต้าไปอีกหลายจาน
เนื่องจากฮิโรกากไม่คิดว่าโลกนี้จะมีอาหารอร่อยแบบนี้
ฟลอร่าก็ชมเรื่องเค้กที่อร่อยมากจนทำให้แมวลอยได้
ซึ่งรีเซล็อตเต้ก็ตอบรับแขกทั้งหมดอย่างสง่างาม
ในตอนนั้นเองที่ดยุคยุกโนได้เอ่ยปากขอให้
รีเซล็อตเต้ช่วยสนับสนุนกลุ่มของพวกเขา
โดยจะให้รีเซล็อตเต้ช่วยสนับสนุนในเรื่องเงินทุน
การค้าเสบียงอาหารและของจำเป็นต่างๆ
ซึ่งรีเซล็อตเต้นั้นได้คาดาการณ์ในเรื่องนี้เอาไว้แล้ว
เพราะงั้นจึงได้เตรียมข้อตกลงและสัญญาเอาไว้ล่วงหน้า
ดยุคกูสตาฟได้แอบชมรีเซล็อตเต้ในใจว่า
เธอเป็นบุตรสาวขุนนางที่มีความสามารถสูงมาก
ไม่ใช่แค่กริยามารยาทแต่การวางตัวในฐานะขุนนางก็ไร้ที่ติ
การมองถึงอนาคตและผลประโยชน์ในการเจรจาก็ทำได้ดี
การเตรียมการต้อนรับราชวงศ์และขุนนางระดับก็ทำได้เยี่ยม
ซึ่งนั่นทำให้ความพึงพอใจของแขกอยู่ในระดับสูงมาก
ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบกับฟลอร่าซึ่งอายุเท่ากันแล้ว
ฟลอร่านั้นก็เรียกว่าไม่ได้เรื่องเลยสักนิดเดียว
ส่วนโรน่าที่อยู่ในตำแหน่งบุตรสาวดยุคเหมือนกันนั้น
ถึงแม้เธอจะเป็นคนมีความสามารถมากกว่าทั่วไป
แต่หากนำมาเทียบกับรีเซล็อตเต้แล้วก็กลายเป็นเด็กไปเลย
(แน่นอนว่าถ้าเทียบกับคริสติน่าแล้วล่ะก็
คริสติน่าคงเก่งกว่า)
หลังจากพวกฟลอร่าออกไปจากห้องอาหารแล้ว
รีเซล็อตเต้ถามอาเรียว่าคิดยังไงเกี่ยวกับฮิโรกาก
ซึ่งอาเรียก็ตอบว่าเป็นพวกชอบเรียกร้องความสนใจ
ทั้งๆทีปากบอกว่าตัวเองอยากแค่อยู่อย่างสามัญชนสงบๆ
ซึ่งรีเซล็อตเต้เองก็เห็นด้วยกับความคิดของอาเรียในเรื่องนี้
รีเซล็อตเต้คิดว่าฮิโรกากคงเป็นพวกที่สามารถชักจูงได้ง่ายๆ
แต่ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาก็เป็นพวกที่ทำตัวได้น่ารำคาญเช่นกัน
จากนั้นก็จะตัดกลับมาที่หมู่บ้านพวกภูติอีกครั้ง
แล้วก็จะเป็นการซ้อมต่อสู้กับฮารุโตะกับ 3 สาว
ซึ่งก็แน่นอนว่า 3 สาวนั้นไม่อาจะรอดไปได้
และก็กลับมาตกหลุดรักฮารุโตะเหมือนทุกๆครั้ง
หลังจบการต่อสู้ มาซาโตะจะขอให้ฮารุโตะสอน
ทักษะการใช้ดาบให้ ซึ่งก็มีการอธิบายการมากมาย
หลักๆคือการเตรียมใจที่จะฆ่าหรืออาจจะต้องถูกฆ่า
แล้วก็จะมีการทดสอบความตั้งใจจริงของมาซาโตะ
ซึ่งมาซาโตะก็ไม่ยอมแพ้และสามารถผ่านการทดสอบไปได้
(ช่างเป็นลูกผู้ชายจริงๆ
ไม่เหมือนกับไอ้กากฮิสะ ฮา)
จากนั้นไอเชียจะติดต่อมาบอกว่าได้เรียนเทเลพาทีมาแล้ว
แล้วก็จะมีการเปลือยกายคุยกันกับไอเชียเล็กน้อย....
แล้วทีนี้ก็ตัดมาฝั่งสาวๆที่เข้าไปอาบน้ำพร้อมๆกันบ้าง
และทุกคนก็จะเอาแต่คุยกันเรื่องของฮารุโตะกับไอเชีย
วันถัดมา
มิฮารุกับไอเชียที่อยู่เฝ้าบ้านด้วยกันก็มานั่งคุยกัน
มิฮารุถามความเห็นไอเชียว่ามีอะไรที่ตัวเธอน่าจะพอทำได้บ้าง
มิอารุอยากจะขอบคุณฮารุโตะแต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปบอกตรงๆ
ไอเชียเลยบอกว่า
ถ้าเป็นสิ่งที่มิฮารุทำล่ะก็ฮารุโตะชอบทุกอย่างแน่นอน
(ก็ไอ้ฮารุโตะมันเป็น มิฮารุค่อน นี่นะ
ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วล่ะสิ ฮา)
มิฮารุก็ยังลังเล
ไอเชียเลยบอกงั้นลองเข้าไปกอดฮารุโตะดูสิ
มิฮารุก็ยิ่งบอกไอ้แบบนั้นก็ยิ่งน่าอายมากเข้าไปอีกน่ะสิ
สุดท้ายเลยกลายเป็นการทำออมไรซ์ให้แทนคำขอบคุณ
มิฮารุก็จะช่วยสอนไอเชียทำอาหารและขนมต่างๆไปด้วย
เสร็จแล้วพอฮารุโตะลงมาจากห้อง
ก็จะได้มากินออมไรซ์
สูตรลับฉบับมิฮารุที่ถ่ายทอดมาจากคุณแม่ซึ่งอร่อยแมวมาก
แล้วก็ตัดไปที่กลุ่มก็พวกเด็กๆที่ออกไปปิคนิคด้านนอกกันบ้าง
พวกกลุ่มเด็กๆก็จะคุยกับเรื่องของฮารุโตะอีกเหมือนกัน
อากิกับลาทีฟาก็ต้องการพลังเพื่อจะได้ไม่เป็นตัวถ่วงเหมือนกัน
หลังจากนั้น
ช่วงเวลาสนุกสนานก็ผ่านไปเดือนครึ่ง
ฮารุโตะก็บอกว่าเขาต้องการจะกลับไปยังเขตชูทราลแล้ว
โดยพวกมิฮารุจะถูกฝากเอาไว้ที่หมู่บ้านภูติแห่งนี้
ส่วนฮารุโตะจะกลับไปหาข่าวเรื่องผู้กล้ากับไอเชียแค่
2 คน
นอกจากนั้นฮารุโตะก็อยากจะกลับไปทักทายกิ๊กเก่าอย่างเซเรียด้วย
และพอพูดถึงเรื่องนี้
พวกสาวๆจึงสงสัยว่าเซเรียเป็นใคร
แล้วฮารุโตะก็เลยต้องเล่าถึงเรื่องของเซเรีย
ในสมัยที่เค้าได้เข้าไปเรียนอยู่ในโรงเรียนขุนนาง
สุดท้ายถามไปถามมาทุกคนก็รู้จนได้วาเซเรียเป็นสาวสวย
ฮารุโตะจึงบอกว่าตอนนี้เซเรียอาจจะแต่งงานไปแล้วก็ได้
จากนั้นอีกสองวันก็ถึงวันออกเดินทางเสียที
โดริวอัสมาเตือนให้ระวังเรื่องตัวตนของไอเชียที่รุนแรงเกินไป
ลาทีฟากระโดดซุกหน้าอกฮารุโตะเพื่อดูดพลังพี่ชาย
มิฮารุ
แอบทำข้าวกล่องเอาไว้และนำมอบให้แบบเขินๆ
หลังจากมาถึงยังเมืองหลวงฮารุโตะก็ได้ไปหาข่าวที่ร้านแซนวิชแผงลอย
ซึ่งก็ได้รับรู้ว่า บุตรชายตระกูลดยุคอัลโบกำลังจะแต่งงานในวันพรุ่งนี้
ฮารุโตะก็นึกย้อนกลับไปในเหตุการณ์เมื่อ 9
ปีก่อน
และจำได้ว่าตระกูลดยุคอัลโบน่าจะล่มสลายเพราะเหตุการณ์
ลักพาตัวเจ้าหญิงโลลิ 6 ขวบ
หรือก็คือเจ้าหญิงฟลอร่าไปแล้ว
แต่ทั้งๆแบบนั้นทำไมถึงได้กลับมาจัดงานยิ่งใหญ่อะไรแบบนี้ได้อีก
จากนั้นอยู่ดีดี
เด็กสาวโลลิที่ขายของให้ก็บอกว่าเธอนั้นชื่อโซฟี่
(แค่เจอหน้าครั้งแรก
ก็ทำให้โลลิข้างทางหลงรักแรกพบได้แล้ว)
หลังจากนั้นก็มีการคุยกับคุณแม่ของโซฟี่นิดหน่อย
ซึ่งก็ทำให้ฮารุโตะจำได้ว่าเป็นร้านที่เคยซื้อสมัยก่อนจะหนีออกไป
จากนั้นก็จะมีการถามถึงเรื่องของผู้กล้าที่น่าจะปรากฏตัวเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่โซฟี่ตอบว่าเธอไม่รู้ชื่อของผู้กล้าที่ฮารุโตะอยากรู้
และแม่ของโซฟี่นั้นก็มีชื่อว่าแองเจล่า.....!!!!
(อ่านมาถึงตรงนี้ปุ๊บ...แม่ลูกคู่นี้มาเป็นเมดในบ้านตอนหลังนี่หว่า!!!)
หลังจากนั้นฮารุโตะและไอเชียก็ไปหาข่าวกันต่อจนถึงช่วงค่ำๆ
ซึ่งการที่หาข่าวได้ดีนั้นก็เป็นเพราะความงามของไอเชียนั่นเอง
และเมื่อถึงช่วงดึก
ฮารุโตะก็ได้บุกไปยังโรงเรียนขุนนางตามกำหนดการ
แต่เมื่อเข้าไปถึงยังห้องใต้ดินที่เป็นห้องวิจัยของเซเรียก็พบว่าเธอไม่อยู่
ไอเชียที่แอบมุดเข้าไปดูด้านในห้องก็พบว่าข้าวของเองก็ไม่อยู่ด้วย
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเซเรียได้ย้ายออกไปจากห้องวิจัยแห่งนี้นานแล้ว
ด้วยเหตุนั้นเองจึงทำให้ฮารุโตะตัดสินใจใช้เวทดำใส่ตาลุงนักวิจัย
ที่อาศัยอยู่ใกล้ๆแถวนั้นเพื่อควบคุมความคิดและทำการดูดข้อมูล
โดยในที่สุดฮารุโตะได้รู้ชื่อของผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมาแล้ว
แต่ผู้กล้าธนู ชิเกคุระ รุย
นั้นเป็นชื่อที่ไม่ใช่เพื่อนของมิฮารุ
แล้วก็จะได้รู้ว่าเซเรียนั้นได้ย้ายไปอาศัยอยู่ในปราสาท
แต่นี่ทำให้ตกใจก็คือเซเรียกำลังจะแต่งงานในวันพรุ่งนี้แล้ว
โดยคนที่เธอจะแต่งด้วยก็คือลูกชายตระกูลดยุคอัลโบ
ชาร์เลส
ซึ่งไอ้หมอนี่ก็คือไอ้กากที่สอบสวนฮารุโตะด้วยวีทรมานในสมัยเด็ก
ด้วยข้อมูลนี้ทำให้ฮารุโตะสนใจการเมืองภายในเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเค้าจึงได้ขูดรีดข้อมูลจากตาลุงนักวิจัยคนนี้ออกมาจนหมด
ซึ่งก็ได้รับรู้ว่า
ตระกูลอัลโบกลับมามีอำนาจอีกครั้งได้นั้นก็เพราะ
การที่ไปเจรจาสงบศึกกับทางจักรวรรดิฟลอเกียร์ได้สำเร็จ
ส่วนตระกูลดยุคยุกโนได้พ่ายแพ้ในสงคราม
จึงทำให้สูญเสียอำนาจ
และหลังจากที่พระราชาได้สูญเสียความเชื่อมมั่นและอำนาจในการปกครอง
ส่วนขุนนางฝ่ายดยุคยุกโนที่สูญเสียอำนาจก็ได้หลบหนีจากเมืองหลวง
และนั่นจึงทำให้ตระกูลแคลร์ซึ่งเป็นขุนนางฝ่ายราชวงศ์
ได้ถูกขุนนางฝ่ายดยุคอัลโบกดตันและไล่ต้อนจนไม่สามารถทำอะไรได้
ส่วนเซเรียนั้นก็เป็นเหมือนกับเหยื่อของเหตุการณ์ในครั้งนี้
เธอเป็นบุตรสาวตระกูลเอิร์ลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะอัจริยะ
เธอจึงถูกจับแต่งงานเพื่อเป็นเครื่องหมายในการควบรวมอำนาจ
หลังจากรู้เรื่องทั้งหมดฮารุโตะก็ตัดสินใจลอบเข้าไปที่ปราสาท
ตัดมาที่ห้องอาหารในปราสาท
เซเรียกับพ่อของเธอลอแรนด์
และก็ว่าที่สามีของเธอชาร์เลส
กำลังทานอาหารเย็นด้วยกัน
เซเรียนั้นรู้สึกดีใจมากที่ยังเห็นพ่อของเธอปลอดภัยดี
ชาร์เลสพยายามข่มขู่ตระกูลแคลร์ไม่ให้ทำอะไรแปลกๆ
โดยในความเป็นจริงนั้น
เป็นลอแรนด์เองที่ได้ส่งตัวฟลอร่า
ให้หนีออกไปพร้อมๆกับพวกขุนนางฝ่ายดยุคยุกโน่
เซเรียในตอนนี้จึงมีฐานะเป็นเหมือนกับตัวประกัน
เพื่อไม่ให้พ่อและตระกูลของเธอต้องลำบากเธอจึงต้องฝืนอดทน
หลังจากกลับไปที่ห้องของเธอภายในปราสาท
เซเรียก็รีบนำจดหมายที่คนรักของเธอส่งมาให้มากอด
และเธอก็เอาแต่คิดถึงใบหน้าของเค้า
มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน
เซเรียหวังว่าจะได้เจอกับเค้าอีกสักครั้งก่อนที่เธอจะแต่งงาน
เธอรู้สึกเสียดายที่ไม่ไดรับรู้ความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่แรก
และตั้งแต่วันพรุ่งนี้
สามีของเธอคงจะไม่ยอมให้เธอเก็บจดหมายเอาไว้
จดหมายของชายผู้เป็นรักแรกของเธอนั้น
เธอควรจะทำลายทิ้งด้วยตัวเอง
แต่แล้วในตอนนั้นเอง
ที่ชายคนนั้นได้กลับมาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้ง
ฮารุโตะที่กลับมาเจอกับเซเรียได้ถอดสร้อยเพื่อเปลี่ยนสีผมคืน
ในตอนนั้นเองที่เซเรียกระโดดพุ่งเข้าใส่อ้อมกอดของฮารุโตะในทันที
เซเรียเอาใบหน้าอกของฮารุโตะเพื่อเสพออร่าของฮารุโตะ
เซเรียบอกว่าฮารุโตะโตขึ้นเป็นหนุ่มหล่ออย่างมาก
แต่ฮารุโตะบอกว่าเซเรียยังโลลิไม่เปลี่ยนไปเลย
เซเรียจึงเถียงว่าเธอเป็นสาวขึ้นกว่าเมื่อสมัยก่อนนิดนึงแล้วนะ
(คือมีแค่หน้าอกของเซเรียที่ใหญ่ขึ้นสินะ
ไอ้นิดนึงนั่นน่ะ ฮา)
หลังจากถูไถกันจนพอใจแล้ว
ฮารุโตะก็ถามถึงการแต่งงานของเซเรีย
เซเรียก็บอกว่าเธอได้ยอมรับมันแล้ว
ในฐานะของบุตรสาวขุนนาง
ชาร์ลูนั้นถึงมันจะกากแต่ก็ยังใจดีกับพวกสาวๆ(มีเมียแล้ว6)
แต่ฮารุโตะก็ยังอยากรู้ถึงความรู้สึกจริงๆของเซเรีย
เซเรียจึงบอกว่า
ถ้าฮารุโตะไม่พอใจจะรับตัวเธอไปไหมล่ะ
พาเธอหนีไปที่ไหนสักที่
แล้วใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตลอดชีวิต
ฮารุโตะจึงจะตอบกลับว่าเค้าจะพาหนีเองถ้าเซเรียต้องการ
(พระเอกมันต้องแบบนี้นะ
ไม่ใช่หาเหตุผลงี่เง่าอะไรมาอ้าง ฮา)
แต่สุดท้ายเซเรียก็บอกให้ลืมเรื่องนี้ไปซะเถอะ
แค่เพียงได้ยินคำตอบจากฮารุโตะเธอก็ดีใจมากๆแล้ว
เซเรียไม่อยากจะทำให้ฮารุโตะต้องมาลำบากอีก
เธอจึงตอบกลับไปว่า
ถ้าหากเธอหนีไปกับฮารุโตะล่ะก็
เธอคงจะต้องเป็นโสดไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
ฮารุโตะที่เจอพูดแบบนี้ก็พยายามจะรีบแย้งกลับไป
(เออแบบนี้เลย พูดไปสิว่าแต่งกับผมก็ได้ ฮา)
แต่น่าเสียที่เซเรียไม่ยอมให้พูด
และบอกให้ฮารุโตะกลับไป
เพราะหลังจากนี้จะมีคนมา
ดังนั้นให้รีบหนีออกไปซะ
ฮารุโตะที่ไม่มีทางเลือกจึงรีบหนีออกไปก่อน
กลับมาพบกับไอเชีย
ไอเชียก็ถามฮารุโตะว่ามีปัญหาอะไร
ฮารุโตะก็บอกในตอนนี้เค้านั้นยังไม่คิดจะยอมแพ้
นั่นก็เพราะเค้ายังไม่ทราบเลย
เค้ายังไม่ทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของเซเรียเลย
ไอเชียจึงบอกว่าเธอจะช่วยจนถึงที่สุดเอง
จากนั้นทั้งสองคนจึงรีบไปหาข้อมูลเพิ่มเติม
ตัดมาที่ช่วงเช้าของวันถัดมา
งานพิธีแต่งงานถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่
ชาร์ลูคุยกับเลสที่พึ่งมาจากจักรวรรดิฟลอเกีย
โดยชาร์ลูจะชวนเลสไปทีคฤหาสน์คืนนี้ในฐานะแขก
เนื่องจากเป็นคืนแต่งงานที่สำคัญ
จึงอยากให้เลสเข้าร่วมด้วย
(คืนแต่งงาน.....สงสัยจะมีการเปิดซิงเซเรียโชว์ให้แขกดู
ฮา)
เลสก็ตอบตกลงที่จะไปหาชาร์ลูที่คฤหาสน์ในคืนนี้
โดยเลสนั้นรู้สึกถึงตัวตนก็ภูติระดับสูงอยู่ใกล้ๆ
และคิดว่าภูติระดับสูงที่ว่านั้นคงต้องอยู่ในเมืองหลวงแน่นอน
หลังจากเลสจากไปแล้ว
ชาร์ลูก็จะคิดถึงไปคืนนี้กับเซเรีย
แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะปล่อยให้เซเรียได้นอนเลยทีเดียว
หึหึ
จากนั้นชาร์ลูจะไปหาเซเรียที่เต็นท์และชมชุดแต่งงานของเธอ
จากนั้นชาร์ลูก็จะยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าของเซเรีย
และถึงแม้เซเรียจะรู้สึกไม่ชอบแต่เธอก็ต้องอดทนเอาไว้
จากนั้นชาร์ลูก็จะแนะนำเหล่าอัศวินที่ติดตามเขามา
หลังจากนั้นชาร์ลูก็จะจากไปและทิ้งเลห่าภรรยาเอาไว้
ภรรยาของชาร์ลูทั้งหมดก็จะนั่งลงและคุยกับเซเรีย
แต่เซเรียจะถูกภรรยาอับดับที่ 1
สั่งให้ยืนเฉยๆไม่ได้ให้นั่งลง
ภรรยาอันดับที่ 5 และ 6
นั้นจะเป็นอดีตลูกศิษย์ของเซเรีย
แต่หลังจากนี้เซเรียจะเป็นอันดับที่ 7 เพราะงั้นก็ต้องทำอันดับด้วย
เรื่องภายในบ้านเซเรียจะเป็นแค่อันดับที่ 7
เท่านั้น
เซเรียได้เตรียมใจรับรู้ในเรื่องนี้เอาไว้แล้ว
หลังจากนี้ชีวิตของเธอคงจะต้องลำบากอย่างแน่นอน
แล้วก็จะไม่มีใครมาคอยปกป้องหรือคอยรับฟังเธออีกด้วย
ในตอนนั้นเองที่คริสติน่าได้มาที่เต็นท์เพื่อพบกับเซเรีย
(โย๊ช!!!
เจ้าหญิงคริสติน่าสุดที่รักของผมมาช่วยแล้ว!!)
เซเรียได้เตรียมต้อนรับคริสติน่าในทันที
ซึ่งทำให้ยัยเมียหลวงไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะข้ามหน้าข้ามตา
แต่เซเรียก็บอกว่า
เราไม่ควรจะปล่อยให้คนจากกราชวงศ์ต้องมารอ
จากนั้นเมื่อคริสติน่าเข้ามาด้านใน
เมียหลวงก็จะรีบเครียที่ให้
คริสติน่าจะชมว่าเซเรียสวยมากในชุดแต่งงาน
คริสติน่าพูดถึงเรื่องที่เธอได้ถูกกักบริเวณมาตลอด
ซึ่งก็เนื่องมาจากการส่งตัวฟลอร่าออกไปให้กับดยุคยุกโน
แต่ในที่สุดวันนี้เธอก็ได้ออกจากปราสาทเสียที
แต่ถึงยังไงที่ด้านนอกก็ยังมีคนคอยจับตาดูเธอเอาไว้
คริสติน่าจะก้มหัวลงและกล่าวขอโทษเซเรียในฐานะตัวแทนจากราชวงศ์
เนื่องจากมันเป็นความผิดของราชวงศ์เองที่ทำให้เซเรียต้องลำบากแบบนี้
คริสติน่ารู้สึกผิดและกล่าวขอโทษจากใจ
ที่ทำให้รอยยิ้มของเซเรียต้องหายไป
และถึงแม้ในตอนนี้คริสติน่าจะไร้พลังและไม่สามารถช่วยอะไรเซเรียได้
แต่ในอนาคตเธอจะต้องการช่วยนำรอยยิ้มของเซเรียกลับมาให้ได้
เซเรียเองก็อวยพรให้คริสติน่าได้มีโอกาสพบกับฟลอล่าอีกครั้ง
จากนั้นถึงเวลาเที่ยง
ขบวนพาเหรดก็จะเริ่มต้นขึ้น
เซเรียและชาร์ลูได้ออกโชว์ตัวไปรอบเมืองและโบกมือให้ผู้คน
และผู้คนก็จะตะโกนเรียกเจ้าสาวสีเงินดังก้องไปทั่ว
แต่ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มให้กับผู้คนรอบด้าน
ภายในหัวใจของเซเรียกลับมีแต่ความรู้สึกเจ็บปวด
เธอไม่ต้องการจะจูบสาบานและแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เลยสักนิด
และในที่สุดเซเรียและชาร์ลูก็ได้มาถึงยังสถานที่จัดงานพิธี
ฮารุโตะได้แทรกซึมเข้ามาอยู่ในหมู่ของบรรดาแขกรับเชิญ
และเมื่อเซเรียผ่านมาถึงจุดที่ฮารุโตะอยู่
ทั้งสองก็ได้สบตากัน
เมื่อได้เห็นหน้าคนที่เธอรัก
น้ำตาของเธอที่อดกลั้นเอาไว้ก็ไหล
เมื่อฮารุโตะที่มองเห็นใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาของเซเรีย
ฮารุดตะก็ได้ตัดสินใจขั้นเด็จขาด
และหายตัวไปในหมู่คน
และเมื่อภาพของชายที่เธอรักก็ได้หายไปจากสายตาของเธอ
นั่นก็ทำให้เซเรียรู้สึกเหมือนโลกของเธอได้ล่มสลายไป
เมื่อไปถึงยังลานพิธี ก็เจอกับผู้กล้ารุย
ที่ยืนอยู่ตรงกลางอย่างเท่
ส่วนรอบๆก็มีพวกราชทูตและเจ้าหญิงคริสติน่าสุดสวยอยู่ด้วย
งานนี้ชาร์ลูตั้งใจให้
ผู้กล้ารุยเป็นคนประกาศยอมรับการแต่งงาน
มันจะไม่มีใครหยุดเขาได้อีกแล้ว
นี่คือสิ่งที่ชาร์ลูกำลังคิด
(คือไอ้หมอนี่อยากจะจับเซเรียกดจนทนไม่ไหวแล้วสินะ
ฮา)
และในจังหวะนั้นเอง
เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาในหัว
เซเรียที่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและไปหันไปมองดูรอบๆแต่ก็ไม่เจอใคร
ไอเชียแนะนำตัวเองและบอกว่าฮารุโตะเป็นคนขอให้เธอมา
จากนั้นไอเชียก็บอกตำแหน่งของฮารุโตะและพอเซเรียหันไปมอง
เธอก็ได้เห็นใบหน้าของคนที่เธอรักกำลังยิ้มให้กับเธออยู่ตรงนั้น
เซเรียนั้นไม่อยากให้ฮารุโตะมางานแต่งของเธอ
เพียงคนเดียวเท่านั้น
ที่เธอไม่อยากให้ต้องมาเห็นงานแต่งครั้งนี้
และการที่ได้เห็นฮารุดตะก็ทำให้น้ำตาของเซเรียหลั่งไหลออกมาไม่มีหยุด
ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าไม่ควรร้องไห้
แต่เธอก็ไม่อาจจะกลั้นเอาไว้ได้
เมื่อชาร์ลูหันมาถาม ไอเชียก็สั่งให้เซเรียตอบกลับไปว่าเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ
ซึ่งมันก็เป็นความจริง
เพราะเธอนั้นรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นฮารุโตะ
ถึงแม้เธอจะไม่อยากให้เค้ามาเห็นตัวเธอที่เข้าพิธีแต่งงานกับคนอื่น
แต่หัวใจของเธอกลับรู้สึกดีใจมากเมื่อได้เห็นเค้ามาอยู่ต่อหน้าเธอ
ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้ว
แต่กลับได้มาเจอหน้ากันอีกครั้ง
ความรู้สึกของเซเรียได้ทำให้น้ำตาแห่งความยินดีหลั่งไหลออกมา
แต่หลังจากนั้น
ภาพของชายที่เธอรักก็ได้หายไปอีก
เซเรียจึงพยายามถามกับไอเชียแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
เซเรียจึงคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาหรือเปล่า
แต่แล้วในตอนที่เซเรียกำลังจะลงมาจากรถม้าเพื่อเข้าลานพิธี
เสียงของพวกอัศวินรักษาการณ์ที่อยู่ด้านหลังก็ดังขึ้นมา
เงาดำของชายคนหนึ่งได้บุกเข้ามาในงานพิธีแต่งงานครั้งนี้
เหล่านักเวทร่ายเวทมนต์และเริ่มโจมตีใส่เงาดำในทันที
แต่เงาดำนั้นก็สามารถหลบห่ากระสุนเวทมนต์ได้ทั้งหมด
แถมพวกอัศวินที่บุกเข้าไปโจมตีก็โดนจัดการเรียบด้วยมือเปล่า
ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้คนและเหล่าอัศวินถึงกับอึ้งหน้าหงายกันไป
ชาร์ลูที่พยายามเข้ามาปกป้องเซเรียก็ถูกซัดลงไปนอนกับพื้นในครึ่งวิ
จากนั้นฮารุโตะก็จับตัวเซเรียและหยิบมีดสั้นออกมาจอที่คอของเธอ
จากนั้นฮารุโตะก็เหยียบหน้าชาร์ลูที่กำลังแหกปากซ้ำเพื่อความสะใจ
ลอแรนและดยุคอัลโบรีบวิ่งลงมาจากเก้าอี้เพื่อเข้าไปหาเซเรียและชาร์ลู
แต่ทั้งสองคนก็ถูกเหล่าทหารเข้ามาขวางเอาไว้เพราะอันตราย
ฮารุโตะได้ถามสิ่งที่เซเรียต้องการจริงๆอีกครั้ง
โดยในครั้งนี้ฮารุโตะได้รู้เรื่องการเมืองและสถานะในปัจจุบัน
ของตระกูลแคลร์รวมถึงเรื่องที่กำลังถูกต้องสงสัยอย่างละเอียดแล้ว
เซเรียจึงถามกลับไปว่า
ถ้ารู้ใจจริงของเธอแล้วจะทำอย่างไร
ฮารุโตะจึงตอบว่าเค้าจะทำลายงานแต่งครั้งนี้ถ้าเซเรียต้องการ
ฮารุโตะยังบอกอีกว่า เค้าได้เตรียมใจเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว
และถ้าหากเค้าไม่มาล่ะก็
เค้าคงจะต้องเสียใจไปตลอดทั้งชีวิต
ฮารุโตะไม่ต้องจะสูญเสียคนสำคัญโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
แต่ถ้าเซเรียคิดว่าจะสามารถมีความสุขกับการแต่งงานนี้ได้จริงๆ
ฮารุโตะก็จะจากไปและไม่กลับมาให้เซเรียเห็นหน้าอีกเลย
(นี่มันข่มขู่กันนี่หว่าเห้ย
แต่ก็ทำได้ดีแล้วล่ะนะ ฮา)
เซเรียถามว่า
ถ้าเธอไม่ต้องการจะแต่งงานแล้วจะทำยังไง
ฮารุโตะก็ตอบว่า
เค้าจะลักพาตัวเซเรียไปต่อหน้าผู้คน
ซึ่งแบบนี้จะทำให้ตระกูลแคลร์ไม่ถูกว่ากล่าวอะไร
แต่ตระกูลดยุคอัลโบเองที่จะถูกมองว่าวางกำลังป้องกันไม่ดีพอ
ฮารุโตะยังบอกต่อว่า
เค้าจะสนับสนุนเซเรียทุกอย่าง
เพราะเข้าใจดีเรื่องที่ต้องละทิ้งประเทศและตระกูลแคลร์ไป
ดังนั้นจะช่วยทำให้ได้กลับไปเจอครอบครัว
และกลับไปเป็นขุนนางอีก
แต่ยังไงนี่ก็เป็นชีวิตของเซเรีย
ฮารุโตะต้องให้เซเรียเลือกเอง
สุดท้ายเซเรียก็ตัดสินใจขอให้ฮารุโตะพาหนีออกไปจากที่นี่
เมื่อได้ยินดังนั้น
ฮารุโตะก็ตอบรับและรีบอุ้มเซเรียขึ้นด้วยท่าเจ้าหญิง
ก่อนจะรีบพาเซเรียหนีออกไปจากวงล้อมของอัศวินนับร้อยในทันที
ลอแรนที่เห็นลูกสาวกำลังจะถูกพาตัวไปก็ตะโกนเรียกชื่อเธออกมา
แต่เซเรียได้ส่งรอยยิ้มกลับไปหาพ่อของเธอเพื่อเป็นสัญญาณ
จากนั้นอัลเฟรดก็จะสั่งกองทัพของเบลทรัมไล่ตามฮารุโตะไป
กองอัศวินกริฟฟอนเองก็ถูกสั่งให้ติดตามไปอย่างไม่ลดละ
เพราะเหตุนั้นฮารุโตะจึงเร่งความเร็วขึ้นไปอีกจนเซเรียทนไม่ไหว
และกล่าวชมใจในว่าฮารุโตะกลายเป็นชายหนุ่มสุดยอดไปแล้ว
แต่เนื่องจากตัวติดกันอยู่
ฮารุโตะก็เลยได้ยินและจอบคุณกลับไป
นั่นจึงทำให้เซเรียรู้สึกเขินมากจนแทบจะทนไม่ไหวเลยทีเดียว
หลังจากนั้นพอหนีไปถึงจุดลับตาคนแล้ว
ฮารุโตะก็เรียกไอเชียออกมา
ฮารุโตะส่งเซเรียให้ไอเชียพาออกไปนอกเมือง
ส่วนตัวเค้าจะถ่วงเวลา
เซเรียทีถูกไอเชียอุ้มต่อด้วยท่าเจ้าหญิงก็ถึงกับตกอึ้งไปอีกรอบ
หลังจากนั้นฮารุโตะก็จะออกไปสู้กับเหล่าอัศวินเพื่อถ่วงเวลา
และก็ได้ปะทะเข้ากับผู้กล้าลุยที่จู่โจมเข้าใส่ด้วยธนูสายฟ้า
และก็ยังมีอัลเฟรดที่ตามมาทันอีกคนซึ่งทำให้ยุ่งยากมาก
แต่สุดท้ายฮารุโตะก็หนีกลับไปพบกับเซเรียที่นอกเมืองจนได้
เซเรียที่เห็นฮารุโตะกลับมาอย่างปลอดภัยก็รู้สึกดีใจมาก
เธอจะได้อยู่ร่วมกับคนที่เธอรักหลังจากนี้และตลอดไป
โดยพวกเขาตัดสินใจรีบออกเดินทางไปยังอาณาจักรกัลอาค
แล้วก็เซเรียจะบอกว่าเธอมีแค่ชุดเดรสแต่งงานชุดนี้ชุดเดียว
เพราะงั้นถ้าเอาไปขายก็น่าจะได้เงินมาให้กับฮารุโตะบ้าง
แต่ฮารุโตะบอกไม่ต้องห่วง
เค้าจะเลี้ยงดูเซเรียอย่างดีเอง
(ชิ
ไอ้พวกมีเงินเหลือเลี้ยงหญิงกี่คนก็ได้นี่มันน่าหมั่นไส้จริงๆ)
บทส่งท้ายของเล่มนี้ตัดมาที่รีเซล็อตเต้
ที่ได้รับเชิญมาเข้าร่วมงาน
ในฐานะตัวแทนขุนนางจากอาณาจักรกัลอาค
แต่เป็นเพราะฮารุโตะบุกมา
จึงทำให้รีเซล็อตเต้ถูกกักตัวอยู่ในปราสาท
โดยบอกว่าเป็นการคุ้มกัน
รีเซล็อตเต้ที่ว่างงาน
เพราะกลับบ้านไม่ได้จึงคุยกับอาเรียเรื่องคนร้าย
ซึ่งอาเรียก็บอกว่า ถ้าเธอจะมีดาบในตำนาน
ก็อาจจะรวดเร็วขนาดนั้นได้
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น
การจะหนีจากอัศวินกริฟฟอนนั้นไม่มีทางทำได้เลย
จบเล่มที่รีเซล็อตเต้ คิดถึง
ผู้กล้าของอาณาจักรกัลอาค
และก็มีการเผยชื่อของผู้กล้า ซึ่งก็คือ
ซัทซึกิ สึเมระ
Spoil Christina Gensouki Vol.6 คลิก
อ่า น่ารัก
ตอบลบคริสติน่าน่ารักมากๆ *--*
ลบในที่สุดก็เข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงไม่พาหนีไปซ่ะง่ายๆแบบในเวป
ลบก็เพื่อการปักธงแบบสุดลิ้มทิ้มประตูนี้เอง!!
ทีมอาจารย์ คริสติน่า? ใครครับไม่เห็นมีบทหวานๆเลย~
ไม่หวานกับพระเอก แต่หวานกับผมไงครับ *--*//
ลบซะใจแตะหน้าซ้ำ
ตอบลบจริงๆมันกระทืบหลังนะ ผมเขียนให้สะใจไปงั้นเองล่ะ 555
ลบสงสัยเล่มนี้ต้องรอกวีบุ้กแปลยันจบค่อยอ่านทีเดียวจริงๆแหะ 555
ตอบลบช่วงเซเรียนี่ตื่นเต้นมากจริงๆครับ 55555
ลบอันนี้เห็นด้วยเลยครับ จะอ่านบทบรรยายเซนเซย์โดนลวนลาม(ทางความคิด)แค่นี้ก็อกจะแตกตายจนแทบคลั่งอยู่แล้ว แต่สะใจดีจังตรงกระทืบซํ้าเนี่ยน่าจะวนไปกระทืบซะหลายๆทียังไงก็หนีพ้นอยู่ละ 5555
ลบเป็นช่วงทำร้ายจิตใจที่กระตุ้นความบ้าคลั่งของคนที่ต้องรอตอนต่อไปมากๆเลยล่ะนะ 555
ลบอ่านสปอย์แบบนี้สนุกมากพอคิดกลับว่ากว่าจะถึงแต่ละตอนๆขอกวีแล้ว ดองยาวครับ 555 ถ้าเล่ม 5 จบเมื่อไหร่มีสปอย์เล่ม 6 ต่อเลยจะขอบคุณมากๆเลยครับ
ตอบลบกำลังเขียนสปอยล์ของเล่ม 6 อยู่ครับ รอกันไปก่อน
ลบถ้าอ่านกวีบุ๊คทีละตอนคงอกแตกตายแน่เลย555+
ตอบลบไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งครับ
ลบแต่อาจจะแค่ นอนไม่หลับเท่านั้นล่ะ 5555