ตอนที่ 11 เบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้น บทที่ 1


-- มุมมองของทัตสึยะ --

ตัวอย่างเช่น ถ้าหากย้ายสกิลเวทอัญเชิญจากยูเมะซามะมาอยู่ที่ทัตสึยะซามะล่ะก็ โชคชะตาของผู้คนมากกว่าหมื่นคนที่ควรจะต้องยูเมะซามะช่วยชีวิตเอาไว้ก็จะต้องกลายมาพบกับหายนะแทนน่ะค่ะ

สิ่งที่เอริจังแสดงออกมาให้เห็นทางหน้าจอนั้นคือภาพของผู้คนมากมายที่บาดเจ็บได้ล้มตายจากสงครามและการคุกคามจากพวกมอนสเตอร์ โดยในกลุ่มคนเหล่านั้นก็มีหลายคนเลยที่ผมพอจะจำใบหน้าได้ มีทั้งพวกผู้อพยพจากหมู่บ้านต่างๆที่ถูกมอนสเตอร์บุกเข้าโจมตี มีทั้งพวกพ่อค้าและนักผจญภัยที่เสียชีวิตในระหว่างการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ พวกเค้าเหล่านั้นจะต้องเสียชีวิตไปหากยูเมะจังไม่ได้ผ่านเข้าไปช่วยเหลือ

แค่เรื่องของสกิลผมมันส่งผลกระทบถึงขนาดนั้นเลยเหรอ….

เนื่องจากสกิลแต่ละประเภทนั้นจำเป็นจะต้องมีการจำกัดจำนวนคนที่จะสามารถมีได้เพื่อรักษาความสมดุลของระบบด้วยน่ะค่ะ และยิ่งกับบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อย่างทัตสึยะซามะด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกระทำเล็กน้อยใดๆก็จะส่งผลกระทบต่อโชคชะตาของผู้คนจำนวนมากอย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ

เนื่องจากข้อกำจัดที่มากมายเกี่ยวกับการรักษาระบบความสมดุลของโลกจึงทำให้ไม่สามารถมอบสกิลโกงๆให้กับหลายคนได้ นอกจากนั้นแล้วการมอบสกิลต่างๆให้กับตัวผมก็ยังส่งผลกระทบไปถึงโชคชะตาชีวิตของผู้คนมากมายอีก จึงเรียกได้ว่าตัวตนของผมที่เป็นหัวหน้าของเผ่าปีศาจนั้นเป็นเหมือนกับศูนย์กลางในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้

หลังจากนั้นเอริจังก็ยังได้แสดงตัวอย่างเกี่ยวกับสกิลอื่นๆที่ส่งผลกระทบ อย่างเช่นหากผมมีสกิลทำลายล้างรุนแรงอยู่ล่ะก็ บุคคลสำคัญต่างๆที่มีโชคชะตาในการพบเจอกับตัวผมในบางช่วงเวลาก็จะคลาดกันไป ตัวอย่างก็เช่นสเตล่าที่จะไม่ได้มาพบกับผมในช่วงเวลานั้นและเธออาจจะกลายเป็นศัตรูไปแทน

เพราะงั้นเพื่อให้ส่งผลดีที่สุดแล้วทุกคนบนโลกใบนี้ เอริจังได้คอยเบี่ยงเบนโชคชะตาชีวิตของผู้คนผ่านการปรับแต่งสกิลของผมอยู่เสมอ และนั่นก็ทำให้ผมได้เข้าใจถึงเหตุผลที่ว่าทำไมเอริจังที่อยู่ในโลกของผมนั้นมักจะส่งสกิลคริสตันให้ผมเป็นของขวัญตามเทศกาลต่างๆอยู่เสมอ

ถ้างั้นต่อไปชั้นก็จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับช่วงเวลานั้น ในช่วงเวลาตั้งแต่ที่ทัตสึยะซามะได้ถูกอัญเชิญมา

ในชั่วพริบตาที่ห้างเซย์ริเอนและพวกเราได้ถูกเคลื่อนย้ายมายังโลกใบนี้ผ่านระบบการอัญเชิญของเผ่าปีศาจนั้น เอริจังได้ทำการหยุดเวลาเอาไว้ชั่วครู่เพื่อทำการติดต่อกับตัวเธอเอง หลังจากนั้นเธอก็ได้ส่งเทพธิดาเลซาเรียไปเข้าร่างของเอริจังที่อยู่ในโลกของผมพร้อมๆกับนำความทรงจำบางส่วนจากโลกก่อนที่มีความจำเป็นไปมอบให้ด้วย

จากความทรงจำแสนโหดร้ายที่ทั้งคาโอริจังและตัวผมที่ได้ถูกฆ่าตายไปนั้นทำให้เอริจังตกใจเป็นอย่างมาก แต่ถึงแม้ว่าเธอจะยอมให้ความร่วมมือเพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงสิ่งอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เอริจังก็ยังคงมีความลังเลที่จะทำการแก้ไขปัญหาด้วยการใช้วิธีรุนแรงอย่างการลงมือสังหารผู้คนที่ยังไม่ได้กระทำความผิดใดๆในโลกใบนี้

โดยสิ่งแรกที่เธอทำนั้นก็คือการใช้พลังของเทพธิดาเพื่อสร้างอาณาเขตบาร์เรียขึ้นมาปกป้องคาโอริจังและผู้คนที่ได้หลบอยู่ภายในภัตตาคารอาหารจีนในตอนนั้น จากนั้นเธอก็ได้ปลอมตัวเป็นพนักงานเพื่อนำทางชิซึกุไปหลบภายในโซนพนักงาน แล้วก็เป็นเอริจังเองอีกนั่นแหละที่ได้ทำขัดขวางการออกไปยังด้านนอกห้างของตัวผมกับเจ้าอากิโอะด้วยการถล่มเพดานลงมาปิดขวางทางออก

นอกจากนั้นแล้วเอริจังก็ยังเป็นคนนำทางผมให้ไปช่วยเหลือยูเมะจัง การที่เจ้าอากิโอะต้องมาแยกไปทางผมในตอนนั้นเองก็เป็นฝีมือเธอด้วยเช่นกัน โดยเหตุผลที่ต้องแยกตัวเจ้าอากิโอะไปอีกทางหนึ่งนั้นก็เพื่อช่วยเหลือมายุจังและริกะจังที่กำลังหลบหนีพวกก็อบลินจากอีกด้านหนึ่งของห้าง

ถ้าหากคิดจะใช้วิธีรุนแรงล่ะก็ ทำไมเธอถึงไม่ไปเข้าร่างของเอริจังด้วยตัวเองล่ะ ถ้าเป็นเรื่องราวที่มาจากตัวเองในอีกโลกหนึ่งล่ะก็ ผมคิดว่าเอริจังน่าจะเชื่อและยอมทำตามในสิ่งที่เธอต้องการมากกว่านะ

อ๊ะร่ะ ถ้าชั้นไปพบเจอกับทัตสึยะซามะด้วยตัวเองล่ะก็ นั่นสินะคะ….บางทีชั้นอาจจะอดใจไม่ไหวแล้วก็ทำอย่างนั้น....หรือไม่ก็ทำอย่างนี้….แล้วถ้ามันจะทำให้เรื่องราวแย่ลงไปกว่าเดิมก็คงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ใช้มั๊ยล่ะคะ อุฟุฟุ

กับคำถามของผมนั้น เอริจังได้ยื่นใบหน้าเข้ามากใกล้ๆผมก่อนจะตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มแสนน่ารักซุกซน และถึงแม้เธอจะไม่ได้พูดรายละเอียดออกมา แต่นั่นก็ทำให้ผมพอจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าหากเป็นผมล่ะก็ หากตัวผมได้มีโอกาสพบกับคนรักที่ได้ตายจากกันไปแล้วอีกครั้งหนึ่งล่ะก็ ผมเองก็ไม่มีความมั่นใจเหมือนกันที่จะสามารถอดทนยับยั้งความรู้สึกตัวเองจนไม่ทำให้เสียเรื่องได้

แต่แล้วก็เป็นเพราะความลังเลของเด็กคนนั้น เพราะเด็กคนนั้นเอาแต่เสียเวลาไปช่วยเหลือพวกเด็กสาวหลายคนจากโชคชะตาที่โหดร้าย มิเชลซังก็เลยต้องเสียชีวิตไปทั้งๆในครั้งนี้มีโอกาสที่จะช่วยชีวิตเอาไว้ได้....

เนื่องจากความลังเลของเอริจังที่จะทำการคร่าชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่ง โดยเด็กสาวคนที่ว่านั้นก็คือผู้ที่มีโชคชะตาชีวิตผูกติดอยู่กับมิเชลซังซึ่งเป็นพ่อบ้านที่ได้ติดตามคาโอริจังมาด้วย สุดท้ายตัวตนของเธอจึงได้ทำให้มิเชลซังถูกลูกธนูอาบยาพิษและได้เสียชีวิตไปเช่นเดียวกันกับในโลกก่อน

ถ้าหากเธอคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ ไม่วันใดก็วันหนึ่งเธอจะต้องเป็นสาเหตุทำให้มิเชลซังต้องเสียชีวิตตามไปด้วย โดยในโลกก่อนนั้นก็เป็นเด็กสาวคนนี้แหละค่ะที่มิเชลพยายามปกป้องจนทำให้ถูกลูกธนูอาบพิษเข้าจนต้องเสียชีวิตไป

โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ มิเชลซังซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับหน้าที่คอยเฝ้ายามให้กับทุกคนในภัตตาคารอาหารจีนนั้นได้ยินเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากเด็กสาวที่อยู่บริเวณด้านนอกก็เลยรีบออกไปช่วย ทั้งๆที่เอริจังได้สร้างบาร์เรียขึ้นมาป้องกันรอบภัตตาคารอาหารจีนเอาไว้แล้ว แต่มันก็ไม่สามารถป้องกันผู้คนด้านในที่ตัดสินใจออกไปด้านนอกด้วยตัวเองได้

แล้วชีวิตของเด็กสาวคนนั้น….

เธอได้ถูกพิษจนเสียชีวิตไปพร้อมกันกับมิเชลซังค่ะ โชคชะตาของเธอนั้นมีแต่เพียงความตายเท่านั้นที่รอคอยอยู่ ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีการแบบไหนก็ไม่มีทางที่จะช่วยชีวิตเธอจากโชคชะตาที่โหดร้ายได้ นอกจากนั้นการเข้าไปช่วยเหลือเธอก็มีเพียงจะทำให้คนที่เข้าไปช่วยเหลือต้องเสียชีวิตตามไปด้วยเท่านั้น.....ช่างเป็นเด็กสาวที่มีโชคชะตาที่น่าเศร้ามากจริงๆเลยนะคะ.....

ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้นจะมีโชคชะตาที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็จะต้องพบกับความตายก็เถอะ ถึงจะรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะช่วยเธอเอาไว้ได้ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังเข้าใจความรู้สึกของเอริจังเป็นอย่างดี เพราะการจะตัดสินใจลงมือคร่าชีวิตของเด็กสาวที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรลงไปโดยไม่ลังเลได้เนี่ย ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงไม่สามารถที่จะตัดสินใจลงมือทำได้ง่ายๆแน่

ความหนักหน่วงของภาระที่เอริจังได้แบกรับเอาไว้ด้วยตัวเธอเพียงคนเดียวนั้นช่างมากมายจนยากที่จะจินตนาการได้ เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากสักแค่ไหน แต่จิตใจของมนุษย์เรานั้นก็ไม่เหมือนกับเครื่องจักร ดังนั้นการที่จะละทิ้งความรู้สึกส่วนตัวลงไปนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด

เอริจัง....

ผมใช้แขนทั้งสองโอบกอดร่างกายของเอริจังอย่างแนบแน่นมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยถ้าหากผมได้รับรู้เรื่องราวพวกนี้เร็วกว่านี้ล่ะก็....ไม่สิ....เพราะในสถานการณ์แบบนั้นน่ะ แทนที่จะเป็นการช่วยเหลือ ตัวเองผมอาจจะไม่ยอมรับและเป็นคนเข้าไปขัดขวางแผนการที่เอริจังด้วยตัวเองก็เป็นไปได้

กับสถานการณ์ที่มีชีวิตคนมากมายเข้ามาเกี่ยวข้องขนาดนั้นน่ะ การจะตัดสินใจทำอะไรแต่ละอย่างนั้นจะต้องเป็นอะไรที่มีความกดดันสูงมาก ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่อาจจะบอกได้เลยว่ามันเป็นทางเลือกที่ถูกหรือเปล่า เพราะงั้นแทนที่จะมานั่งคิดถึงความผิดพลาดต่างๆที่ได้เกิดขึ้นไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ที่ผมควรจะทำนั้นก็คือการเดินหน้าต่อไปอย่างรอบคอบมากที่สุด

มิเซลซังเป็นคนที่คอยช่วยอบรมดูแล เป็นคนที่คอยช่วยสอนเรื่องต่างๆให้กับชั้นมากมายตั้งแต่ยังเด็ก เป็นคนสำคัญที่เป็นเหมือนกันพ่อคนที่สองของชั้น....

ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่การเสียชีวิตของมิเซลซังนั้นก็ไม่ใช่ว่าไร้ประโยชน์ นั่นก็เพราะการจากไปของมิเซลซังนั้นได้ทำให้เอริจังสามารถตัดสินใจได้ เอริจังนั้นได้ตัดสินใจที่จะใช้แผนการรุนแรงตามคำแนะนำของเทพธิดาเลซาเรีย เธอได้ตัดสินใจที่จะสละชีวิตผู้คนบางส่วนเพื่อช่วยเหลือคนสำคัญ

เธอได้เริ่มคิดทบทวนและจัดการเรื่องราวอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากการร่ายเวทมนต์หลับยาวใส่คาโอริจังและคนอื่นๆภายในภัตตาคารอาหารจีนทั้งหมด เหตุการณ์และความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้นซ้ำขึ้นอีก และเมื่อมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรทำร้ายคาโอริจังได้แล้วเอริจังก็ได้เริ่มลงมือ

มือเปื้อนเลือดทั้งสองข้างที่สั่นไหวของเอริจังในภาพความทรงจำที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นนั้นได้ส่งความรู้สึกสุดแสนจะเจ็บปวดมาถึงผมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเด็กอายุเพียงแค่ไม่กี่ปี ไม่ว่าจะเป็นคนชราไร้ทางสู้ เอริจังลงมือสังหารพวกเค้าเหล่านั้นไปโดยแบกรับเอาความเจ็บปวดทั้งหมดเอาไว้เพียงคนเดียว

นอกจากการเข้าไปจัดการคร่าชีวิตผู้คนมากมายที่เป็นอันตราย พวกคนที่จะทรยศในอนาคตรวมถึงผู้คนที่มีโชคชะตาไม่ดีต่อทัตสึยะซามะแล้ว เด็กคนนั้นก็ยังคอยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทัตสึยะซามะในยามที่พบเจอกับเรื่องยากลำบากหรือเวลาพบกับพวกมอนสเตอร์ชั้นสูงที่ยุ่งยาก.....

แน่นอนว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไม่ใช่เพียงแค่การทำร้ายผู้คนเท่านั้น หลายๆครั้งที่ผมหรือพวกเพื่อนๆนั้นได้พบเจอกับเรื่องยุ่งยาก เอริจังก็ได้แอบเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้แทบจะทุกครั้ง อย่างตอนที่พวกเราเกือบจะพลาดท่าให้กับพวกบอสมอนเตอร์ต่างๆเองก็ด้วย เรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ผมคิดว่าเป็นโชคดีนั้นล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพราะมีเอริจังคอยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

เรื่องที่เซลฟีน่าซามะและพวกอัศวินของเธอได้หลงเข้ามาในป่ามายาจนได้มาเจอพบกับทัตสึยะซามะนั้นเองก็ด้วยนะคะ เพื่อแปลงเปลี่ยนโชคชะตาที่โหดร้าย เพื่อช่วยเหลือโรน่าจังซึ่งเป็นคนที่ทัตสึยะซามะรัก....

ในช่วงที่พวกเรากำลังจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะหลังจากที่สามารถปราบราชาก็อบลินลงได้นั้น ในตอนนั้นเอริจังก็ยังคงรับภาระหนักอยู่ตลอด เธอได้ออกไปด้านนอกห้างเซย์ริเอนเพื่อไล่ล่าผู้คนที่หนีรอดออกไปได้ เอริจังได้ลงมือจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยมือของเธอเอง

เรื่องที่กองทัพของพวกมิโนทอร์บุกเข้ามาโจมตีเมืองเวลล่าเองก็ด้วย ถึงแม้ว่าต้นเหตุของเรื่องนั้นจะเป็นเพราะพวกสายลับของบารอนวิลเลี่ยมที่ต้องการทำลายกองทัพอัศวินของตระกูลโรเซนเบิร์ก แต่คนที่ไปจัดการล่อให้พวกมิโนทอร์จำนวนมากออกมาจากรังนั้นก็คือเอริจัง

เพื่อสร้างชื่อเสียงอย่างยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา เพื่อเรียกความน่าเชื่อถือรวมถึงการสร้างบุญคุณให้กับพวกชาวเมืองเวลล่า เอริจังได้ลงมือจัดการเรื่องราวต่างๆทีละเล็กละน้อยโดยพยายามเน้นไปที่การเสียสละชีวิตของผู้คนที่มีโชคชะตาต้องตายในเวลาหลังจากนี้ไม่นานนัก

เธอทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้มีการสูญเสียน้อยที่สุด แต่ถึงแม้จะพยายามลดการสูญเสียมากไปแค่ไหน ความเป็นจริงที่ได้คร่าชีวิตผู้คนบริสุทธิ์ไปมากมายนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ชีวิตของผู้คนที่ถูกเอริจังพรากไปนั้นก็ยังคงสร้างความเสียหายให้กับสภาพจิตใจของเอริจังอย่างต่อเนื่อง

แล้วก็เป็นเพราะเหตุนั้นที่ทำให้เด็กคนนั้นเริ่มที่จะลงโทษตัวเองน่ะค่ะ....

ลงโทษตัวเองงั้นเหรอ....?

4 ความคิดเห็น:

  1. อย่าบอกนะว่าที่เอริจังเลือกลงโทษตัวก็คือ...(ไม่น่าใช่ล่ะมั้ง...หรือใช่ที่คิดหว่า?)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คงใช่แหละครับ เพราะมันเป็นตีมของเรื่องนี้อยู่แล้วนี่นะ.....

      ลบ
    2. อา...จิตใจของผมมันกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง บีบรัดเหมือนกลับไปอ่านตอนนั้นอีกครั้ง

      ลบ
    3. ขนาดคนเขียนยังเจ็บปวดเลยครับ โคตรเศร้า

      ลบ