ตอนที่ 12 เบื้องหลังเรื่องราวที่เกิดขึ้น บทที่ 2



-- มุมมองของทัตสึยะ --

แต่สำหรับเรื่องนี้แล้ว....ชั้นขอเก็บมันเป็นความลับนะคะ เพราะเด็กคนนั้นเองก็จะไม่อยากให้ทัตสึยะซามะได้มารับรู้ถึงเรื่องแบบนั้น....

เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้ผมรับรู้งั้นเหรอ....เข้าใจละ สำหรับเรื่องบางเรื่องแล้ว การที่เราไม่รู้มันก็อาจจะดีกว่าแบบนั้นสินะ

แม้จะไม่รู้ว่าเอริจังจะได้ลงโทษตัวเองไปด้วยวิธีแบบไหน แต่การที่เอริจังไม่อยากจะให้ผมได้มารับรู้นั้นก็หมายความว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากแน่ๆ เพราะงั้นถึงแม้ในใจลึกๆแล้วผมจะอยากรู้ แต่ผมก็ไม่คิดที่จะฝืนใจให้เอริจังเล่าในสิ่งที่เธอไม่ต้องการ

ส่วนเรื่องสำคัญหลังจากนั้นก็....คงเป็นเรื่องบันทึกของอดีตผู้กล้า....ทัตสึยะซามะยังจำได้ไหมคะ บันทึกเก่าๆที่ถูกเขียนด้วยภาษาอังกฤษ บันทึกที่ได้หายไปจากชั้นหนังสือในห้องสมุดของคฤหาสน์โดยไร้ร่องรอยน่ะค่ะ

บันทึกของอดีตผู้กล้า….เธอหมายถึงบันทึกเก่าๆที่ตัวอักษรมันเลือนรางจนไม่มีใครสามารถอ่านได้นั่นน่ะ….เด๋วสิ หรือว่าคนที่ขโมยมันไปจะเป็นเอริจังเอง….เป็นแบบนั้นสินะ....?

ถ้าเอริจังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ผมก็คงจะลืมตัวตนของบันทึกเล่มที่ว่าไปแล้ว ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะเป็นเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจมากกับการที่บันทึกเล่มนั้นถูกขโมยไป แต่เนื่องจากมันไม่ได้เรื่องราวอะไรที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกันกับบันทึกเล่มนั้นเกิดขึ้นเลย 

แถมหลังจากนั้นไม่ว่าผมจะออกคำสั่งให้หน่วยข่าวกรองช่วยกันตามหาข้อมูลมากสักแค่ไหนก็ไม่ได้เจอร่องรอยเลยด้วย เพราะงั้นผมจึงได้ลืมเรื่องนั้นไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของเอริจังที่เป็นหัวหน้าของหน่วยขาวกรองแล้วล่ะก็ การที่หน่วยข่าวกรองจะไม่สามารถตามหาร่องรอยได้นั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ใช่แล้วล่ะค่ะ เป็นเด็กคนนั้นเองที่ได้ฉวยโอกาสแอบเข้าไปในคฤหาสน์ของทัตสึยะซามะ ก็ในช่วงนั้นทัตสึยะซามะเอาแต่สนใจกลั่นแกล้งเหยื่อรายใหม่อย่างเวลน่าซามะจนไม่ได้สนใจเรื่องอื่นๆที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์เลยนี่คะ อุฟุฟุ

ฮะๆ…..เรื่องนั้นก็….ช่วยไม่ได้ล่ะมั้ง…..

ผมยิ้มและตอบเอริจังกลับไปด้วยอาการเขินเล็กน้อย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆใช่มั๊ยล่ะ ก็ยัยเวลน่าในตอนนั้นน่ะน่ารักจะตายไป แถมเธอยังเป็นเด็กสาวแต่งงานแล้วที่ยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่อีก กับเด็กสาวซึนเดเระสุดแสนจะน่ารักที่หาได้ยากแบบยัยเวลน่าแล้วเนี่ย ไม่ว่าจะโลกไหนก็คงจะไม่สามารถหาตัวพบกันได้ง่ายๆ เพราะงั้นแล้วจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เลยหากตัวผมในตอนนั้นจะเอาแต่ให้ความสนใจในตัวเธอจนลืมคิดถึงเรื่องอื่นๆไป

กับเรื่องของเวลน่าซามะก็เอาตามนั้นเถอะค่ะ ส่วนเรื่องบันทึกของอดีตผู้กล้านั้นก่อนอื่นเลยก็คงจะต้องขอบอกก่อนว่ามันไม่ใช่บันทึกธรรมดาทั่วไป แต่มันเป็นบันทึกเวทมนต์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังของหนึ่งใน 4 ผู้กล้า….

โดยบันทึกเวทมนต์นั้นได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับเพื่อนผู้กล้าด้วยกันเป็นของขวัญ ซึ่งหากนับรวมเล่มของตัวคนสร้างแล้วก็จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 เล่ม

โดยเล่มที่ 1 นั้นก็เป็นของอดีตผู้กล้าหนุ่มมัธยมปลายผู้หล่อเลิศไร้ที่ติ คิริยามะ ยูโตะ ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิเอลติซร่วมกันกับบุตรสาวของเทพธิดาผู้ทรยศ โดยบันทึกเล่มนี้ได้ถูกส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่นภายในราชวงศ์เอลติซและในปัจจุบันนั้นก็ได้อยู่ในมือของจักรพรรดิเลคซิอุส

สำหรับเล่มที่ 2 นั้นเป็นของผู้กล้าสาวตัวเล็กผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักบุญโลลิปริศนาไร้ชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนต์รักษา แต่ในปัจจุบันบันทึกเล่มนี้ได้หายสาบสูญไปและยังไม่มีใครค้นพบ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เวทมนต์รักษาของศาสนจักรในปัจจุบันนั้นได้ลดถอยลงจนแทบจะไม่มีเหลืออยู่

เล่มที่ 3 นั้นเป็นของผู้กล้าวิศวกรหนุ่ม วาคาบะ ฮารุฮิโกะ และก็เป็นฮารุฮิโกะคนนี้เองที่ได้สร้างบันทึกเวทมนต์นี้ขึ้น โดยฮารุฮิโกะนั้นเป็นผู้กล้าที่มีความสามารถสูงมากในการสร้างสรรค์อุปกรณ์เวท นอกจากนั้นแล้วเค้ายังได้สร้างโบราณสถานและเมืองต่างๆมากมายซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่เรื่องชื่อไปทั่วโลก และเค้าก็ยังเป็นคนก่อตั้งจักรวรรดิเลเรียสขึ้นมาอีกด้วย 

โดยบันทึกของอดีตผู้กล้าฮารุฮิโกะนั้นก็คือบันทึกเล่มที่ยูกะซามะได้ไปพบเจอเข้าที่ห้องลับใต้ดินในเมืองเอเกีย และยูกะซามะก็ได้มอบบันทึกเล่มนั้นให้กับทัตสึยะซามะ

หรือว่า….ความรู้ในด้านวิศวกรรมและยุธโทปกรณ์ของประเทศเราจะมาจากบันทึกเล่มนี้ที่ได้ถูกเอริจังแอบลอบเข้ามายืมเอาไป ?

อ๊ะร่ะ สมแล้วที่เป็นทัตสึยะซามะ ใช่แล้วล่ะค่ะ แต่ว่าก่อนอื่นชั้นจะขอพูดถึงบันทึกเล่มสุดท้ายก่อนนะคะ

สำหรับบันทึกเล่มสุดท้ายนั้นเป็นบันทึกของผู้กล้าสาวสวยที่มีชื่อว่า วาคาบะ อนาสตาเซีย โดยเธอนั้นก็คือภรรยาต่างชาติของฮารุฮิโกะ แต่เรื่องราวของเธอนั้นไม่ได้มีการถูกพูดถึงมากเท่าไหร่นัก นั่นก็เพราะส่วนใหญ่แล้วเธอจะติดตามสามีไปตลอดและไม่เคยสร้างผลงานอะไรที่โดดเด่นด้วยตัวเธอเองคนเดียวเลย

ในช่วงเวลาก่อนที่ วาคาบะ อนาสตาเซียซามะจะจบชีวิตลงไปนั้น เธอได้ทำการผนึกบันทึกของเธอเข้าไปรวมอยู่ด้วยกันกับบันทึกของสามีเธอเพื่อซ่อนเนื้อหาสำคัญเอาไว้ ซึ่งเหตุผลนั้นก็เป็นเพราะข้อมูลในบันทึกของเธอนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครทราบได้....

ข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครทราบได้งั้นเหรอ ? มันเป็นข้อมูลสำคัญแบบไหนกันล่ะ ?

ในเมื่อได้ฟังมาถึงขนาดนี้แล้วผมก็อยากที่จะได้รับรู้เรื่องราวความสำคัญทั้งหมด เพราะการที่เอริจังถึงขนาดลงทุนแอบลอบเข้ามายืมเอาไปเนี่ย มันก็แสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่อยู่ในบันทึกเล่มนั้นจะต้องมีความสำคัญมากจนแม้แต่ตัวผมเองในตอนนั้นก็ไม่อาจจะปล่อยให้รับรู้ได้

ในบันทึกของอนาสตาเซียซามะนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับจุดอ่อนของอาวุธเวทและอุปกรณ์เวททั้งหมดที่ฮารุฮิโกะซามะเป็นคนสร้าง ตำแหน่งทางเข้าออกลับของโบราณสถานและเมืองต่างๆทั้งหมดที่ถูกสร้างก็ด้วย ที่ซ่อนอาวุธของอดีตผู้กล้ารวมไปถึงสมบัติศักดิ์

นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีข้อมูลลับที่อันตรายสุดๆอย่างวิธีผ่านเข้าไปยังสถานที่หลบซ่อนของเหล่าทายาทจากเผ่าต่างๆที่ได้หลบหนีไปในสงคราม สถานที่เก็บซ่อนศิลาแห่งพระเจ้า และก็ยังมีความลับของประเทศต่างๆที่ไม่ควรจะถูกเปิดเผยรวมอยู่อีกด้วยน่ะค่ะ

เป็นข้อมูลสำคัญที่อันตรายมากจริงๆเลยนะนั่น….

เพียงแค่คิดถึงก็ทำให้ผมรู้สึกหนาววูบไปถึงสันหลัง เพราะหากข้อมูลเหล่านั้นตกมาอยู่ในมือผมแล้วล่ะก็ ผมไม่มีความมั่นใจเลยที่จะสามารถเก็บข้อมูลทั้งหมดเอาไว้ได้ทั้งหมด และหากข้อมูลสำคัญพวกนั้นได้หลุดรอดออกไปยังคนนอกโดยความผิดพลาดของผมแล้วล่ะก็ ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นตามมานั้นคงจะไม่สามารถประเมินได้เลย

อย่างเช่นวิธีผ่านเข้าไปยังที่ซ่อนตัวของพวกเผ่าต่างๆที่รอดชีวิตไปได้นั้นก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่อันตรายสุดๆ เพราะถ้าหากเจ้าอากิโอะได้รับรู้เข้าล่ะก็ เจ้านั่นคงจะมุ่งหน้าไปในทันทีโดยไม่สนใจคนรอบข้างแน่ๆ และถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมันก็มีโอกาสสูงที่เรื่องราวจะรู้ไปถึงเทพธิดาผู้ทรยศ เพราะงั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เอริจังจะตัดสินใจปกปิดมันเอาไว้เพื่อความปลอดภัย

ถึงจะพูดแบบนั้นแต่การจะอ่านบันทึกภาษาอังกฤษแบบนั้นได้มันก็จำเป็นจะต้องเป็นคนในโลกของเราเท่านั้น….ไม่สิ เพราะเป็นบันทึกเวทมนต์ที่ถูกสร้างโดยผู้กล้า ดังนั้นมันก็อาจจะมีวิธีการเปิดอ่านที่พิเศษหรืออะไรแบบนั้นซ่อนอยู่ใช่รึเปล่า ?

อ๊ะร่ะ สมกับเป็นทัตสึยะซามะสุดที่รักของชั้น ก็เป็นตามที่คิดนั่นล่ะค่ะ โดยสิ่งสำคัญที่สุดในการเปิดอ่านบันทึกเวทมนต์นั้นก็คือมานาของผู้สืบทอดสายเลือดเจ้าของบันทึก แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่สืบทอดสายเลือดมา หากมานาไม่เข้มข้นมากพอก็จะไม่สามารถเปิดอ่านเนื้อหาภายในได้หรอกนะคะ

ส่วนเรื่องที่บันทึกได้ถูกเขียนเป็นภาษาของโลกเรานั้น ชั้นคิดว่าพวกผู้กล้าในสมัยนั้นคงจะต้องการป้องกันไม่ให้เนื้อหาภายในถูกเปิดเผยไปยังคนนอกได้โดยง่าย แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนที่มาจากโลกของ ขอเพียงแค่มีสกิล Translation หรือสกิลสำหรับการถอดรหัสอักษรอื่นๆก็สามารถอ่านได้แล้วล่ะค่ะ

สกิลแปลภาษากับสกิลถอดรหัสงั้นเหรอ ? จะว่าไปแล้วก็นั่นสินะ เพราะการที่พวกเราสามารถพูดคุยและอ่านเขียนภาษาบนโลกใบนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆนั้นก็เป็นเพราะสกิล Translation ดังนั้นหากผู้คนบนโลกนี้จะมีคนที่มีสกิลภาษาแบบเดียวกันกับพวกเราอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เด๋วสิ ถ้าหากการเปิดอ่านบันทึกนั้นจำเป็นจะต้องใช้มานาของผู้สืบทอดสายเลือดเจ้าของบันทึกล่ะก็…..แล้วทำไมเอริจังถึงสามารถเปิดอ่านบันทึกเล่มนั้นได้ล่ะ….หรือว่าเธอจะเป็นผู้สืบทอดสายเลือดของผู้กล้า ?

ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง แต่หากเอริจังเป็นผู้สืบทอดสายเลือดจากผู้กล้าในอดีตนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ก็นะ เพราะไม่ว่าจะดูยังไงเธอก็ไม่ใช่เด็กสาวทั่วไปเลยสักนิดด้วยน่ะสิ

อ๊ะร่ะ ทัตสึยะซามะได้ยินชื่อ วาคาบะ ฮารุฮิโกะ และ วาคาบะ อนาสตาเซีย แล้วไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือคะ ?

วาคาบะงั้นเหรอ ? วาคาบะ….วาคาบะ ไอโกะ…..ไอโกะจัง!!!?

ผมตะโกนชื่อไอโกะจังออกไปด้วยความตกใจ ผมคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคนที่สืบทอดสายเลือดจาดผู้กล้าสองคนนั้นจะเป็นไอโกะจัง ไม่สิ เดิมทีแล้วไอโกะเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งด้วยนี่.....เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่นะ

ใช่แล้วล่ะค่ะ ยังดีนะคะเนี่ยที่ทัตสึยะซามะยังพอจะจำชื่อเต็มของหนึ่งในคนรักของตัวเองได้บ้าง ไม่งั้นไอโกะซามะที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกวินาทีเพื่อทัตสึยะซามะคงเสียมากแน่ๆเลยล่ะค่ะ อุฟุฟุ

แล้วไอโกะจังก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยกันกับเธองั้นเหรอ ?

อ๊ะร่ะ ไอโกะซามะไม่ได้รับรู้เรื่องอะไรด้วยหรอกค่ะ สิ่งที่เธอทำนั้นก็แค่การถ่ายเลือดและมานาตามที่เด็กคนนั้นร้องขอไปเท่านั้นเองล่ะค่ะ

เห นั่นก็หมายความว่าการจะอ่านบันทึกนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้สืบทอดสายเลือด ขอเพียงแค่นำมานาของผู้สืบทอดสายเลือดมาใช้เป็นกุญแจในการเปิดอ่านอะไรแบบนั้นงั้นสินะ ?

แต่สำหรับเนื้อหาภายในรวมถึงเรื่องราวของไอโกะจังนั้น เอริจังบอกว่าเธออยากจะให้ผมไปสอบถามกับไอโกะจังก่อนเพื่อให้เธอเป็นคนตัดสินใจ และถ้าหากไอโกะจังต้องการจะรับรู้ความจริงก็ให้เธอเปิดอ่านบันทึกที่ถูกซ่อนเอาไว้ แต่การที่ได้มารับรู้ความจริงว่าไอโกะจังเป็นบุตรสาวแท้ๆของ วาคาบะ ฮารุฮิโกะ และ วาคาบะ อนาสตาเซีย นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

หลังจากนั้น เอริจังก็เล่าเรื่องราวต่อไปเกี่ยวกับการเชิญชวนผู้คนที่สามารถจะทำประโยชน์ให้กับทัตสึยะได้เข้ามาในประเทศ อย่างเรื่องของยูฟีน่าที่ควรจะต้องถูกจับกุมตัวไปยังเมืองเอเกียนั้น การที่เธอสามารถหลบหนีมายังเมืองของพวกเราก็เป็นผลจากการแทรกแซงของเอริจังเช่นเดียวกัน

เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตระกูลเนอราเชียถูกกองทัพเมอร์แมนโจมตีเองก็ด้วย เรื่องที่เอลิเซ่เดินทางมาหาพวกเราพร้อมกับศาสนจักรเองก็ด้วย ต้นกำเนิดที่แท้จริงของสงครามระหว่างจักรวรรดิเลเรียสกับประเทศของพวกเราเองนั้นก็เป็นเพราะเอริจังได้ทำการดัดแปลงเนื้อหาข้อมูลประเทศของพวกเราที่จักรวรรดิเลเรียสได้รับ 

เรื่องที่เด็กสาวอย่างยูมีน่าได้เข้าร่วมกับคณะราชทูตของจักรวรรดิเอลติซเองก็เช่นเดียวกัน เหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวผมทั้งหมดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นล้วนแล้วแต่ถูกเอริจังแทรกแซง เธอได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดให้ไปในทางที่ดีขึ้น

แต่ก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่อยู่เหนือกว่าการคาดการณ์ของเอริจัง ซึ่งนั่นก็คือการที่ร่างกายของมากิจังได้ถูกใช้เป็นกับดักเพื่อทำลายล้างพวกเราด้วยมนตราคืนชีพอสูร เวทมนต์ต้องห้ามสุดเลวร้ายที่เมื่อทำงานขึ้นมาแล้วก็จำเป็นจะต้องมีการสังเวยอย่างน้อยหนึ่งชีวิตเพื่อปลุกชีพอสูรชั่วร้ายให้ตื่นขึ้นมา......

เด๋วสิ!! แล้วหนึ่งชีวิตที่ได้ถูกสังเวยนั่นเป็นใครกันล่ะ!!?

สำหรับเรื่องนั้นแล้วก็ถือว่าเป็นโชคดีนะคะที่ชั้นพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับมนตราคืนชีพอสูรอยู่บ้าง เพราะงั้นแทนที่จะต้องทำการเสียสละหนึ่งชีวิต ชั้นและเทพธิดาเลซาเรียจึงได้ช่วยกันแก้ไขดัดแปลงจนในที่สุดก็สามารถแบ่งรูปแบบการสังเวยชีวิตให้กลายเป็นการสังเวยวิญญาณ 4 ส่วนแทนได้สำเร็จ 

วิญญาณ 1 ส่วนของทัตสึยะซามะ วิญญาณอีก 1 ส่วนของมากิซามะ และสุดท้ายก็คือวิญญาณอีก 2 ส่วนซึ่งถือเป็นครึ่งหนึ่งของเด็กคนนั้น สำหรับเด็กคนนั้นแล้ว การที่ได้เสียสละแม้แต่ชีวิตของตัวเองเพื่อคนที่เธอรักอย่างทัตสึยะซามะนั้นเป็นความต้องการสูงสุดของเธอ แม้แต่การสูญเสียโอกาสที่จะได้กลับมาเกิดใหม่เองเธอก็ไม่ได้ใส่ใจมันเลยสักนิด....ช่างเป็นเด็กสาวที่โง่ที่สุดเลยจริงๆล่ะค่ะ....

เอริจัง….

กับความเป็นจริงที่ได้มารับรู้ในครั้งนี้ทำให้ผมเจ็บปวดหัวใจถึงขีดสุด ทั้งๆที่เอริจังพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผมและเพื่อนๆทุกคนมาตลอดเวลา ทั้งๆที่เธอได้พยายามอย่างเต็มที่โดยลำพังเพียงแค่คนเดียวมาตลอด ทั้งๆที่เธอต้องเจ็บปวดกับการทำร้ายผู้คนอย่างไม่รู้จบ ทั้งๆแบบนั้นแล้วเธอก็ยังเลือกที่จะเสียสละแม้แต่ชีวิตของตัวเธอเองเพื่อผมอีก....

แต่ถึงแม้จะบอกว่าเป็นโชคดีที่เด็กคนนั้นยังสามารถที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ได้จากการสูญเสียวิญญาณไปเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง แต่หากปล่อยเธอทิ้งเอาไว้นานโดยไม่รีบทำการช่วยเหลือแล้วล่ะก็....

เอริจัง…...ไม่ว่าเธออยากจะให้ทำอะไรผมก็พร้อมจะทำทุกอย่าง…..ช่วยบอกวิธีช่วยเหลือเอริจังในโลกของผมได้หรือเปล่า ?

ไม่ว่าการช่วยเหลือเอริจังนั้นจะเป็นสิ่งที่ยากลำบากมากสักแค่ไหน แต่ผมก็จะต้องช่วยชีวิตเอริจังเอาไว้ได้

2 ความคิดเห็น:

  1. กะแล้วว่าจะต้องไม่ยอมเผยเรื่องบทลงโทษของตัวเองแน่ๆ แต่ก็พอเดาได้ว่าเป็นอะไร

    นี่น่าแปลกใจที่สุดคือเรื่องประวัติของไอโกะจังนี่แหล่ะ ไม่นึกเลยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องที่สุดในเรื่องบันทึกที่เอริจังแอบ"ยืม"ไปด้วย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. หุหุ ไอโกะจังเป็นตัวละครหลักตัวเดียวไม่ได้มีการบอกถึงความเป็นมา 0...0 แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเป็นเด็กกำพร้า 0...0 แต่ความจริงแล้วพ่อแม่ของเธอได้พาเธอไปฝากไว้เพราะถูกอัญเชิญไปต่างโลก

      ลบ