-- มุมมองของทัตสึยะ --
「เอริจัง เธอจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังสินะ
?」
「อ๊ะร่ะ อยากรู้สินะคะ.....ถ้างั้นก่อนอื่นก็คงต้องเล่าย้อนไปในวันแรก...」
ภายในอ้อมกอดของผม เอริจังเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่แสดงออกถึงความเหงา
โดยวันแรกในโลกของเอริจังนั้นก็คือวันเดียวกันกับวันที่ผมและเจ้าอากิโอะออกไปซื้อเกมเอโรเกะออกใหม่ที่ร้านฮาร์ดแมพบนชั้นที่
10 ของห้างเซย์ริเอน
ในวันนั้น ชิซึกุน้องสาวของผมได้ชวนคาโอริจังให้มาเที่ยวเล่นและค้างคืนที่บ้านของพวกเรา
ซึ่งนั่นก็แน่นอนว่าเอริจังซึ่งทำงานเป็นเมดส่วนตัวของคาโอริจังและมิเชลซังซึ่งเป็นพ่อบ้านของตระกูลนัตสึยูกิก็ได้ติดตามมาพร้อมกันด้วย
โดยก่อนที่จะถึงเวลานัด
คาโอริจังก็ได้ตัดสินใจที่จะแวะทานอาหารกลางวันและซื้อของฝากเข้ามาให้กับพวกเรา
ซึ่งของฝากที่คาโอริจังต้องการจะซื้อนั้นก็คืออาหารจีนจากภัตตาคารชื่อดังที่รู้จักกันดีในตระกูลของเธอ
โดยภัตตาคารอาหารจีนที่ว่านั้นก็อยู่บนชั้น 4 ของห้างเซย์ริเอน
「แล้วมันก็เป็นในตอนนั้นเองที่ได้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่คล้ายกับแผ่นดินไหวขึ้น
ไฟฟ้าได้ดับลงต่อเนื่องยาวนาน
ทั้งสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเองก็ได้ขาดหายไป...」
「นี่เอริจัง...เธอรู้ว่าแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นนั่นไม่ได้เป็นเพราะแผ่นดินไหวงั้นเหรอ?」
กับการแทรกถามคำถามออกไปของผมนั้น
เอริจังได้แสดงรอยยิ้มซุกซนออกมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกดีใจมากกับคำถามของผม
「ชั้นรู้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงสาเหตุที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นด้วย
ทั้งในโลกของชั้นทั้งในโลกใบนี้ และในโลกเก่าของพวกเราเองก็ด้วย แต่สำหรับเรื่องพวกนี้
ยังไงก็ขอให้รอจนกว่าชั้นจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกของชั้นจบแล้วกันก่อนนะคะ
อุฟุฟุ」
「นั่นสินะ
เพราะถ้าฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วคงจะเข้าใจเรื่องราวได้ง่ายกว่าด้วยล่ะนะ」
ผมหอมแก้มเอริจังและตอบรับเธอกลับไป
ถึงแม้จะเรื่องนี้จะทำให้ผมรู้สึกคาใจเป็นอย่างมาก แต่ผมก็คิดว่าการรอให้เอริจังเล่าเรื่องทั้งหมดจนจบก่อนน่าจะทำให้ผมสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ง่ายกว่า
「ในตอนนั้น ทั้งๆที่เวลาได้ผ่านไปยาวนานกว่า 10
นาทีแล้ว
แต่พวกเราที่อยู่ภายในห้องพิเศษของภัตตาคารกลับไม่ได้รับการแจ้งรายละเอียดอะไรจากพวกพนักงานเลย
ดังนั้นมิเชลซังจึงได้ตัดสินใจที่จะออกไปดูสถานการณ์ที่ด้านนอก
แต่ตอนที่มิเชลซังเปิดประตูออกไปนั้น
พวกเราก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมามากมายจากพวกลูกค้าและพนักงาน...」
ซึ่งมันก็เป็นในตอนนั้นเองที่เอริจังซึ่งรับรู้ถึงอันตรายที่เกิดขึ้นได้ตัดสินใจที่จะทำการต่อสู้เพื่อปกป้องคาโอริจัง
ทั้งเอริจังและมิเชลซังต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้
ดังนั้นทั้งสองคนจึงการจัดการกับพวกก็อบลินที่บุกรุกเข้ามาภายในภัตตาคารทั้งหมดได้อย่างไม่ยากนัก
โดยหลังจากที่จัดการพวกก็อบลินทั้งหมดแล้ว
เอริจังก็ได้ตัดสินใจที่จะนำประตูเหล็กนิรภัยลงมาปิดตายประตูทางเข้าภัตตาคารอาหารจีนเอาไว้ชั่วคราว
ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดีที่ภัตตาคารแห่งนี้นั้นมีระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับป้องกันการก่อการร้ายอยู่
ดังนั้นถึงแม้ว่าไฟฟ้าวงจรหลักจะดับลงไปแล้ว
แต่ระบบรักษาความปลอดภัยนั้นก็ยังสามารถที่จะทำงานโดยการเข้าไปจัดการตรงได้
「หลังจากนั้นพวกเราก็ได้เข้าไปทำการช่วยเหลือพวกลูกค้าและพนักงานที่ยังรอดชีวิต
คาโอริซามะเองก็พยายามอย่างมากเพื่อปลอบโยนจิตใจผู้คน แต่หลังจากที่เวลาผ่านไป 2
วันพวกเราก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือการติดต่อใดๆจากภายนอกเลย
ด้วยความเครียดที่สะสมเพิ่มขึ้นบวกกับจำนวนอาหารที่ลดลงไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้ในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้น...」
ผู้คนกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกเครียดจนทนไม่ไหวได้ตัดสินใจเปิดประตูนิรภัยและหนีออกไปด้านนอก
ซึ่งก็แน่นอนว่าพวกที่หนีออกไปนั้นได้ถูกพวกก๊อบลินคร่าชีวิตไปในเวลาแทบจะทันที
แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือการที่ประตูนิรภัยถูกเปิดไปโดยที่พวกเอริจังไม่ทันรู้ตัวนั้นได้ส่งผลให้พวกก๊อบลินบุกเข้ามาโจมตีผู้คนที่อยู่ด้านใน
มิเชลซังที่พยายามเต็มที่เพื่อปกป้องผู้คนได้ถูกลูกธนูอาบยาพิษเข้าและเสียชีวิตไปในที่สุด
ส่วนเอริจังนั้นได้ให้ความสำคัญกับการปกป้องคาโอริจังเป็นอันดับแรก เธอได้พยายามพาคาโอริจังหนีไปในช่วงที่เกิดความวุ่นวายขึ้น
แต่สุดท้ายแล้วพวกเธอทั้งสองคนก็ได้ถูกพวกก๊อบลินจับตัวเอาไว้ได้
และก็เป็นเพราะแบบนั้นเองที่ทำคาโอริจังและเอริจังก็ได้ถูกพวกก็อบลินจำนวนมากรุมขืนใจอย่างสนุกสนานไปพร้อมๆกับพวกเด็กสาวคนอื่นๆที่พวกมันจับตัวเอาไว้ได้
พวกเธอได้กลายเป็นของเล่นให้กับพวกก๊อบลินยาวนานต่อเนื่องอยู่ถึง 3
วันกว่าที่ผมและเจ้าอากิโอะจะลงไปถึงยังชั้น 4 และเข้าไปช่วยพวกเธอเอาไว้
「ในตอนนั้นที่ทัตสึยะซามะบุกเข้ามาช่วยพวกเราน่ะ
เท่มากเลยนะคะ!!
ทัตสึยะซังที่กระโดดเข้าไปอาละวาดใส่เจ้าก็อบลินน่าเกลียดพวกนั้นด้วยแววตาโกรธแค้นสุดๆน่ะ
ทำเอาชั้นตกหลุมรักในทันทีเลยล่ะค่ะ อุฟุฟุ」
เอริจังพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มน่ารักซุกซนมาให้กับผม
แต่แทนที่จะบอกว่าตกหลุมรัก เมื่อมองดูเธอแล้วมันกลับทำให้ผมคิดว่าความรู้สึกของเธอในตอนนั้นอาจจะเป็นเหมือนกับได้เจอของเล่นชิ้นใหม่หรืออะไรแบบนั้นก็ได้....
......เด๋วสิ
ถ้าพูดถึงตอนที่พวกเราลงไปถึงยังชั้นที่ 4 และได้เจอเอริจังครั้งแรกล่ะก็
ในตอนนั้นน่ะ
เป็นฝ่ายเอริจังที่ได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเราในช่วงที่พวกเรากำลังลำบากสุดๆเพราะถูกพวกก็อบลินลอบโจมตีด้วยหน้าไม้อาบยาพิษ
ในตอนนั้นหากเอริจังไม่ได้รีบเข้ามาช่วยเหลือพวกเราแล้วล่ะก็
ผมไม่รู้เลยจริงๆว่าพวกเราจะเกิดความเสียหายมากแค่ไหน....
นอกจากนั้นหากลองคิดถึงเลเวลกับสกิลที่มากมายของเอริจังที่เป็นเหมือนกับตัวละครขี้โกงแบบนั้นแล้ว
ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าทำไมเอริจังถึงได้ถูกพวกก็อบลินจับตัวไปแบบนั้น
มันเกิดอะไรขึ้นกับในโลกของเธอกันแน่นะ ?
「ขอโทษที่ต้องแทรกขึ้นมาในระหว่างเล่านะ
แต่เท่าที่ผมจำได้น่ะ เลเวลของเธอมันสูงมากเลยนะ
ยิ่งเอาไปรวมกันกับสกิลโกงหลายสกิลของเธอแล้วด้วย เธอไม่น่าจะแพ้ให้กับก็อบลินพวกนั้นได้เลยนี่
?」
「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
เพราะเป็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากด้วย....ก่อนอื่นก็ชั้นก็คงต้องขอบอกความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างโลกของชั้นกับโลกของทัตสึยะซามะ
ในโลกของชั้นนั้นไม่ได้มีระบบแหวนสีเงินแบบที่ทัตสึยะซังใส่อยู่น่ะค่ะ」
เอริจังพูดพร้อมกับลูบไล้ไปที่นิ้วมือของผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
แต่คำพูดจากน้ำเสียงเรียบๆของเธอนั้นกลับทำให้ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
นั่นก็เพราะเจ้าแหวนสีเงินนั้นเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้พวกเราสามารถต่อสู้กับพวกก็อบลินได้สะดวกมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลสเตตัส
การช่วยสนับสนุนระหว่างการใช้สกิล การส่งข้อความ การอัพเลเวลสกิล
การจัดตั้งปาร์ตี้ เรียกได้ว่าหากไม่มีแหวนสีเงินล่ะก็
ทั้งผมและพวกสาวๆเองก็คงจะไม่สามารถช่วยกันบริหารทรัพยากรและวางระบบต่างๆให้กับผู้รอดชีวิตได้ง่ายๆแน่
「ผมเข้าใจล่ะ เพราะแบบนั้นก็เลยทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมากกว่าที่ผมจะลงไปช่วยพวกเธอได้สินะ.....」
「อ๊ะร่ะ
ดูเหมือนว่าระบบแหวนสีเงินที่ชั้นเสียเวลาตั้งมากมายสร้างขึ้นมามันสามารถช่วยเหลือทัตสึยะซามะได้มากเลยนะ
ชั้นดีใจมากเลยล่ะค่ะ อุฟุฟุ!!」
「สะ สร้างขึ้นมา!!? เธอเป็นคนสร้างระบบของแหวนสีเงินนั่น.....」
เมื่อได้ยินว่าเอริจังเป็นคนสร้างระบบของแหวนสีเงิน
มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเอริจังกันแน่นะ....ไม่สิ ก่อนหน้านี้เอริจังก็เป็นคนแนะนำตัวออกมาเองด้วยว่าตัวเธอในตอนนี้เป็นพระเจ้าผู้ปกครองอาณาเขตแห่งพระเจ้านี้
เพราะงั้นการที่เธอจะสามารถสร้างสิ่งต่างๆให้กับโลกของผมนั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร....
「ใช่แล้วล่ะค่ะ.....แต่สำหรับเรื่องนี้เองก็เช่นเดียวกัน
ชั้นขอเก็บเอาไว้อธิบายหลังจากเล่าเรื่องราวในโลกจองชั้นจบก็แล้วกันนะคะ อุฟุฟุ」
เอริจังพูดพร้อมกับลูบไล้ไปตามหน้าอกและหน้าท้องของผมด้วยรอยยิ้มน่ารักซุกซน
ดูเหมือนว่าเอริจังคนนี้จะชอบกลั่นแกล้งผมมากกว่าเอริจังในโลกของผมเป็นอย่างมาก
แต่ก็เอาเถอะ
เพราะยังไงตัวผมก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจการถูกเด็กสาวแสนสวยอย่างเอริจังกลั่นแกล้งแบบนี้อยู่แล้ว
「หลังจากที่ถูกทัตสึยะช่วยเอาไว้ ทัตสึยะซามะก็พาพวกเรากลับไปยังวิหารแห่งเผ่าปีศาจซึ่งเป็นฐานที่มั่น
ส่วนตัวชั้นที่ตกหลุมรักทัตสึยะซามะก็เข้าไปกอดแขนแนบติดทัตสึยะซามะตลอดทาง ยูเมะซามะและพวกสาวๆคนอื่นที่เล็งทัตสึยะซามะอยู่ต่างก็พากันส่งสายตาอิจฉาสุดๆมาที่ตัวชั้นตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ!!!! สีหน้าในตอนนั้นของพวกเธอน่ะ ตลกมากเลยนะคะ อุฟุฟุ!!」
เอริจังเล่าเรื่องราวต่อไปด้วยแววตาเปล่งประกายระยิบระยับ
ดูเหมือนว่าการที่เอริจังได้นึกย้อนกลับไปถึงในช่วงเวลานั้นจะทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
และการที่เด็กสาวแสนสวยหาใครเทียบยากอย่างเอริจังเข้ามาแนบติดผมทั้งๆที่พึ่งจะพบกันแบบนั้นน่ะ
มันจะไปทำให้พวกยูเมะจังและสาวคนอื่นๆที่แอบชอบผมจะพากันแสดงความอิจฉาออกมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร....
「เด๋วสิ!? ทำไมฐานที่มันของพวกเราถึงได้เป็นวิหารแห่งเผ่าปีศาจที่ผมไม่สามารถเข้าไปด้านในได้กันล่ะ
? 」
「อ๊ะร่ะ
เรื่องนั้นคงเป็นเพราะวิหารแห่งเผ่าปีศาจนั้นเป็นสถานที่แห่งเดียวที่พวกเราเผ่าปีศาจสามารถที่จะอัพเลเวลสกิลและเพิ่มสกิลใหม่ๆได้ล่ะมั้งคะ ?」
「เจ้าก้อนคริสตันนั่นมีระบบการทำงานคล้ายๆกันกับแหวนสีเงินในโลกของผมงั้นสินะ
?」
「ใช่แล้วล่ะค่ะ คริสตันแห่งพลังของเผ่าปีศาจนั้นจะทำการเพิ่มเลเวลสกิลหรือมอบสกิลใหม่ๆให้เป็นการตอบแทนหากมีการนำผลึกคริสตันที่ดรอบจากพวกมอนสเตอร์เข้าไปมอบให้จำนวนหนึ่งน่ะค่ะ
แต่สิ่งที่แตกต่างกันจากระบบแหวนสีเงินของชั้นอย่างชัดเจนนั้นก็คือพวกเราไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าจะอัพสกิลอะไรก่อนหลังน่ะค่ะ
มันช่างเป็นระบบที่น่ารำคาญมากเลยใช่มั๊ยล่ะคะ อุฟุฟุ!!」
พอได้ยินคำตอบของเอริจังแล้วมันก็ทำให้ผมเริ่มจะเข้าใจเรื่องราวต่างๆขึ้นมามากยิ่งขึ้น
เพราะหากไม่มีแหวนสีเงินแล้วล่ะก็ การที่พวกเราจะต่อสู้เอาชนะพวกก็อบลินจำนวนมากได้นั้นไม่ว่ายังไงก็คงจะเป็นเรื่องยากมากแน่ๆ
ดังนั้นมันจึงทำให้พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากการไปตั้งฐานที่มั่นอยู่ในบริเวณที่สะดวกต่อการเพิ่มความสามารถให้พวกพ้องได้
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมพวกเราถึงสามารถเข้าไปด้านในวิหารแห่งเผ่าปีศาจได้นั้นก็คงจะเป็นหนึ่งในความแตกต่างกันระหว่างโลกของเอริจังและโลกของพวกเรา
แต่เรื่องที่เจ้าก้อนคริสตันนั่นสามารถนำมาใช้แทนแหวนสีเงินในการเพิ่มเลเวลให้กับสกิลต่างๆได้เนี่ย
มันเป็นเรื่องผมไม่เคยคิดถึงเลยจริงๆ
「แต่แล้วเมื่อพวกเรากลับไปถึงยังวิหารแห่งเผ่าปีศาจ
พวกเราก็ถูกกลุ่มคนทรยศที่อยู่ด้านในลอบโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว และก็เป็นในตอนนั้นเองที่ชั้นได้แสดงความสามารถให้ทัตสึยะซามะได้เห็นเป็นครั้งแรก!!! ชั้นช่วยทัตสึยะซามะและอากิโอะซามะตอบโต้เจ้าคนทรยศพวกนั้นจนในที่สุดพวกเราก็ยึดฐานที่และพวกสาวๆที่ถูกจับเป็นตัวประกันกลับคืนมาได้อย่างงดงามสุดๆเลยนะคะ!!!」
「เด๋วสิ!? นี่เธอจะบอกว่ามีกลุ่มคนทรยศรวมอยู่ในผู้คนที่ผมได้รวบรวมเข้ามาเป็นพวกพ้องงั้นเหรอ!?」
เมื่อผมได้ยินเรื่องราวของกลุ่มคนทรยศได้จับพวกสาวๆเป็นตัวประกันและยังลอบโจมตีพวกเราในขณะเดินทางกลับเข้าไปยังฐานที่มั่น
มันก็ทำให้ผมก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ผมลุกขึ้นมาจับแขนทั้งสองข้างของเอริจังพร้อมทั้งจ้องมองไปยังดวงตาสีเงินแสนงดงามของเธออย่างจริงจัง
หา!? คนทรยศ ใครหว่า นึกไม่ออก
ตอบลบหุหุ รอติดตามตอนต่อไป
ลบ