ตอนที่ 2 เรื่องราวในโลกก่อน บทที่ 1

-- มุมมองของทัตสึยะ --

เอริจัง เธอจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังสินะ ?

 อ๊ะร่ะ อยากรู้สินะคะ.....ถ้างั้นก่อนอื่นก็คงต้องเล่าย้อนไปในวันแรก...

ภายในอ้อมกอดของผม เอริจังเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่แสดงออกถึงความเหงา โดยวันแรกในโลกของเอริจังนั้นก็คือวันเดียวกันกับวันที่ผมและเจ้าอากิโอะออกไปซื้อเกมเอโรเกะออกใหม่ที่ร้านฮาร์ดแมพบนชั้นที่ 10 ของห้างเซย์ริเอน

ในวันนั้น ชิซึกุน้องสาวของผมได้ชวนคาโอริจังให้มาเที่ยวเล่นและค้างคืนที่บ้านของพวกเรา ซึ่งนั่นก็แน่นอนว่าเอริจังซึ่งทำงานเป็นเมดส่วนตัวของคาโอริจังและมิเชลซังซึ่งเป็นพ่อบ้านของตระกูลนัตสึยูกิก็ได้ติดตามมาพร้อมกันด้วย

โดยก่อนที่จะถึงเวลานัด คาโอริจังก็ได้ตัดสินใจที่จะแวะทานอาหารกลางวันและซื้อของฝากเข้ามาให้กับพวกเรา ซึ่งของฝากที่คาโอริจังต้องการจะซื้อนั้นก็คืออาหารจีนจากภัตตาคารชื่อดังที่รู้จักกันดีในตระกูลของเธอ โดยภัตตาคารอาหารจีนที่ว่านั้นก็อยู่บนชั้น 4 ของห้างเซย์ริเอน

 แล้วมันก็เป็นในตอนนั้นเองที่ได้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่คล้ายกับแผ่นดินไหวขึ้น ไฟฟ้าได้ดับลงต่อเนื่องยาวนาน ทั้งสัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเองก็ได้ขาดหายไป...

 นี่เอริจัง...เธอรู้ว่าแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นนั่นไม่ได้เป็นเพราะแผ่นดินไหวงั้นเหรอ?

กับการแทรกถามคำถามออกไปของผมนั้น เอริจังได้แสดงรอยยิ้มซุกซนออกมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกดีใจมากกับคำถามของผม

 ชั้นรู้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงสาเหตุที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นด้วย ทั้งในโลกของชั้นทั้งในโลกใบนี้ และในโลกเก่าของพวกเราเองก็ด้วย แต่สำหรับเรื่องพวกนี้ ยังไงก็ขอให้รอจนกว่าชั้นจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกของชั้นจบแล้วกันก่อนนะคะ อุฟุฟุ

 นั่นสินะ เพราะถ้าฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วคงจะเข้าใจเรื่องราวได้ง่ายกว่าด้วยล่ะนะ

ผมหอมแก้มเอริจังและตอบรับเธอกลับไป ถึงแม้จะเรื่องนี้จะทำให้ผมรู้สึกคาใจเป็นอย่างมาก แต่ผมก็คิดว่าการรอให้เอริจังเล่าเรื่องทั้งหมดจนจบก่อนน่าจะทำให้ผมสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ง่ายกว่า

ในตอนนั้น ทั้งๆที่เวลาได้ผ่านไปยาวนานกว่า 10 นาทีแล้ว แต่พวกเราที่อยู่ภายในห้องพิเศษของภัตตาคารกลับไม่ได้รับการแจ้งรายละเอียดอะไรจากพวกพนักงานเลย ดังนั้นมิเชลซังจึงได้ตัดสินใจที่จะออกไปดูสถานการณ์ที่ด้านนอก แต่ตอนที่มิเชลซังเปิดประตูออกไปนั้น พวกเราก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมามากมายจากพวกลูกค้าและพนักงาน...

ซึ่งมันก็เป็นในตอนนั้นเองที่เอริจังซึ่งรับรู้ถึงอันตรายที่เกิดขึ้นได้ตัดสินใจที่จะทำการต่อสู้เพื่อปกป้องคาโอริจัง ทั้งเอริจังและมิเชลซังต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงการจัดการกับพวกก็อบลินที่บุกรุกเข้ามาภายในภัตตาคารทั้งหมดได้อย่างไม่ยากนัก

โดยหลังจากที่จัดการพวกก็อบลินทั้งหมดแล้ว เอริจังก็ได้ตัดสินใจที่จะนำประตูเหล็กนิรภัยลงมาปิดตายประตูทางเข้าภัตตาคารอาหารจีนเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดีที่ภัตตาคารแห่งนี้นั้นมีระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับป้องกันการก่อการร้ายอยู่ ดังนั้นถึงแม้ว่าไฟฟ้าวงจรหลักจะดับลงไปแล้ว แต่ระบบรักษาความปลอดภัยนั้นก็ยังสามารถที่จะทำงานโดยการเข้าไปจัดการตรงได้

หลังจากนั้นพวกเราก็ได้เข้าไปทำการช่วยเหลือพวกลูกค้าและพนักงานที่ยังรอดชีวิต คาโอริซามะเองก็พยายามอย่างมากเพื่อปลอบโยนจิตใจผู้คน แต่หลังจากที่เวลาผ่านไป 2 วันพวกเราก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือการติดต่อใดๆจากภายนอกเลย ด้วยความเครียดที่สะสมเพิ่มขึ้นบวกกับจำนวนอาหารที่ลดลงไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้ในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้น...

ผู้คนกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกเครียดจนทนไม่ไหวได้ตัดสินใจเปิดประตูนิรภัยและหนีออกไปด้านนอก ซึ่งก็แน่นอนว่าพวกที่หนีออกไปนั้นได้ถูกพวกก๊อบลินคร่าชีวิตไปในเวลาแทบจะทันที แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือการที่ประตูนิรภัยถูกเปิดไปโดยที่พวกเอริจังไม่ทันรู้ตัวนั้นได้ส่งผลให้พวกก๊อบลินบุกเข้ามาโจมตีผู้คนที่อยู่ด้านใน

มิเชลซังที่พยายามเต็มที่เพื่อปกป้องผู้คนได้ถูกลูกธนูอาบยาพิษเข้าและเสียชีวิตไปในที่สุด ส่วนเอริจังนั้นได้ให้ความสำคัญกับการปกป้องคาโอริจังเป็นอันดับแรก เธอได้พยายามพาคาโอริจังหนีไปในช่วงที่เกิดความวุ่นวายขึ้น แต่สุดท้ายแล้วพวกเธอทั้งสองคนก็ได้ถูกพวกก๊อบลินจับตัวเอาไว้ได้

และก็เป็นเพราะแบบนั้นเองที่ทำคาโอริจังและเอริจังก็ได้ถูกพวกก็อบลินจำนวนมากรุมขืนใจอย่างสนุกสนานไปพร้อมๆกับพวกเด็กสาวคนอื่นๆที่พวกมันจับตัวเอาไว้ได้ พวกเธอได้กลายเป็นของเล่นให้กับพวกก๊อบลินยาวนานต่อเนื่องอยู่ถึง 3 วันกว่าที่ผมและเจ้าอากิโอะจะลงไปถึงยังชั้น 4 และเข้าไปช่วยพวกเธอเอาไว้

ในตอนนั้นที่ทัตสึยะซามะบุกเข้ามาช่วยพวกเราน่ะ เท่มากเลยนะคะ!! ทัตสึยะซังที่กระโดดเข้าไปอาละวาดใส่เจ้าก็อบลินน่าเกลียดพวกนั้นด้วยแววตาโกรธแค้นสุดๆน่ะ ทำเอาชั้นตกหลุมรักในทันทีเลยล่ะค่ะ อุฟุฟุ

เอริจังพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มน่ารักซุกซนมาให้กับผม แต่แทนที่จะบอกว่าตกหลุมรัก เมื่อมองดูเธอแล้วมันกลับทำให้ผมคิดว่าความรู้สึกของเธอในตอนนั้นอาจจะเป็นเหมือนกับได้เจอของเล่นชิ้นใหม่หรืออะไรแบบนั้นก็ได้....

......เด๋วสิ ถ้าพูดถึงตอนที่พวกเราลงไปถึงยังชั้นที่ 4 และได้เจอเอริจังครั้งแรกล่ะก็ ในตอนนั้นน่ะ เป็นฝ่ายเอริจังที่ได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเราในช่วงที่พวกเรากำลังลำบากสุดๆเพราะถูกพวกก็อบลินลอบโจมตีด้วยหน้าไม้อาบยาพิษ ในตอนนั้นหากเอริจังไม่ได้รีบเข้ามาช่วยเหลือพวกเราแล้วล่ะก็ ผมไม่รู้เลยจริงๆว่าพวกเราจะเกิดความเสียหายมากแค่ไหน....

นอกจากนั้นหากลองคิดถึงเลเวลกับสกิลที่มากมายของเอริจังที่เป็นเหมือนกับตัวละครขี้โกงแบบนั้นแล้ว ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าทำไมเอริจังถึงได้ถูกพวกก็อบลินจับตัวไปแบบนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกับในโลกของเธอกันแน่นะ ?

ขอโทษที่ต้องแทรกขึ้นมาในระหว่างเล่านะ แต่เท่าที่ผมจำได้น่ะ เลเวลของเธอมันสูงมากเลยนะ ยิ่งเอาไปรวมกันกับสกิลโกงหลายสกิลของเธอแล้วด้วย เธอไม่น่าจะแพ้ให้กับก็อบลินพวกนั้นได้เลยนี่ ?

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะเป็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากด้วย....ก่อนอื่นก็ชั้นก็คงต้องขอบอกความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างโลกของชั้นกับโลกของทัตสึยะซามะ ในโลกของชั้นนั้นไม่ได้มีระบบแหวนสีเงินแบบที่ทัตสึยะซังใส่อยู่น่ะค่ะ

เอริจังพูดพร้อมกับลูบไล้ไปที่นิ้วมือของผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่คำพูดจากน้ำเสียงเรียบๆของเธอนั้นกลับทำให้ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก นั่นก็เพราะเจ้าแหวนสีเงินนั้นเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้พวกเราสามารถต่อสู้กับพวกก็อบลินได้สะดวกมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลสเตตัส การช่วยสนับสนุนระหว่างการใช้สกิล การส่งข้อความ การอัพเลเวลสกิล การจัดตั้งปาร์ตี้ เรียกได้ว่าหากไม่มีแหวนสีเงินล่ะก็ ทั้งผมและพวกสาวๆเองก็คงจะไม่สามารถช่วยกันบริหารทรัพยากรและวางระบบต่างๆให้กับผู้รอดชีวิตได้ง่ายๆแน่

ผมเข้าใจล่ะ เพราะแบบนั้นก็เลยทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมากกว่าที่ผมจะลงไปช่วยพวกเธอได้สินะ.....

อ๊ะร่ะ ดูเหมือนว่าระบบแหวนสีเงินที่ชั้นเสียเวลาตั้งมากมายสร้างขึ้นมามันสามารถช่วยเหลือทัตสึยะซามะได้มากเลยนะ ชั้นดีใจมากเลยล่ะค่ะ อุฟุฟุ!!

สะ สร้างขึ้นมา!!? เธอเป็นคนสร้างระบบของแหวนสีเงินนั่น.....

เมื่อได้ยินว่าเอริจังเป็นคนสร้างระบบของแหวนสีเงิน มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเอริจังกันแน่นะ....ไม่สิ ก่อนหน้านี้เอริจังก็เป็นคนแนะนำตัวออกมาเองด้วยว่าตัวเธอในตอนนี้เป็นพระเจ้าผู้ปกครองอาณาเขตแห่งพระเจ้านี้ เพราะงั้นการที่เธอจะสามารถสร้างสิ่งต่างๆให้กับโลกของผมนั้นก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร....

ใช่แล้วล่ะค่ะ.....แต่สำหรับเรื่องนี้เองก็เช่นเดียวกัน ชั้นขอเก็บเอาไว้อธิบายหลังจากเล่าเรื่องราวในโลกจองชั้นจบก็แล้วกันนะคะ อุฟุฟุ

เอริจังพูดพร้อมกับลูบไล้ไปตามหน้าอกและหน้าท้องของผมด้วยรอยยิ้มน่ารักซุกซน ดูเหมือนว่าเอริจังคนนี้จะชอบกลั่นแกล้งผมมากกว่าเอริจังในโลกของผมเป็นอย่างมาก แต่ก็เอาเถอะ เพราะยังไงตัวผมก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจการถูกเด็กสาวแสนสวยอย่างเอริจังกลั่นแกล้งแบบนี้อยู่แล้ว

หลังจากที่ถูกทัตสึยะช่วยเอาไว้ ทัตสึยะซามะก็พาพวกเรากลับไปยังวิหารแห่งเผ่าปีศาจซึ่งเป็นฐานที่มั่น ส่วนตัวชั้นที่ตกหลุมรักทัตสึยะซามะก็เข้าไปกอดแขนแนบติดทัตสึยะซามะตลอดทาง ยูเมะซามะและพวกสาวๆคนอื่นที่เล็งทัตสึยะซามะอยู่ต่างก็พากันส่งสายตาอิจฉาสุดๆมาที่ตัวชั้นตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ!!!! สีหน้าในตอนนั้นของพวกเธอน่ะ ตลกมากเลยนะคะ อุฟุฟุ!!

เอริจังเล่าเรื่องราวต่อไปด้วยแววตาเปล่งประกายระยิบระยับ ดูเหมือนว่าการที่เอริจังได้นึกย้อนกลับไปถึงในช่วงเวลานั้นจะทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และการที่เด็กสาวแสนสวยหาใครเทียบยากอย่างเอริจังเข้ามาแนบติดผมทั้งๆที่พึ่งจะพบกันแบบนั้นน่ะ มันจะไปทำให้พวกยูเมะจังและสาวคนอื่นๆที่แอบชอบผมจะพากันแสดงความอิจฉาออกมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร....

เด๋วสิ!? ทำไมฐานที่มันของพวกเราถึงได้เป็นวิหารแห่งเผ่าปีศาจที่ผมไม่สามารถเข้าไปด้านในได้กันล่ะ ?

อ๊ะร่ะ เรื่องนั้นคงเป็นเพราะวิหารแห่งเผ่าปีศาจนั้นเป็นสถานที่แห่งเดียวที่พวกเราเผ่าปีศาจสามารถที่จะอัพเลเวลสกิลและเพิ่มสกิลใหม่ๆได้ล่ะมั้งคะ ?

เจ้าก้อนคริสตันนั่นมีระบบการทำงานคล้ายๆกันกับแหวนสีเงินในโลกของผมงั้นสินะ ?

ใช่แล้วล่ะค่ะ คริสตันแห่งพลังของเผ่าปีศาจนั้นจะทำการเพิ่มเลเวลสกิลหรือมอบสกิลใหม่ๆให้เป็นการตอบแทนหากมีการนำผลึกคริสตันที่ดรอบจากพวกมอนสเตอร์เข้าไปมอบให้จำนวนหนึ่งน่ะค่ะ แต่สิ่งที่แตกต่างกันจากระบบแหวนสีเงินของชั้นอย่างชัดเจนนั้นก็คือพวกเราไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าจะอัพสกิลอะไรก่อนหลังน่ะค่ะ มันช่างเป็นระบบที่น่ารำคาญมากเลยใช่มั๊ยล่ะคะ อุฟุฟุ!!

พอได้ยินคำตอบของเอริจังแล้วมันก็ทำให้ผมเริ่มจะเข้าใจเรื่องราวต่างๆขึ้นมามากยิ่งขึ้น เพราะหากไม่มีแหวนสีเงินแล้วล่ะก็ การที่พวกเราจะต่อสู้เอาชนะพวกก็อบลินจำนวนมากได้นั้นไม่ว่ายังไงก็คงจะเป็นเรื่องยากมากแน่ๆ

ดังนั้นมันจึงทำให้พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากการไปตั้งฐานที่มั่นอยู่ในบริเวณที่สะดวกต่อการเพิ่มความสามารถให้พวกพ้องได้ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมพวกเราถึงสามารถเข้าไปด้านในวิหารแห่งเผ่าปีศาจได้นั้นก็คงจะเป็นหนึ่งในความแตกต่างกันระหว่างโลกของเอริจังและโลกของพวกเรา แต่เรื่องที่เจ้าก้อนคริสตันนั่นสามารถนำมาใช้แทนแหวนสีเงินในการเพิ่มเลเวลให้กับสกิลต่างๆได้เนี่ย มันเป็นเรื่องผมไม่เคยคิดถึงเลยจริงๆ

แต่แล้วเมื่อพวกเรากลับไปถึงยังวิหารแห่งเผ่าปีศาจ พวกเราก็ถูกกลุ่มคนทรยศที่อยู่ด้านในลอบโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว และก็เป็นในตอนนั้นเองที่ชั้นได้แสดงความสามารถให้ทัตสึยะซามะได้เห็นเป็นครั้งแรก!!! ชั้นช่วยทัตสึยะซามะและอากิโอะซามะตอบโต้เจ้าคนทรยศพวกนั้นจนในที่สุดพวกเราก็ยึดฐานที่และพวกสาวๆที่ถูกจับเป็นตัวประกันกลับคืนมาได้อย่างงดงามสุดๆเลยนะคะ!!!

เด๋วสิ!? นี่เธอจะบอกว่ามีกลุ่มคนทรยศรวมอยู่ในผู้คนที่ผมได้รวบรวมเข้ามาเป็นพวกพ้องงั้นเหรอ!?

เมื่อผมได้ยินเรื่องราวของกลุ่มคนทรยศได้จับพวกสาวๆเป็นตัวประกันและยังลอบโจมตีพวกเราในขณะเดินทางกลับเข้าไปยังฐานที่มั่น มันก็ทำให้ผมก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ผมลุกขึ้นมาจับแขนทั้งสองข้างของเอริจังพร้อมทั้งจ้องมองไปยังดวงตาสีเงินแสนงดงามของเธออย่างจริงจัง

2 ความคิดเห็น: