ช่วงเช้าของวันที่ 2 เดือน 12 ศักราชเอลติซปีที่ 838
--
มุมมองของมาเลทโต้ --
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว
แต่ด้วยพลังของบาเรียปรับสภาพอากาศที่ปกคลุมไปทั่วเมืองหลวงสเตรเชีย
มันจึงทำให้ผมสามารถมานอนกลิ้งเล่นไปมาอยู่ที่สวนดอกไม้ด้านหลังคฤหาสน์ได้อย่างสบายใจ
ภาพของดอกไม้ต่างโลกแปลกๆที่ไม่เคยได้เห็นในโลกก่อนนั้นไม่ว่ามองดูกี่วันก็ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ
ซึ่งก็แน่นอนว่าตัวผมที่พึ่งจะอายุได้แค่
2 เดือนกว่านั้นไม่ได้ออกมาเพียงลำพัง เพราะถึงแม้ว่าร่างกายของผมนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งกว่าเด็กทารกทั่วไปมาก
แต่ไม่ว่ายังไงมันก็อาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะงั้นเพื่อความปลอดภัยแล้ว
คุณแม่ของผมจึงสั่งให้พวกเมดอย่างน้อย 4
คนคอยเฝ้าดูแลและติดตามตัวผมที่มักจะแอบกลิ้งหนีไปนอกคฤหาสน์ตลอด 24 ชั่วโมง
และถึงแม้ผมจะคิดว่าคุณแม่นั้นเป็นห่วงมากเกินความจำเป็นแล้วไปก็เถอะ
แต่การได้รับความรักมากมายจากคุณแม่แบบนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกดีมาก โดยเฉพาะเวลาที่คุณหัวหน้าเมดประจำคฤหาสน์อย่างคูเซียซังเป็นคนตามมาดูผลผมด้วยตัวเองเนี่ย
มันก็เป็นอะไรที่ผมชอบมากสุดๆ นั่นก็เพราะหางฟูๆนุ่มๆของคูเซียซังซึ่งเป็นหญิงสาวเผ่ากระรอกนั้นเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกฟินมากสุดๆเลยไงล่ะ
「Original Magic: Filine Shining Fog!!!」
「อุว๊า!!!! เวทหมอกแสงนี้สุดยอดไปเลยนะ ฟิลิเน่จัง!!!」
「ฟิลิเน่จังน่าอิจฉาสุดๆเลย
พวกชั้นเองก็อยากใช้เวทมนต์ออริจินัลแบบนี้ได้บ้างจังเลยอ่ะ」
「เอะเฮะเฮะ!! ถ้าอยากจะฝึกฝนเวทมนต์ออริจินัลล่ะก็ ต้องดูอนิเมะสาวน้อยเวทมนต์『Magical Idol Moonstar』บ่อยๆเลยนะคะ!!!」
ห่างออกไปจากจุดที่ผมกำลังนอนกลิ้งเล่นภายในหางของคูเซียซังไม่ไกลนัก
เหล่าเมดโลลิหน้าใหม่หลายคนนั้นกำลังฝึกฝนการใช้เวทมนต์กันอยู่
โดยคนที่คอยสอนเวทมนต์ให้กับพวกเธอนั้นก็คือคุณเมดโลลิผมสีเทาอ่อนสุดแสนน่ารัก ฟิลิเน่จังที่พึ่งจะอายุได้เพียงแค่
11 ปีกว่าเท่านั้น
และถึงแม้ผมจะยังไม่เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับเวทมนต์เท่าไหร่นักก็เถอะ
แต่ผมก็เข้าใจได้เลยว่าฟิลิเน่จังนั้นมีความสามารถด้านเวทมนต์มากแค่ไหน
แต่ไอ้การเรียนรู้เวทมนต์จากการดูอนิเมะสาวน้อยเวทมนต์บ่อยๆแบบนั้นเนี่ย
ผมไม่คิดว่าคนธรรมดาทั่วไปจะสามารถทำมันได้หรอกนะ.....
「เอาล่ะค่ะ การตรวจสอบความเข้มข้นและกักเก็บมานาของวันนี้เสร็จแล้วนะคะ มาเลทโต้ซามะ」
วิศวกรเวทมนต์สาวผู้ที่เข้าร่วมในโครงการสร้างเรือข้ามมิติ
เลทีเชียซัง พูดพร้อมกับเริ่มจัดเก็บอุปกรณ์เวทมนต์ของเธอลงไปในกระเป๋าเหล็ก และถึงแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจเท่าไหร่นักก็เถอะ
แต่ดูเหมือนว่ามานาที่อยู่ในร่างกายของผมนั้นจะเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างเรือข้ามมิติ
เพราะงั้นเลทีเชียซังจึงได้มายังคฤหาสน์เพื่อทำการตรวจสอบและกักเก็บมานาของผมอยู่เป็นประจำ
「ทำงานได้แม่นยำและรวดเร็วสมกับที่เป็นหลานสาวของท่านมหาปราชญ์เลฮาร์ทเลยนะคะ
เลทีเชียซัง」
「อุฟุฟุ
ถ้าหากทูรี่ซังตั้งใจศึกษาด้านวิศวกรรมเวทมนต์แบบจริงจังล่ะก็
ชั้นคิดว่าสักวันหนึ่งทูรี่ซังเองก็ต้องทำได้แน่นอนค่ะ」
「กับตัวชั้นที่พึ่งจะเริ่มเรียนรู้การอ่านเขียนตัวอักษรได้แค่ไม่ถึงปีเนี่ย
คงต้องใช้เวลาอีกนานแน่ๆเลยล่ะค่ะ ฮะฮะฮะ.....」
หลังจากเก็บอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว
คุณเมดผมสีเขียวอ่อนทูรี่ซังก็ได้พาเลทีเชียซังออกไปส่ง
โดยพวกเธอสองคนนั้นดูเหมือนจะพูดคุยกันอย่างสนุกสนานระหว่างทางไปด้วยพร้อมกัน ทั้งๆผมได้ทราบว่ามาว่าประเทศของเราในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสงครามกับจักรวรรดิเอลติซแท้ๆ
แต่ชีวิตของผู้คนในเมืองหลวงสเตรเชียแห่งนี้ก็ยังสามารถดำเนินไปได้อย่างสงบสุข ซึ่งนั่นก็คงจะต้องชื่นชมว่ามันเป็นความสามารถของคุณพ่อที่ปกครองประเทศนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมล่ะนะ
「อ๊ะร่ะ มาคุงนี่ชอบเข้าไปนอนเล่นในหางของคูเซียมากเลยนะคะเนี่ย」
「ทำตัวเจ้าชู้แบบนั้นตั้งแต่พึ่งจะอายุแค่นี้เนี่ย
โตไปคงต้องทำให้เด็กสาวหลายคนหัวใจละลายแน่เลยนะคะ อุฟุฟุ」
หนึ่งในภรรยาแสนสวยของคุณพ่อที่ยากจะหาใครมาเทียบได้อัลฟินซัง
และเมดส่วนตัวของเธอเพทโทร่าซังพูดแซวผมที่กำลังมุดกลิ้งไปมาอยู่ภายในหางของคูเซียซังด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
ทั้งสองคนมักจะเข้ามาพูดคุยเล่นและดูแลผมอยู่ตลอด
ซึ่งเหตุผลที่ทั้งสองคนมีเวลามาเล่นกับผมบ่อยๆนั้นก็เป็นเพราะอัลฟินซังไม่ได้มีงานประจำเหมือนกับภรรยาคนอื่นของท่านพ่อ
แต่ว่าอัลฟินซังเนี่ยช่างเป็นเด็กสาวที่สวยจริงๆเลยนะ
ผมต้องขอยอมรับเลยว่าเธอนั้นสวยยิ่งกว่าคุณแม่แสนสวยของผมเสียอีก
ซึ่งหากให้ผมลองจัดอันดับความสวยของพวกภรรยาของคุณพ่อดูแล้วล่ะก็
ผมคิดว่าอัลฟินซังน่าจะสวยเป็นอันดับที่ 1 หรือ 2 ได้เลยล่ะ
「อ๊ะร่ะ มีข้อความแจ้งเข้ามาว่าทัตสึยะซามะและกองทัพเรือของเราได้เดินทางไปถึงทวีปเอโลเนียแล้วนะคะ
」
「อ๊ะร่ะ ถ้างั้นก็ต้องรีบเปิดทีวีดูแล้วนะคะเนี่ย อุว๊า!!! กองทัพเรือของเรายิงถล่มพวกต้องสาปเละเลยล่ะค่ะ!!!」
「อ๊ะ ดูนั่นสิมาคุง มาเรียซังคุณแม่ของมาคุงเปลี่ยนเป็นร่างเทพธิดาแห่งความเกรี้ยวกราดแล้วนะคะ」
「ฮะบู๊!!??」
หลังจากที่อัลฟินซังได้รับข้อความ
เพทโทร่าซังก็รีบเปิดอุปกรณ์เวทที่เรียกว่าทีวี แต่ถึงจะบอกว่ามันคือทีวีก็เถอะ
สำหรับตัวผมที่รู้จักทีวีจากญี่ปุ่นแล้วเนี่ย
มันเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่เกินกว่าจินตนาการไปมากเลยล่ะ
ทำไมน่ะเหรอ
? ก็เพราะภาพที่แสดงออกมาให้เห็นจากเจ้าอุปกรณ์เวทที่เรียกว่าทีวีนี่มันเป็นภาพโฮโลแกรม
3 มิติที่สามารถมองดูได้จากรอบด้าน ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบให้เห็นชัดล่ะก็
มันก็คงเหมือนกับเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่มักจะได้เห็นกันในหนังสงครามอวกาศไซไฟอะไรพวกนั้น
แต่สำหรับเรื่องเทคโนโลยีที่เข้าใจยากอะไรนั่นน่ะ
เอาไว้ก่อนเถอะ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการต่อสู้ของพวกคุณพ่อและคุณแม่
ซึ่งในตอนนี้คุณแม่ของผมนั้นได้เริ่มใช้พลังของเทพธิดาและแปลงร่างกลายเป็นเทพธิดา
6 ปีกแล้ว ส่วนเหตุผลที่ทำให้คุณแม่ของผมต้องแปลงร่างนั้น
เท่าที่ผมรู้มาก็เป็นเพราะฝ่ายจักรวรรดิซึ่งกำลังต่อสู้กับพวกเรานั้นเป็นพวกต้องคำสาป
ดังนั้นหากไม่มีการอวยพรของเทพธิดาคอยช่วยคุ้มครองเอาไว้แล้วล่ะก็
พวกทหารของเราก็จะมีโอกาสสูงที่จะโดนคำสาปไปด้วยในระหว่างการต่อสู้
ซึ่งหากโดนคำสาปไปในระยะเวลาประมาณหนึ่งแล้วล่ะก็
มันจะไม่มีทางรักษาให้หายได้เลย
นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นพวกศัตรูไปอีก
ดังนั้นจึงทำให้สงครามในครั้งนี้เป็นเรื่องยุ่งยากมาก
แต่ถึงแบบนั้นพวกคุณพ่อคุณแม่ก็ยังออกไปต่อสู้โดยไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด
จะให้พูดยังไงดีล่ะ
คงต้องบอกว่าแม้ผมจะรู้สึกเป็นห่วงมากแต่ก็รู้สึกภาคภูมิใจไปด้วยอะไรแบบนั้นน่ะ
「อุว๊า!!!! นั่นมัน『จักรพรรดิมังกรแห่งความว่างเปล่า The Void Dragon Emperor Vocales Loigen』อสูรรับใช้ที่เก่งที่สุดของยูเมะซามะนี่คะ!!! สุดยอดไปเลยค่ะ!!! ฟิลิเน่พึ่งเคยได้เห็นเป็นครั้งแรกเลยนะคะ!!!」
「จักรพรรดิมังกรนั่นตัวใหญ่มากสุดๆเลยนะคะ!!! อุว๊า เพลิงของจักรพรรดิมังกรตัวใหญ่นั่นทำเมืองหายไปทั้งเมืองแล้วค่ะ!!!」
「เค้ารู้อยู่แล้วล่ะค่ะว่าพวกทัตสึยะซามะจะต้องชนะเอาจักรวรรดิชั่วช้านั่นได้แน่ๆ
เจ้าพวกจักรวรรดิชั่วช้าที่เอาแต่เล่นขี้โกงแบบนั้นน่ะ
ไม่มีทางเป็นศัตรูของพวกท่านจอมเวทได้อยู่แล้วล่ะค่ะ!!」
ภายในฉากการสู้รบที่หนักหน่วงเป็นวงกว้าง
สิ่งที่กำลังดึงดูดสายตาของพวกเราทุกคนมากที่สุดในตอนนี้ก็คงจะไม่พ้นอสูรรับใช้ของยูเมะซังในร่างเทพธิดาที่เป็นมังกรขนาดใหญ่มาก
แต่ว่าเจ้านั่นชื่อ จักรพรรดิมังกรแห่งความว่างเปล่า
โวคาเลส ลอยเก้น งั้นเหรอเนี่ย
? สมกับที่เป็นหัวหน้าของเหล่าเมดโลลิ
ฟิลิเน่จังศึกษาเรื่องเกี่ยวกับเวทมนต์มาอย่างดีเลยนี่นา
「ว้าวสุดยอดเลย จักรพรรดิมังกรตัวใหญ่มากจริงๆด้วยนะคะเนี่ย!!」
「ทัตสึยะซาม๊า!!!! อัดเจ้าพวกจักรวรรดิให้มันเละไปเลยค่า!!!!!」
「มาเรียซามะเท่ที่สุดเลยค่า!!! ฟลอร่าซามะกับโซเฟียซามะก็ด้วย พยายามเข้านะค๊า!!!!」
และในตอนนี้ก็ไม่ใช่เพียงแค่พวกเมดโลลิเท่านั้นที่ได้มารวมตัวกันที่รอบๆบริเวณเจ้าภาพโฮโลแกรม
แต่พวกเมดสาวอีกหลายคนที่ได้ยินเสียงการต่อสู้จากโฮโลแกรมก็รีบวิ่งออกมาจากคฤหาสน์เพื่อดูกันด้วย
พวกเธอส่งเสียงเชียร์กันเสียงดังมากจนทำให้ผมรู้สึกหูอื้อและต้องมุดหนีลึกเข้าไปภายในหางฟูนุ่มของคูเซียซัง
「นี่พวกเธอ!!! ทำตัวให้มันมีมารยาทกันหน่อยสิคะ พวกเธอทำให้มาเลทโต้ซามะไม่พอใจแล้วนะคะ!!」
「「「「「「วะ!! ขะ ขอโทษค่า!!!」」」」」」
「ต้องขอโทษด้วยนะคะมาเลทโต้ซามะ เด๋วหลังจากนี้ชั้นจะอบรมสั่งสอนยัยพวกนี้อย่างหนัก
เพราะงั้นช่วยให้อภัยพวกเธอที่พึ่งมาเริ่มงานไม่นานด้วยนะคะ」
「ฮะบู่....?」
พูดตามตรงแล้วตัวผมเองก็ยังไม่ได้เข้าใจถึงมารยาทของผู้คนในโลกนี้มากเท่าไหร่นัก
แต่กับเรื่องแบบนี้ผมก็รู้สึกเข้าใจพวกเธอดีเลยล่ะ ก็ภาพโฮโลแกรมที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันน่าตื่นเต้นเร้าใจมากเลยนี่นะ
เพราะงั้นจึงไม่แปลกเลยที่มันจะทำให้พวกเธอติดไฟและส่งเสียงเชียร์ออกไป
แต่การที่คุณพ่อสามารถถ่ายไลฟ์สดสถานการณ์ในสงครามมาให้ผู้คนในประเทศดูผ่านระบบทีวีได้โดยไม่มีการเซ็นเซอร์แบบนี้เนี่ย
มันช่างเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมากจริงๆ แต่เนื่องจากวัฒนธรรมของที่นี่นั้นแตกต่างไปจากญี่ปุ่นมาก
เพราะงั้นสำหรับคนที่นี่แล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกก็ได้
「อ๊ะร่ะ ดูเหมือนว่ากองทัพของเราจะเริ่มแบ่งกำลังกันไปแล้วนะคะ
ตรงตามกำหนดการที่ทัตสึยะซามะวางแผนเอาไว้เลยล่ะค่ะ ดูสิคะมาเลทโต้ซามะ คุณแม่ของมาเลทโต้ซามะนำกองทัพที่
1 มุ่งไปยังพื้นที่เป้าหมายแล้วนะคะ」
ก็เป็นไปตามที่คูเซียซังพูด
หลังจากที่กองทัพของพวกเราสามารถทำลายกำลังส่วนใหญ่ของเจ้าพวกต้องสาป และจัดการยึดพื้นที่อาณาเขตรอบๆเมืองท่าการ์เซียสได้สำเร็จ
กองทัพของพวกเราก็ได้เริ่มแบ่งแยกออกเป็น 6 กองทัพย่อยและแยกย้ายกันไปตามพื้นที่ต่างๆรอบทวีปโอโลเนีย
「มาเลทโต้ซามะ ดูเหมือนพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของ 6 เทพธิดาเพื่อสร้างอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนะคะ」
หลังจากนั้นเป็นเวลาประมาณ
4 ชั่วโมง ในช่วงที่ผมและพวกเมดกำลังเริ่มเตรียมตัวจะทานอาหารมื้อกลางวัน
กองทัพของอาณาจักรออร์ธรอสของพวกเราก็ได้ทำการยึดครองพื้นที่และเข้าประจำตำแหน่งทั้ง
6 ล้อมรอบทวีปเลโอเนียได้สำเร็จ ซึ่งนั่นก็เป็นขั้นตอนสำคัญของสงครามในครั้งนี้ นั่นก็คือการสร้างอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ล้อมรอบทวีปเฮโลเนียเพื่อทำให้การชำระล้างพวกต้องสาปที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งทวีปไปพร้อมๆกันในคราวเดียว
แก่แดดตั้งแต่ยังไม่ถึงขวบเลยนะเจ้าหนู มาเรียเองก็อย่าเลี้ยงลูกแบบปล่อยไว้กับเมดบ่อยๆ ระวังลูกโตมากลายเป็นตาลุงสายหื่นซะล่ะ
ตอบลบเกิดมาอยู่ท่ามกลางฮาเร็มเมดสาวสวยนี่นะ คงทำใจยากแน่ๆ ฮา
ลบ