--
มุมมองของคริสติน่า --
『『『『『『Goddess Magic: Goddess Sanctuary!!! 』』』』』』
เมื่อเทพธิดาทั้ง 6
ได้กล่าวบทร่ายเวทมนต์ระดับเทพธิดาจบลง
แสงออโรร่าสีทองเรืองรองได้สาดส่องลงมาจากฟากฟ้า และสิ่งที่ชั้นกำลังเห็นนั้นก็เป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกว่า
อาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาทั้ง 6
ได้ถูกสร้างขึ้นล้อมรอบไปทั่วทั้งทวีปเอโลเนียอย่างสมบูรณ์แล้ว
「ชาวจักรวรรดิเอลติซทุกคน.....ขอโทษนะคะที่ตัวชั้นนั้นไร้ความสามารถและไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลืออะไรได้เลย」
แม้ชั้นจะได้เตรียมใจเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
แต่เมื่อได้มาเห็นภาพของผู้ต้องสาปได้ถูกทำลายล้างไปพร้อมกันกับอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว
ความรู้สึกโศกเศร้าและสุดแสนจะเจ็บปวดภายในหัวใจของชั้นมันก็ยังคงเอ่อล้นออกมาอย่างต่อเนื่องจนยากที่จะอดกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
ถึงแม้ชั้นจะรู้ดีว่ามันไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นมันก็ยังเป็นเรื่องยากที่สงบใจ
ทั้งๆที่พวกชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสงคราม
ในหมู่คนเหล่านั้นยังมีทั้งเด็กทั้งผู้หญิงหรือแม้แต่คนชรามากมายที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้
พวกเค้าเหล่านั้นควรจะได้มีอนาคตที่ยาวนาน
พวกเค้าเหล่านั้นควรจะได้รับโอกาสที่ดีกว่านี้
แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างกลับต้องมาสูญสิ้นไปหมดเพียงเพราะความโลภของจักรพรรดิผู้ปกครองจักรวรรดิเอลติซเพียงแค่คนเดียว
ชั้นหลับตาลงและพยายามอดกลั้นความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อเจ้าเลคซิอุส
ไม่ว่าจะรู้สึกโกรธแค้นแค่ไหนแต่ชั้นก็ไม่อาจจะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาทำให้เสียเรื่องได้
ความผิดของเจ้าเลคซิอุสนั้นชั้นได้ตัดสินใจแล้วว่าจะให้ทัตสึยะซามะและเหล่าเทพธิดาทั้ง
6 เป็นคนจัดการลงโทษ
นั่นก็เพราะตัวตนของเจ้าเลคซิอุสในตอนนี้มันอันตรายเกินไปสำหรับมนุษยธรรมดาที่ไม่ได้รับมอบพลังจากเหล่าเทพธิดาอย่างตัวชั้น
「คริสติน่า ความตายน่ะมันไม่ใช่จุดจบหรอกนะ ลืมตาขึ้นมาสิ
ดวงวิญญาณของผู้คนมากมายที่เธอรักกำลังถูกนำทางไปยังอาณาเขตแห่งพระเจ้าแล้วนะ」
ในขณะที่ชั้นกำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความเจ็บปวดและความแค้น
ทัตสึยะซามะได้เข้ามาโอกบกอดชั้นจากด้านหลังและคอยช่วยปลอบโยนหัวใจของชั้น
คำพูดของทัตสึยะซามะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนและนั้นทำให้หัวใจของชั้นที่หนาวเหน็บเดียวดายเริ่มจะรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
「บอลแสงสีขาวที่กำลังลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าเหล่านั้นคือดวงวิญญาณของผู้คนแห่งจักรวรรดิเอลติซงั้นหรือคะ
?」
เมื่อชั้นมองออกไปยังด้านนอกหน้าต่างกระจกของเรือเหาะ
ชั้นก็ได้เห็นภาพของบอลแสงสีขาวจำนวนมากที่กำลังล่องลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า บ้างก็ลอยตรงดิ่งขึ้นไป
บ้างก็ลอยวนไปวนมาล้อมรอบกันและกัน
บ้างก็เคลื่อนไหวไปมาราวกับกำลังเล่นไล่จับอย่างสนุกสนาน และในหมู่บอลแสงสีขาวเหล่านั้นก็มีหลายลูกที่พุ่งเข้ามาใกล้ตัวชั้นเพื่อแสดงอาการคล้ายกับการบอกลา
บอลแสงสีขาวเหล่านั้นได้แสดงให้ชั้นเห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนที่แตกต่างกันออกไป
「นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นพิธีกรรมส่งวิญญาณสินะ
ใช่แล้วล่ะ
บอลแสงสีขาวเหล่านั้นน่ะเป็นดวงวิญญาณของผู้คนแห่งจักรวรรดิเอลติซที่ได้ถูกจองจำเอาไว้ภายในร่างกายต้องสาป
หลังจากที่พวกเค้าได้ไปถึงอาณาเขตแห่งพระเจ้าพวกเค้าทั้งหมดก็จะถูกชำระล้างภายในให้บริสุทธิ์
แล้วพวกเค้าทั้งหมดก็จะถูกส่งไปเกิดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังไงล่ะ」
「นี่ไม่ใช่จุดจบแต่เป็นการเริ่มต้นใหม่....เป็นแบบนั้นสินะคะ」
「ใช่แล้วล่ะ นี่น่ะมันเป็นการเริ่มต้นใหม่ เหล่าผู้คนที่กลับมาเกิดใหม่นั้นคงจะมีมากมายหลายคนที่ได้ไปเกิดอยู่ภายในอาณาจักรออร์คริสตี้ของเธอด้วย
เพราะงั้นสิ่งที่เธอสามารถทำให้พวกเค้าได้น่ะ มันยังมีอยู่อีกมากมายเลยนะ」
「....นั่นสินะคะ สำหรับตัวชั้นที่ได้มีโอกาสมาเป็นถึงราชินีแห่งอาณาจักรออร์คริสตี้แล้ว
ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ชั้นสามารถทำเพื่อผู้คนแห่งจักรวรรดิเอลติซได้.....เข้าใจแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณมากจริงๆ ขอบคุณมากจริงๆนะคะที่ให้โอกาสกับชั้นมากถึงขนาดนี้ ทัตสึยะซามะ」
ชั้นพูดขอบคุณออกไปพร้อมกับประทับริมฝีปากของชั้นลงบนแก้มข้างหนึ่งของทัตสึยะซามะ
กับทัตสึยะซามะที่เป็นทั้งสามีสุดที่รัก
เป็นผู้มีพระคุณที่ได้ช่วยเหลือฟลอร่าน้องสาวของชั้น และยังเป็นผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือกับผู้คนของจักรวรรดิเอลติซซึ่งเป็นศัตรูกันนั้น
ชั้นไม่รู้จริงๆว่าจะชั่วชีวิตของชั้นนั้นจะสามารถตอบแทนบุญคุณของเค้าได้หมดหรือเปล่า
แต่ก่อนที่ชั้นจะสามารถไปคิดถึงเรื่องการตอบแทนทัตสึยะซามะได้นั้น สิ่งแรกที่ชั้นจะต้องทำให้สำเร็จนั้นก็คือการจบเรื่องราวของจักรวรรดิเอลติซที่กำลังอยู่ตรงหน้านี้ลงให้ได้เสียก่อน
「ทัตสึยะซามะ คริสติน่าซามะ มีฝูงบินของพวกมอนสเตอร์ต้องสาปกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ระยะยิงของพวกเราแล้วค่ะ」
พร้อมๆกันกับคำพูดของเมดคนหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจจับข้อมูลของฝ่ายศัตรู
ภาพของฝูงมอนสเตอร์ต้องสาปประเภทที่บินจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่กึ่งกลางของสะพานเดินเรือ
「ยังมีพวกมอนสเตอร์ต้องสาปที่ไม่ถูกทำลายเหลืออยู่เยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย.....สั่งให้เรือเหาะคุ้มกันด้านหน้าชะลอความเร็วและเบี่ยงเส้นทางออกไปรักษาระยะห่าง
แล้วส่งหน่วยโดรนเวทมนต์ทั้งหมดออกไปโจมตีในทันทีเลยค่ะ」
ถึงแม้ว่าพวกสิ่งมีชีวิตต้องสาปส่วนใหญ่นั้นจะถูกทำลายล้างไปเพราะอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาทั้ง
6 แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีพวกมอนสเตอร์ต้องสาปที่ยังเหลือรอดอยู่อีกเป็นจำนวนไม่น้อย
ซึ่งการจัดการกับพวกที่เหลือเหล่านั้นก็เป็นหน้าที่ชั้นของที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือเหาะของฝ่ายพันมิตรแห่งอาณาจักรออร์ธรอสในครั้งนี้
「ตัดสินใจจัดการได้รอบคอบดีเลยนี่นา การใช้พวกโดรนเวทมนต์เป็นกำลังหลักในแนวหน้าแบบนี้ช่วยลดความเสียหายให้กับกองทัพของเราได้เยอะเลย」
「ขะ ขอบคุณนะคะ.....แต่ชั้นก็แค่พยายามเลียนแบบรูปแบบการรบของทัตสึยะซามะและพวกท่านจอมเท่านั้นเองล่ะค่ะ....」
ทัตสึยะซามะพูดพร้อมกับลูบไล้เส้นผมของชั้นอย่างอ่อนโยน
ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่ชั้นได้พูดออกไป
เพราะไอ้แผนการรบรูปแบบที่ชั้นได้ออกคำสั่งไปนั้น มันเป็นแผนการรบที่ชั้นไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
เพราะว่าจักรวรรดิเอลติซและประเทศอื่นๆก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอาวุธล้ำหน้าอย่างเจ้าโดรนเวทมนต์แบบที่กองทัพของอาณาจักรออร์ธรอสใช้มาก่อนเลย
「พวกมอนสเตอร์กว่า 80% ที่ถูกโดรนเวทมนต์โจมตีได้แยกย้ายกันหนีออกไปจากเส้นทางของพวกเราแล้วล่ะค่ะ
จะให้ออกคำสั่งติดตามเพื่อกวาดล้างให้หมดไปเลยมั๊ยคะ ?」
ด้วยการยิงลำแสงบีมซึ่งเป็นอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูงมากของโดรนเวทมนต์
ฝูงมอนสเตอร์ต้องสาปส่วนใหญ่จึงได้ถูกทำลายลงไปในเวลาอันรวดเร็ว
ซึ่งก็แน่นอนว่าพวกมันที่ได้ถูกโจมตีจนสับสนนั้นเลือกที่จะแยกย้ายกันเพื่อหนี
แต่การจะไปติดตามกวาดล้างพวกนั้นที่แยกย้ายกันออกไปคนละทิศละทางนั้นก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและน่าจะเสียเวลาเป็นอย่างมากด้วย
เพราะงั้นชั้นจึงได้ออกคำสั่งให้ปล่อยพวกมันไป
และได้ส่งข้อมูลของพวกมันไปให้กับกองทัพของประเทศอื่นๆเป็นคนไปจัดการเก็บกวาดแทน
ซึ่งนั่นก็เพราะเป้าหมายหลักของพวกเรานั้นคือการมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของจักรวรรดิเอลติซเพื่อจัดการต้นเหตุของปัญหาในครั้งนี้
ซึ่งนั่นก็คือจักรพรรดิเลคซิอุส
「เอาล่ะ ถ้างั้นผมก็คงต้องไปเตรียมตัวสู้กับบอสใหญ่แล้วล่ะนะ
ทีเหลือก็ฝากจัดการด้วยล่ะ คริสตี้จัง」
「ทัตสึยะซามะก็ระวังตัวด้วยนะคะ….」
ทัตสึยะซามะเข้ามาหอมแก้มชั้นพร้อมกับบีบคลึงต้นขาและสะโพกของชั้นอย่างแรงก่อนที่จะลงลิฟต์ไปจากสะพานเดินเรือด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
เฮ้อ....ถึงแม้ว่าชั้นจะถูกจู่โจมต่อหน้าพวกลูกน้องมาแล้วหลายครั้ง
แต่ถึงแบบนั้นชั้นก็ยังไม่ชินกับการกระทำที่น่าอายแบบนี้ของทัตสึยะซามะเสียที
「คริสติน่าซามะ กองทัพเรือเหาะของเรากำลังจะเข้าถึงเขตน่านฟ้าของเมืองหลวงเอลเคียสแล้วค่ะ」
「ในที่สุดก็มากถึงแล้วสินะคะ.... ฟุเคี๊ยะ!!!!」
พร้อมๆกันกับที่ภาพของเมืองหลวงเอลเคียสได้ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ
เรือเหาะบัญชาการ『ปีกแห่งรุ่งอรุณ Wing of Dawn』ของเราก็ได้รับแรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่จนทำให้ชั้นเสียหลักและล้มลงไปกับโซฟา
และถึงแม้ชั้นจะยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่นี่คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน
「คริสติน่าซามะ!! มีการโจมตีขึ้นมาจากเมืองหลวงเอลเคียวค่ะ
จากการวิเคราะห์ของระบบคาดว่าน่าจะเป็นการโจมตีจากอสูรต้องสาป...ฟุเกี๊ยะ!!!」
「วะ อุว๊า!!!!
นะ นะ นั่นมันตัวอะไรกันล่ะนั่น!!!!」
「ทางจักรวรรดิเอลติซเองก็ดูจะยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆสินะคะ
แต่เล่นเก็บไพ่ตายแบบนี้เอาไว้ในเมืองหลวงแบบนี้เนี่ย ช่างคาดไม่ถึงจริงๆเลยค่ะ...ฟุเนี๊ยะ!!!」
พร้อมๆกันกับการรายงานความเสียหายของเกราะเวทมนต์ที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง
แรงสั่นสะเทือนที่พวกเราได้รับนั้นยังคงตามมาต่อเนื่องหลายครั้งโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากการโจมตีของเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่าอสูรต้องสาป
พวกมันนั้นเป็นอสูรสีดำที่มีรูปร่างแตกต่างกันออกไป บางตัวก็คล้ายกับสัตว์
บางตัวก็คล้ายกับมนุษย์ โดยอสูรตัวที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีขนาดร่างกายสูงใหญ่มากกว่า
20 เมตรเสียอีก
「ออกคำสั่งให้กองเรือทั้งหมดกระจายกำลังกันออกไป!!! จากนั้นก็ให้เรือเหาะจู่โจมความเร็วสูงทางปีกซ้ายและขวาเริ่มทำการโจมตีตอบโต้ด้วยกระสุนเวทศักดิ์สิทธิ์
ส่งหน่วยโดรนเวทมนต์ออกไปช่วยยิงสกัดการโจมตีของพวกอสูรเวทมนต์ในทันทีด้วย!!!.... ฟุเคี๊ยะ!!!!」
ถึงแม้จะเป็นในสถาการณ์ที่ยากลำบาก
แต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่พวกท่านจอมเวทจะถอดใจและยอมแพ้ เพราะงั้นตัวชั้นเองก็จะต้องไม่ยอมแพ้เช่นกัน
ชั้นจะต้องหาทางสร้างโอกาสให้พวกท่านจอมเวทสามารถบุกเข้าไปภายในเมืองหลวงเพื่อจัดการกับเจ้าเลคซิอุสที่เป็นสาเหตุของเรื่องราวในครั้งนี้ให้ได้
「อุว๊า!!!! ทั้งๆที่โดนกระสุนเวทศักดิ์สิทธิ์ของเรือเหาะจู่โจมเข้าไปตั้งมากมายขนาดนั้นแต่พวกอสูรต้องสาปมันก็ยังฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับมาได้
ทำยังไงดีคะ!!! คริสติน่าซามะ!!!」
เจ้าพวกอสูรต้องสาปนั้นแม้จะถูกทำลายแขนขาหรือแม้แต่ส่วนหัวไป
พวกมันก็ยังสามารถที่จะฟื้นฟูและงอกชิ้นส่วนต่างๆออกมาได้ใหม่ เมื่อต้องมาพบเจอกับตัวตนไร้เทียมทานที่ไม่ได้อยู่ในความคาดหมายแบบนี้แล้ว
จะทำยังไงดีล่ะ....จะจัดการกับพวกมันด้วยวิธีแบบไหนดี....? แต่แล้วในขณะที่ชั้นกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ภาพของทัตสึยะซามะและอากิโอะซามะก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาบนหน้าจอ
『นี่ทัตสึ ไอ้เจ้าตัวใหญ่พวกนั้นน่ะ
ให้ชั้นเป็นคนจัดการเองก็แล้วกัน พวกมันน่าจะเป็นเป้าหมายทดลองที่ดีของอาวุธใหม่เลยใช่มั๊ยล่ะ』
『นั่นสินะ ถึงอยากจะเก็บเอาไว้เป็นไพ่ตายหลังจากนี้ก็เถอะ
แต่ถ้าจะเอามาใช้เพื่อเก็บข้อมูลก็คงไม่มีปัญหาล่ะนะ เพราะงั้นก็ตามนั้นล่ะนะ คริสตี้จัง』
「เอ่อ....คิดจะใช้งานเจ้าโกเลมแปลกๆนั่นหรือคะ.....ถ้างั้นก็ต้องขอรบกวนด้วยนะคะอากิโอะซามะ」
『เจ้านั่นน่ะมันไม่ใช่โกเลมแปลกๆหรอกนะ
เอาเถอะ ถ้าได้เห็นพลังของพวกนั้นแล้วเธอก็คงจะเข้าใจเองนั่นล่ะ 』
เมื่อได้รับคำสั่งจากชั้น พวกเมดที่สะพานเดินเรือก็ได้ทำการเปิดช่องที่บริเวณดาดฟ้าของเรือเหาะบัญชาการปีกแห่งรุ่งอรุณ
ในตอนแรกชั้นไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าทำไมถึงจะต้องทำการเปิดช่องจากโรงเก็บโกเลมให้เชื่อมต่อออกไปด้านนอกผ่านทางดาดฟ้าของเรือเหาะแบบนี้ด้วย
แต่สุดท้ายเมื่อได้เห็นเจ้าโกเลมแปลกๆนั่นพุ่งตัวออกไปจากโรงเก็บโดยใช้ความยาวของบริเวณดาดฟ้าเรือเหาะแทนแท่นดีดตัวด้วยความเร็วสูงแล้ว
มันก็พอจะทำให้ชั้นเข้าใจความหมายได้เล็กน้อย
......นี่มันคงจะเป็นสิ่งที่ทัตสึยะซามะเรียกว่า
ความโรแมนติกของผู้ชายอะไรทำนองนั้นสินะคะ ?
กันดั้มก็มาด้วยล่ะเว้ยเฮ้ย!!??
ตอบลบรุ่นโปรโตไทป์เลยนะครับ ผลิตมาทดสอบเป็นตัวแรก ฮา
ลบเย้กว่าจะอ่านถึงล่าสุดเอาซะเหนื่อยเลย
ตอบลบถ้าถึงช่วงเพิ่มประชากรเสกลูกเข้าท้องสาวๆสักคนละ99คนเลยนะ555
เยอะขนาดนั้นก็ไม่ไหวมั้ง 5555+
ลบ