ตอนที่ 25 พลังของโอริฮารูก้อน


-- มุมมองของทัตสึยะ --

「「「「「โอ้วว!!!!!」」」」」

เสียงร้องตะโกนของพวกเราทุกคนดังก้องขึ้นมาพร้อมกันเมื่อได้เห็นภาพของอสูรต้องสาปขนาดใหญ่ได้ล่มลงและค่อยๆสูญสลายกลายเป็นควันหายไป โดยเหตุผลที่เจ้าอากิโอะสามารถจัดการทำลายอสูรต้องสาปซึ่งมีพลังในการฟื้นฟูร่างกายตลอดเวลาไปได้ง่ายๆนั้น มันก็เป็นเพราะอาวุธดาบคู่ที่อยู่ในมือของกันด้อมสีแดงสดที่เจ้าอากิโอะกำลังขับอยู่นั้น เป็นอาวุธที่ส่วนใบมีดถูกเคลือบเอาไว้ด้วยโลหะในตำนานอย่างโอริฮารูก้อน ซึ่งเป็นโลหะพิเศษที่มีผลในการลบล้างผลของเวทมนต์ทุกอย่างนั่นเอง

เจ้าอาคาทสึกิกันด้อมนั่นเท่มากเลยนะคะ ถ้าเป็นไปได้นู๋ก็อยากจะเห็นทัตสึยะซังขับเจ้านั่นบ้างจังเลยค่ะ

ถึงจะเท่ไม่ได้ถึงครึ่งหนึ่งของท่านฮารุกะจังสุดเท่คนนี้ แต่ชั้นก็ต้องขอยอมรับในความเท่ของเจ้ากันด้อมนั่นเลยค่ะ

นู๋เองก็อยากได้ลองขับหุ่นรบกันด้อมแบบนั้นออกไปต่อสู้เหมือนกันนะคะ สร้างมาให้นู๋สักตัวบ้างได้มั๊ยคะ ทัตสึยะโอนี่จัง!!!

ในอนาคตถ้าสามารถผลิตกันด้อมรุ่นผลิตจำนวนมากออกมาได้ล่ะก็ ถึงตอนนั้นทุกคนก็คงจะมีโอกาสได้ลองขับล่ะ

มายุจัง ฮารุกะจังและไอริจังต่างก็พูดชื่นชมเจ้าอาคาทสึกิกันด้อมสีแดงสดของเจ้าอากิโอะด้วยด้วยแววตาเปล่งประกาย แต่การจะสร้างเจ้าหุ่นรบกันด้อมขึ้นมาน่ะ มันจำเป็นจะต้องใช้ทั้งทรัพยากรและเวลาอย่างมากมาย แถมการจะขับเคลื่อนของแบบนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญเนี่ย มันก็ยังจำเป็นจะต้องใช้เวลาฝึกฝนอีกมาก

ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนั้นแล้วก็คงบอกได้ว่า เจ้าอากิโอะที่สามารถนำเจ้ากันด้อมนั่นออกมาใช้งานจริงในสนามรบโดยใช้เวลาฝึกฝนเพียงแค่ไม่กี่วันน่ะ มันเป็นพวกระดับอัจฉริยะแล้ว เพราะถึงแม้จะเป็นตัวผมเองซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับพลังมาจากเลโลเชีย ผมก็มั่นใจเลยว่าตัวผมนั้นคงจะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอย่างน้อยก็หลายเดือนอย่างแน่นอน

แต่การที่พวกจักรวรรดินั่นปลดบาร์เรียคุ้มกันเมืองหลวงออกนี่ก็เป็นอะไรที่เกินคาดหมายจริงๆนะคะ

นั่นสินะคะ ชั้นก็นึกว่าพวกเราจะต้องมาเสียเวลาหาวิธีจัดการกับบาร์เรียยุ่งยากพวกนั้นซะอีก

สำหรับเรื่องนั้นผมคิดว่าทางฝ่ายนั้นคงต้องการที่จะตัดสินใจกับพวกเราอย่างเด็จขาดไปเลยล่ะมั้ง เพราะบาร์เรียคุ้มกันที่มีขนาดใหญ่แบบนั้นเองก็คงจำเป็นจะต้องใช้มานามหาศาลในการใช้งานแน่ๆ

เพราะงั้นแทนที่จะไปเน้นการป้องกันซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งก็ต้องถูกทำลาย ก็สู้เอามานาทั้งหมดไปใช้ในการสร้างพวกอสูรต้องสาปขึ้นมาจัดการกับพวกเราให้เร็วที่สุดดีกว่า แต่พวกนั้นเองก็คงจะไม่คิดว่าพวกเราจะสามารถจัดการกับอสูรต้องสาปได้รวดเร็วขนาดนี้ล่ะนะ

เมื่อสองโลลิถูกกฎหมายเอลิซาเบธซังและโอลิเวียพูดถึงเรื่องของบาร์เรียคุ้มกันขึ้นมา ผมก็ได้แสดงความคิดเห็นของผมเองกลับไป ในการสู้รบปกตินั้น ส่วนใหญ่แล้วฝ่ายป้องกันจะเป็นเปรียบที่ได้เปรียบ แต่หากเอาแต่ป้องกันอย่างเดียวโดยไม่โจมตีสวนกลับไปล่ะก็ มันก็ยากที่จะสามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้

ยิ่งหากลองคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้แล้ว แม้ว่าทางจักรวรรดิเอลติซจะยังมีเทพธิดาผู้ทรยศแอบหนุนหลังอยู่ แต่พวกเราก็มีทั้งเทพธิดาทั้ง 6 และยังมีกำลังรบที่มากกว่าหลายเท่า เพราะงั้นหนทางเดียวที่ฝ่ายจักรวรรดิจะชนะได้นั้นก็คงมีแต่การทุ่มทกสิ่งทุกอย่างที่เหลืออยู่เพื่อไปกับเสริมกำลังให้กับพวกอสูรต้องสาปที่เป็นกำลังรบเดียวที่เหลืออยู่ในครั้งนี้

แต่เป็นแบบนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับพวกเรามากเลยนะคะ เพราะพวกยูเมะซามะที่กำลังใช้พลังของเทพธิดาเองก็จะได้ไม่ต้องมารับภาระหนักมากด้วย

ชั้นเองก็อยากจะรีบจบเรื่องวุ่นวายในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด แล้วก็จะได้รีบกลับไปหาวิธีช่วยเหลือเอริจังเหมือนกันค่ะ

ถ้างั้นพวกเราก็รีบไปจัดการกับพวกสวะที่ยังเหลืออยู่ในปราสาทนั่นและจบสงครามครั้งนี้กันดีกว่านะคะ ทัตสึยะซัง

สเตล่า คาโอริจังและไอโกะจัง ถึงแม้พวกเธอทั้ง 3 คนนั้นจะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้ง 3 คนก็มีความรู้สึกที่อยากจะจบสงครามที่ยาวนานครั้งนี้ให้เร็วที่สุดนั้นเหมือนๆกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าผมตัวเองก็รู้สึกเหมือนกันกับพวกเธอ

พวกเรานั้นจำเป็นจะต้องรีบจบสงครามครั้งนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ร่างกายพวกยูเมะจังที่กำลังใช้พลังของเทพธิดาต้องมารับภาระหนักต่อเนื่องมากจนเกินไป เพื่อที่จะได้รีบกลับไปหาวิธีช่วยเหลือเอริจังที่ยังไม่ฟื้น เพื่อปลดปล่อยวิญญาณของชาวบ้านชาวเมืองและผู้บริสุทธิ์มากมายที่ถูกจักรวรรดินำมาสังเวยไปกับพิธีกรรมคำสาปมรณะในครั้งนี้

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเราได้ต่อสู้ร่วมกันหลายต่อหลายครั้ง!!! ในทุกๆครั้งนั้นก็อาจจะมีการสูญเสียที่ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้!!!! แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นพวกเราก็จะต้องสู้!!! เหล่าพันธมิตรและผู้กล้าหาญแห่งอาณาจักรออร์ธรอส!!!!! จงไปต่อสู้และนำชัยชนะกลับมามอบให้กับพวกพ้องครอบครัวและผู้คนที่พวกเรารัก!!!!

「「「「「โอ้วว!!!!!」」」」」

หลังจากผมพูดจบลง เสียงตะโกนของทุกคนก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งดาดฟ้าของเรือเหาะ โดยทุกคนที่อยู่บนดาดฟ้าเรือเหาะในตอนนี้นั้นล้วนแล้วแต่ถืออาวุธที่มีการเคลือบโลหะในตำนานโอริฮารูก้อนอยู่ในมือ แต่เนื่องจากพวกเรามีโอริฮารูก้อนอยู่อย่างจำกัด เพราะงั้นนอกจากดาบคู่ในมือกันด้อมและอาวุธของเหล่าเทพธิดารวมถึงของตัวผมเองที่สร้างขึ้นมาโดยตรงแล้ว อาวุธที่พวกเราสามารถนำมาเคลือบโอริฮารูก้อนได้นั้นจึงมีเพียงแค่ 66 ชิ้นเท่านั้น

แต่ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนเพียงแค่เล็กน้อย ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหากับการบุกเข้าไปโจมตีปราสาทเอลติซในครั้งนี้ นั่นก็เพราะเหล่าวีรบุรุษผู้กล้าทั้ง 66 คนที่อยู่ตรงหน้าผมทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีความสามารถในการต่อสู้สูง ทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้รับฝากฝังความหวังมาจากผู้คนมากมาย เป็นผู้ที่พร้อมจะเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องอนาคตของโลกใบนี้

เอาล่ะ ถ้างั้นก็ถึงเวลาเฉิดฉายของท่านฮารุกะจังผู้แสนจะงดงามคนนี้....ฟุเคี๊ยะ!!!

ในขณะที่หลายคนกระโดดขึ้นหลังอสูรรับใช้คู่ใจและกำลังมุ่งตรงไปยังปราสาทเอลติซที่เป็นเพื่อเป้าหมาย ผมก็รีบยื่นมือออกไปดึงคอเสื้อของฮารุกะจังเอาไว้ก่อน ฮารุกะจังนั้นเป็นจอมเวทระดับท็อปที่มีความสามารถในการต่อสู้สูงเกือบที่สุดแล้วในหมู่พวกเรา ดังนั้นผมจึงต้องการให้เธอบุกไปพร้อมกับผมเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียมานาไปกับพวกลูกกระจ๊อกอย่างอสูรต้องสาปโดยไม่จำเป็น

เธอน่ะต้องไปพร้อมกับผมนะ ฮารุกะจังผู้แสนจะงดงาม

เอ๋!!! แม้แต่ในเวลาสำคัญแบบนี้ทัตสึยะซังก็ยังคิดจะมาทำเรื่องลามกอีกเหรอคะ....ฟุเคี๊ยะ!!!

เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว เป้าหมายของพวกเราน่ะคือจักรพรรดิเลคซิอุสและเทพธิดาผู้ทรยศนะ กับฝ่ายตรงข้ามที่มี 2 คนน่ะ ผมไม่คิดว่าตัวผมเพียงคนเดียวจะสามารถจัดการได้ เพราะงั้นเธอจะต้องไปกับผมด้วย

ผมไม่สนใจคำบ่นไม่พอใจของฮารุกะจังและลากเธอขึ้นไปบนหลังของคุโรโกะอสูรรับใช้แห่งความมืดของผม จากนั้นพวกเราก็ออกบินไปจากดาดฟ้าเรือเหาะและมุ่งหน้าไปยังห้องบัลลังก์ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของปราสาทเอลติซ โดยเจ้าปราสาทเอลติซที่ว่านี่น่ะ มันก็คือปราสาทสูงเสียดฟ้าที่พ่อและแม่ของไอโกะจังเป็นผู้สร้างซึ่งมีความสูงจากพื้นดินรวมแล้วมากกว่า 1 กิโลเมตรเสียอีก

และถึงแม้ผมจะไม่แน่ใจว่า จักรพรรดิเลคซิอุสและเทพธิดาผู้ทรยศจะรอคอยพวกเราอยู่ในห้องบัลลังก์ที่อยู่ชั้นบนสุดนั่นหรือเปล่า แต่หากคิดไปตามเนื้อเรื่องของพวกไลท์โนเวลต่างโลกที่ผมเคยอ่านมาก่อนแล้วล่ะก็ โอกาสที่พวกนั้นจะวางกับดักและรอคอยพวกเราอยู่ที่นั่นก็มีค่อนข้างสูงล่ะนะ

ทั้งสองคนอยู่ที่ห้องบัลลังก์กันจริงๆเหมือนกับที่ผมคิดเอาไว้ทั้งหมดเลยนะเนี่ย ผมชื่อ มาเอคาวะ ทัตสึยะ ชายเพียงคนเดียวผู้ที่พระเจ้าโลเลเชียแห่งโลกใบนี้หลงรักหมดหัวใจ

ส่วนชั้นก็คือ หนึ่งในภรรยาของทัตสึยะซังจอมเจ้าชู้ไม่รู้จักพอที่คิดจะทำเรื่องลามกแม้แต่ในสงคราม ท่านฮารุกะจังผู้แสนจะงดงามหาใครเทียบได้ยาก ยังไงก็ต้องขอฝากตัวด้วยนะ!!!

เมื่อคุโรโกะบินเข้าไปถึงยังห้องบัลลังก์ผ่านทางช่องบนเพดาน ผมและฮารุกะจังก็กระโดดลงไปและกล่าวแนะนำตัวออกไปต่อหน้าทั้งสองคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เด็กหนุ่มหน้าตาเคร่งเครียดผู้มีผมสีม่วงอ่อนนั้นก็คือจักรพรรดิเลคซิอุส ส่วนเด็กสาวผมสีทองหน้าตาน่ารักที่กำลังยิ้มแย้มอย่างนั้นก็คงจะเป็นราชีนีของเจ้าจักรพรรดิเลคซิอุสหน้าเครียดเอสเต้ซัง

ทั้งๆที่ข้าอุส่าวางกับดักสำหรับทดสอบความสามารถของพวกเจ้าเอาไว้ทั้ง 100 ชั้นในปราสาทเอลติซแห่งนี้ แต่เจ้ากลับใช้วิธีขี้โกงทำลายบาเรียเวทมนต์ที่ปกป้องปราสาทแห่งนี้และยังบินขึ้นมาบนนี้โดยไม่ผ่านการทดสอบแม้แต่อย่างเดียวเลยเนี่ย ช่างเป็นจอมเวทที่ไร้มารยาทสิ้นดีเลยนะ

อย่าพึ่งอารมณ์เสียไปแบบนั้นสิคะเลคซิอุสซามะ เพราะหลายๆครั้งเรื่องราวมันก็มักจะไม่เป็นไปตามแผนอยู่แล้ว ทัตสึยะซามะก็อย่าได้ถือสาคำพูดของสามีคนนี้ของชั้นเลยนะคะ เพราะเค้าก็เพียงแค่หงุดหงิดเล็กน้อยที่ทัตสึยะซามะไม่ยอมทำตามมารยาทของจักรวรรดิเราเท่านั้น แต่ทัตสึยะซามะก็ไม่ใช่ผู้คนของจักรวรรดิเอลติซแห่งนี้อยู่แล้วด้วยล่ะนะคะ อุฟุฟุ

เนื่องจากตัวผมนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปราสาทแห่งนี้มีบาร์เรียเวทมนต์คอยปกป้องอยู่ เพราะงั้นการที่อีกฝ่ายจะพูดออกแบบนั้นก็คงเรียกว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่จะว่าไปแล้วก็นั่นสินะ เพราะการที่พวกเราสามารถเข้ามาที่นี่ได้โดยตรงโดยไม่พบอุปสรรคอะไรเลยมันก็ค่อนข้างแปลก ซึ่งผู้ที่น่าสงสัยที่อยู่ในเรื่องนี้ก็คงจะไม่พ้นพระเจ้าของโลกใบนี้ซึ่งก็คือเลโลเชียหรือเอริจังในโลกก่อนนั่นล่ะนะ

กับเรื่องเล็กน้อยพวกนั้นผมไม่คิดจะสนใจอยู่แล้วล่ะ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังมีเรื่องร้ายแรงที่ไม่สามารถให้อภัยพวกเธอได้อยู่ พวกเธอเองก็คงจะเข้าใจว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไรงั้นสินะ

ถึงแม้มันจะมีหลายเรื่องที่พวกเราทำให้ทัตสึยะซามะไม่พอใจ แต่หลักๆแล้วก็คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหลอกใช้มากิซามะกับเพื่อนๆของเธอใช่มั๊ยล่ะคะ แต่สำหรับเรื่องนั้นแล้วต่อให้ชั้นเป็นฝ่ายขอโทษแทนไปก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร เพราะทัตสึยะซามะก็คงไม่คิดจะยกโทษให้พวกเราอยู่แล้วด้วย

ใช่แล้วล่ะ กับเรื่องที่เจ้าเลคซิอุสนั่นทำกับมากิจังและพวกรูริโกะน่ะ ผมไม่สามารถที่จะให้อภัยได้ ถ้าเจ้านั่นมันชอบมากิจังและทำให้เธอหลงรักได้ด้วยตัวเองโดยไม่ใช้คำสาปแบบนั้นผมก็พอจะยอมรับได้อยู่หรอก ก็ตามนั้นล่ะ เพราะงั้นผมจะขอจบชีวิตเจ้านั่นลงในวันนี้

ผมพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปยังจักรพรรดิเลคซิอุสที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วตัวผมในตอนนี้จะไม่ได้มีความรู้สึกโกรธแค้นอะไรเหลืออยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะความรู้สึกด้านลบของผมทั้งหมดนั้นได้ถูกชำระล้างไปหมดแล้วตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่ในอาณาเขตแห่งพระเจ้า แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น เรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ก็คือให้อภัยไม่ได้ ไม่ว่ายังไงผมก็จะต้องจบชีวิตของเจ้าจักรพรรดิเลคซิอุสนั่นลงในวันนี้

โฮ่ ถ้าคิดว่าคนอย่างแกมีความสามารถมากพอที่จะเอาชนะตัวข้าได้จริงๆล่ะก็ เข้ามาเอาหัวของข้าไปได้เลย ฮ่าสสส์!!!!!

พร้อมๆกับที่คำพูดนั้นได้จบลง เจ้าเลคซิอุสนั่นก็ได้ปลดปล่อยมานาสีดำที่ให้ความรู้สึกกดดันมหาศาลออกมารอบตัว ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งตัวผมและคุโรโกะซึ่งเป็นอสูรรับใช้ต่างก็ต้องพากันถอยห่างออกมา แล้วผมก็ได้เร่งพลังมานาในร่างกายรวมทั้งพลังงานเทพที่ได้รับมาจากเลโลเชียขึ้นเพื่อทำการตั้งรับ

แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังระมัดระวังตัวและเตรียมความพร้อมอย่างที่สุดเพื่อต่อสู้นั้นเอง มานาสีดำจำนวนมหาศาลที่ปกคลุมรอบตัวเจ้าจักรพรรดิเลคซิอุสนั่นก็ได้จางหายไป และสิ่งที่เหลืออยู่ภายในนั้นก็คือร่างกายของเจ้านั่นที่ทรุดลงไปกับพื้น หลังจากนั้นชิ้นส่วนต่างๆของร่างกายเจ้านั่นก็ค่อยๆหลุดร่วงลงไปที่พื้นที่ละชิ้นราวกับถูกของมีคมตัดขาด….

ว๊าววว!!!! ความคมของเคียวผสมโอริฮารูก้อนนี่สุดยอดไปเลยล่ะค่ะ!!! ดูสิคะทัตสึยะซัง ชั้นสามารถจัดการเจ้าจักรพรรดิบอสใหญ่นี่ได้ในเวลาแค่เพียงไม่กี่วินาทีเองนะคะ ท่านฮารุกะจังคนนี้สุดยอดไปเลยใช่มั๊ยล่ะคะ โอ๊ะ โฮะ โฮะ!!!

กับสิ่งที่ฮารุกะจังพูดออกมานั้น มันน่าตกใจจนทำให้ผมต้องหยุดความคิดหลายๆอย่างที่กำลังอยู่ในหัวของผมไปในทันที นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ ? นี่ยัยนั่นจะบอกว่าตัวเองจัดการเจ้าเลคซิอุสที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยคำสาปหนาแน่นขนาดนั้นไปแล้วอย่างงั้นเหรอ....?

ซึ่งก็แน่นอนว่าคนที่กำลังมึนและตามไม่ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ตัวผมคนเดียวเท่านั้น เพราะเมื่อผมหันไปมองที่เด็กสาวแสนน่ารักอีกคนหนึ่ง ราชินีเอสเต้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของราชินีเองก็กำลังทำตาโตอ้าปากพะงาบๆ ซึ่งมันเป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าเธอเองก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน.....

2 ความคิดเห็น:

  1. ว ไวมาก!! นี่บอสหรือคัวประกอบราคาค่าตัวสลึงเดียวเนี่ย!?

    ตอบลบ