ตอนที่ 3 เรื่องราวในโลกก่อน บทที่ 2


-- มุมมองของทัตสึยะ --

สำหรับเรื่องพวกคนทรยศเนี่ย ความจริงแล้วชั้นอยากจะค่อยๆเล่าไปมากกว่า...แต่ถึงแบบนั้นก็...อืมม...เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลไปก็แล้วกันนะคะ เพราะชั้นจัดการกับคนพวกนั้นทุกคนไปเรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่เคยทรยศหรือคิดร้ายกับทัตสึยะซามะนั้นไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลกใบนั้นแล้วนะคะ

เอริจังพูดออกมาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ความรู้สึกแรงกล้าของเธอนั้นก็ได้ส่งเข้ามาถึงยังหัวใจของผมโดยตรง ความรู้สึกร้อนแรงที่เต็มไปด้วยความรักของเธอนั้นได้ทำให้หัวใจของผมที่ยังไม่ทันได้รับรู้ว่าเธอทำอะไรเพื่อตัวผมลงไปบ้างนั้นถึงกับเจ็บปวด

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเอริจังต้องอดทนทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมายาวนานมากแค่ไหนกันนะ ? และทั้งๆที่มีเด็กสาวที่ได้พยายามทำเพื่อผมมากขนาดนี้อยู่เบื้องหลังแต่ตัวผมกลับไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิดเดียว พอคิดได้แบบนี้แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแต่กลับมาใช้อารมณ์และขึ้นเสียงกับเธอแบบนี้จริงๆ

เอริจัง ผมขอโทษนะที่ปล่อยให้เธอต้องจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมาตลอด

อุฟุฟุ ไม่คิดว่าสิ่งที่ชั้นพูดจะเป็นเพียงคำโกหกเพื่อหลอกให้ทัตสึยะสบายใจหรือคะ ถ้าเชื่อคำพูดของคนที่พึ่งจะได้เจอกันง่ายๆแบบนี้ล่ะก็.....

กับคำพูดขอโทษของผมนั้น เอริจังได้ตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเหงาๆ แต่ไอ้การพยายามเสแสร้งเพื่อกลบเกลื่อนของเธอแบบนี้น่ะ มันไม่มีทางที่จะสามารถหลอกตัวผมในตอนนี้ได้อีกแล้ว

ไม่ว่าสิ่งที่เธอพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก ไม่ว่าสิ่งที่เธอทำลงไปจะถูกหรือผิด ผมก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าผมจะอยู่ข้างเดียวกันกับเธอ
  
นี่คือคำพูดที่ออกมาจากใจ มันเป็นความรู้สึกที่แท้จริงของผม หลังจากนี้ผมไม่คิดจะปล่อยให้เอริจังจะอดทนทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวอีกต่อไป ผมค่อยๆปล่อยมือจากแขนของเธอและดึงตัวเอริจังเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ผมโอบกอดเธอเอาไว้แน่นและลูบไล้ไปตามเรือนผมสีเงินแสนงดงามของเธอช้าๆอย่างอ่อนโยน

ถ้าหากพูดถึงขนาดนี้แล้วแต่สุดท้ายกลับมาทิ้งชั้นไปเหมือนคราวก่อนอีกล่ะก็ ครั้งนี้ชั้นจะไม่ยอมยกโทษให้ทัตสึยะซามะแล้วนะคะ

ถึงผมจะไม่รู้ว่าตัวผมในโลกของเธอทำอะไรลงไปบ้าง แต่ว่าผมขอสัญญาว่าตัวผมคนนี้จะไม่ทิ้งเธอไปอย่างแน่นอน

หลังพูดจบพวกเราสองคนก็แลกเปลี่ยนริมฝีปากให้กันและกันเพื่อใช้แทนตราประทับของสัญญา และหลังจากนั้นที่อารมณ์ของพวกเราสงบลงสักพักหนึ่งเอริจังก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป

พวกคนทรยศทั้งหมดที่หันอาวุธเข้าใส่พวกเราส่วนใหญ่นั้นได้ถูกผมกับอากิโอะสังหารไปในการต่อสู้ ส่วนพวกที่เหลือรอดมานั้น เอริจังได้นำตัวพวกมันไปทำการสอบสวนร่วมกันกับทุกคนที่อยู่ในฐานที่มั่นของพวกเราทุกคนอย่างละเอียด พวกคนที่ไม่ได้เข้าร่วมการมาต่อสู้แต่ได้ลงมือทำร้ายและขืนใจพวกสาวๆนั้นได้รับการลงโทษด้วยการสังหารทิ้งหมด

ส่วนพวกที่ได้รับรู้แผนการของพวกนั้นแต่กลับทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น กับพวกที่แอบให้ความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ในภายหลังนั้นก็ถูกขับไล่ออกไปจากฐานที่มั่นอย่างไร้การปราณี โดยหนึ่งในกลุ่มคนพวกนี้นั้นก็มี อุเอดะ เมล ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของยูเมะจังรวมอยู่ด้วย

และถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทแต่ยูเมะจังก็ไม่คิดจะเข้าข้างเพื่อนของเธอ ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นแบบนั้นก็คงจะเป็นเพราะเหตุผลที่เมลจังได้ให้ความร่วมมือและทำการทรยศพวกเรานั้นคือเป้าหมายของเธอนั้นคือตัวผม และถึงจะไม่แน่ใจว่าเธอคิดอะไรแต่ก็ดูเหมือนว่าเมลจังนั้นอยากจะได้ผมเอาเป็นของทาสรับใช้ของเธอเพียงคนเดียว

แต่พอได้มารับรู้เกี่ยวกับเรื่องการทรยศของเมลจังแบบนี้แล้ว นั่นก็หมายความว่าการที่เมลจังในโลกของผมได้เสียชีวิตและกลายเป็นซอมบี้ไปนั้นก็เป็นเพราะเธอได้ถูกเอริจังจัดการไปแบบนั้นสินะ....ไม่สิ ไอ้เรื่องนั้นน่ะจะเป็นยังไงก็ช่าง ผมน่ะเชื่อมั่นในตัวเอริจัง เพราะงั้นผมจะขอไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก

หลังจากที่จัดการลงโทษพวกคนทรยศไปเรียบร้อยแล้ว ทัตสึยะซามะที่เหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจก็ได้หนีไปพักผ่อนเพียงคนเดียว และก็เป็นในตอนนั้นเองที่ชั้นได้ฉวยโอกาสแอบเข้าไปปลอบโยนหัวใจทัตสึยะซามะ ทั้งที่มีเด็กสาวหลายคนได้แอบชอบทัตสึยะซามะอยู่ก่อนแล้ว แต่พวกเธอกลับไม่มีใครใจกล้าพอเลยสักคน สุดท้ายแล้วทัตสึยะซามะก็เลยเสร็จชั้นน่ะค่ะ อุฟุฟุ

เธอเป็นคนเข้ามาปลอบโยนหัวใจของผมงั้นเหรอ ผมชักอยากจะรู้เรื่องนี้อย่างละเอียดแล้วสิ

อ๊ะร่ะ ถ้าพูดถึงทัตสึยะซามะในตอนนั้นแล้วล่ะก็ ดูเหมือนว่าจะอดทนกับสถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่องมาหลายวันโดยไม่มีที่ระบาย เพราะงั้นพอถูกชั้นเข้าไปยั่วยวนเข้านิดหน่อย ทัตสึยะซามะก็เข้ามาจู่โจมใส่ร่างกายเปลือยเปล่าที่บอบบางของชั้นอย่างรุนแรงราวกับสัตว์ป่ากระหายเลือด พูดเพียงแค่นี้ก็คงนึกภาพออกแล้วใช่มั๊ยล่ะคะ อุฟุฟุ

ถึงแม้เอริจังจะไม่ยอมเล่าให้ฟังอย่างละเอียด แต่ผมก็พอจะนึกภาพของตัวผมที่มีความเครียดสะสมจากเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี โดยสิ่งสำคัญที่แสดงความแตกต่างจากโลกของผมอย่างชัดเจนนั้นก็คือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับยูเมะจัง

โดยจากที่ฟังเอริจังเล่ามานั้น ถึงแม้ว่ายูเมะจังจะชอบผมมากแต่เป็นเพราะเธอนั้นได้ถูกพวกก๊อบลินข่มขืนอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่จะพวกผมจะได้ไปพบและเข้าไปช่วยเหลือเธอเอาไว้ในบริเวณหน้าห้องน้ำชั้นที่ 9 ด้วยบาดใจในใจที่เกิดจากการข่มขืนจึงทำให้ยูเมะจังนั้นไม่กล้าที่รุกเข้าใส่ผมมากนัก

อีกเหตุผลหนึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะในกลุ่มของพวกเราในตอนนั้นไม่มียัยฮารุกะมาคอยช่วยยุยง และก็เป็นเพราะเหตุนั้นจึงทำให้ตัวผมได้ไปละเลงความใคร่พร้อมทั้งระบายทุกสิ่งทุกอย่างที่อดกลั้นเอาไว้ในใจทั้งหมดกับเรือนร่างอันแสนจะงดงามของเอริจัง

หลังจากนั้นพวกเราก็ตัดสินใจที่จะพักเรื่องการออกไปต่อสู้เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตคนอื่นๆเอาไว้ก่อน และหันมาหาเริ่มทำการสานความสัมพันธ์ให้กับพวกพ้องที่อยู่ภายในฐานที่มั่นแทนน่ะค่ะ

เพราะเหตุการณ์ทรยศที่เกิดขึ้นมานั้นมีสาเหตุหลักมาจากความเครียดที่สะสมอยู่ในภายร่างกายและจิตใจของทุกคน เพราะงั้นเอริจังจึงได้เสนอให้ผมและเจ้าอากิโอะทำการหยุดพักเรื่องการต่อสู้และหันมาจัดการเรื่องภายในเสียก่อน

พวกเราเรียกทุกคนมาพูดคุยปรึกษาและสอบถามความคิดเห็นของแต่ละคน โดยหลักๆแล้วพวกสาวๆเกือบทุกคนนั้นได้มีสภาพจิตใจที่อ่อนแอมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเธอนั้นต้องการคนที่จะเป็นที่พึ่งทางจิตใจ พวกเธอนั้นต้องการให้ผมและเจ้าอากิโอะมอบความรักและความอบอุ่นให้กับร่างกายและจิตใจของพวกเธอ

ดังนั้นทางออกที่เอริจังได้คิดขึ้นมาจึงกลายเป็นการให้ผมและเจ้าอากิโอะแบ่งกลุ่มกันออกไปและสร้างฮาเร็มของตัวเองขึ้นมา และถึงแม้ในตอนแรกผมจะรู้สึกว่ามันเป็นความคิดที่แปลกมากสำหรับเอริจังที่พึ่งจะเริ่มคบเป็นแฟนกับผม แต่สุดท้ายหลังจากลองทำเรื่องลามกอย่างเร่าร้อนกับพวกเด็กสาวคนอื่นหลายคนดู ผมก็ได้พบว่าความคิดของเอริจังสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของพวกเธอได้จริง

สภาพจิตใจของเด็กสาวที่กลายมาเป็นคนรักในฮาเร็มของผมแต่ละคนนั้นได้ร่าเริงขึ้นเป็นอย่างมาก และก็ไม่ใช่เพียงแค่สภาพจิตใจเท่านั้น แต่ในเวลาที่พวกเราออกไปต่อสู้พวกเธอก็ทำผลงานได้ดีมากขึ้นด้วย การประสานงานกันและแบ่งหน้าที่ช่วยเหลือกันภายในฐานที่มั่นเองก็ทำได้ดีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

ทัตสึยะซามะในตอนนั้นสุดยอดไปเลยล่ะค่ะ ขนาดพวกเราร่วมรักอย่างเร่าร้อนกันต่อเนื่องหลายชั่วโมงแบบ 10P แต่ทัตสึยะซามะก็ยังทำให้พวกสาวๆทุกคนพอใจถึงจุดสุดยอดกันทุกคนไม่มีพลาดเลยล่ะค่ะ อุฟุฟุ

พอได้มาฟังเรื่องลามกที่ตัวเองเคยทำในอีกโลกหนึ่งแบบนี้แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกเขินนิดหน่อย ทุกเวลาที่มีเด็กสาวบางคนเริ่มรู้สึกอิจฉาหรือไม่สบายใจพวกเราก็จะชวนพวกเธอมารวมกลุ่มทำเรื่องลามกพร้อมกันเพื่อระบายความเครียด การที่พวกเธอได้มาแสดงช่วงเวลาน่าอายสุดๆให้เห็นกันนั้นก็กลายเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างพวกเด็กสาวทุกคนได้เป็นอย่างดีมากด้วย

แต่การตัดสินใจทำแบบนั้นของพวกเรามันก็ไม่ได้มีแค่ผลดีหรอกนะคะ เพราะมันทำให้เสียเวลาไปมากด้วย เพราะงั้นกว่าที่พวกเราจะสามารถจัดการราชาก็อบลินและเข้าไปช่วยเหลือพวกเด็กสาวที่ถูกจับตัวไป รวมถึงยึดพื้นที่ห้างเซย์ริเอนกลับมาได้ทั้งหมดนั้นก็เป็นเวลาหลังจากนั้นไปอีกเกือบ 2 สัปดาห์เลยล่ะค่ะ

ถึงจะรู้สึกไม่ดีกับพวกเด็กสาวในรังก็อบลินที่ต้องรอการช่วยเหลืออยู่นานก็เถอะ แต่ผมคิดว่าการที่พวกเธอสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดให้จบลงไปได้โดยที่ไม่เกิดเรื่องขึ้นเลวร้ายขึ้นมาซ้ำอีกมันก็ดีมากแล้วล่ะนะ

เพราะทัตสึยะซามะได้ให้ความสำคัญกับพวกพ้องในตอนนั้นมากกว่าผู้คนที่ยังไม่รู้จัก มันจึงถือว่าเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ต้องปล่อยให้พวกเด็กสาวคนอื่นรอคอยการช่วยเหลืออยู่นาน แต่ว่ามันไม่ได้จบเพียงแค่เด็กสาวพวกนั้นน่ะสิคะ เพราะการที่พวกเราเสียเวลาไปมากนั้น มันได้ส่งผลกระทบไปยังบุคคลภายนอกด้วย...ชั้นหมายถึงพวกผู้คนของโลกลอสตาเซียน่ะค่ะ

ผลกระทบกับผู้คนของโลกลอสตาเซียงั้นเหรอ ? หรือว่าจะเป็นพวกกองทัพมิโนทอร์....

ถ้าหากนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์สำคัญในช่วงนั้นแล้วล่ะก็ สิ่งแรกที่ผมนึกขึ้นมาได้นั้นก็คือเรื่องที่พวกสายลับได้เรียกให้กองทัพมิโนทอร์เข้ามาโจมตีเมืองเวลล่า ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนั้นน่ะ พูดได้ว่าหากพวกเราไม่ได้เข้าไปช่วยเอาไว้แล้วล่ะก็ ลำพังแค่กองอัศวินของตระกูลโรเซ็นเบิร์กกับพวกนักผจญภัยในเขตพื้นที่แถบนั้นคงจะเอาชนะไม่ได้ง่ายๆแน่

ไม่ใช่พวกมิโนทอร์หรอกค่ะ ไม่สิ...คงต้องบอกว่าเหตุการณ์มิโนทอร์บุกเข้าโจมตีเมืองเวลล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นในโลกของชั้นน่ะค่ะ

เหตุการณ์มิโนทอร์บุกเข้าโจมตีเมืองเวลล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นงั้นเหรอ ? ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายความว่า.....คนที่ทำให้พวกมิโนทอร์บุกเข้าโจมตีเมืองเวลล่าในโลกของผมนั้นเป็นเอริจัง ? ทำไมเธอถึง....ไม่สิ....ไอ้เรื่องนั้นน่ะ เอริจังคงจะต้องลงมือทำไปเพื่อความปลอดภัยของตัวผมและพวกเพื่อนๆแน่

ถ้าไม่ใช่พวกมิโนทอร์ล่ะก็....หรือว่าจะเป็นพวกคนที่ถูกขับไล่ออกไป.....

ใช่แล้วล่ะค่ะ เจ้าคนทรยศที่ถูกขับไล่ออกไปนั้นแม้จะไม่สามารถเทียบกับพวกเราได้ แต่คนพวกนั้นก็มีทั้งสกิลและพลังเวทที่สูงกว่าผู้คนทั่วไปในโลกนี้มาก คนทรยศพวกนั้นได้แยกย้ายกันออกไปหลายกลุ่ม บางกลุ่มก็ได้ไปเข้าร่วมกับพวกโจรและบุกเข้าโจมตีหมู่บ้านและข่มขืนพวกเด็กสาว บางกลุ่มก็ไปอยู่กับพวกขุนนางชั่วและคอยขูดรีดรังแกผู้คน

ไอ้เจ้าพวกนั้น!! ทั้งๆที่ถูกปล่อยตัวไปเพราะความผิดของพวกมันยังพอให้อภัยได้ แต่พวกมันก็ยังจะออกไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนในโลกนี้อีก นี่ถ้าหากเอริจังไม่กำจัดพวกมันออกไปจากโลกของพวกเราล่ะก็ ผมนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆว่าพวกมันจะไปก่อเรื่องสร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับใครบ้าง

แต่ที่แย่ที่สุดก็คือกลุ่มที่ได้ไปเข้าร่วมกับกองทัพของพวกกบฏ เพราะนั่นทำให้กองทัพกบฏแข็งแกร่งขึ้นมาก ซึ่งนั่นก็ส่งผลทำให้กองทัพของตระกูลโรเซ็นเบิร์กได้พ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็ว โรเดริกซามะซึ่งเป็นผู้บัญชาการได้ถูกพวกมันนำตัวออกมาประหารต่อหน้าพวกชาวเมืองเวลล่า

โรน่าซัง คลอเดียซัง เซลฟีน่าซามะ อเดลซามะ อาเรียซามะ รวมถึงพวกเด็กสาวหน้าตาน่ารักในกองทัพของตระกูลโรเซ็นเบิร์กทุกคนล้วนถูกข่มขืนและถูกบังคับให้เป็นทาสความใคร่ แม้แต่โซเฟียซามะซึ่งเป็นเพียงแค่ชาวเมืองธรรมดาและไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ พวกมันก็ยังข่มขู่และบังคับให้เธอไปรับใช้พวกมันเช่นเดียวกัน

โรน่าจัง คลอเดียซัง เซลฟีน่าซัง อเดลจัง อาเรียจัง แม้แต่โซเฟียจังเองก็ด้วย...

ในตอนที่พวกเราจัดการเรื่องความปลอดภัยภายในห้างเซย์ริเอนเสร็จเรียบร้อยและเดินทางไปถึงยังเมืองเวลล่านั้น สภาพของผู้คนภายในเมืองเวลล่านั้นย่ำแย่เป็นอย่างมาก บางส่วนก็เริ่มอดอยากล้มตาย บางส่วนก็บาดเจ็บจากการถูกทำร้าย พวกทหารที่เข้าปกครองเมืองเวลล่านั้นไม่คิดแม้แต่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชีวิตพวกเด็กๆด้วยซ้ำ

พวกทหารที่รวมกลุ่มเข้ากับพวกคนทรยศต่างก็พากันออกมารังแกพวกชาวเมืองเวลล่าด้วยความสนุกสนานไปวันๆและไม่คิดจะดูแลบริหารเมือง แล้วก็เป็นเพราะเหตุนั้นเองที่ทำให้พวกเราตัดสินใจบุกเข้าโจมตีพวกมันและจัดการยึดเมืองเวลล่ามาเป็นของพวกเราเองน่ะค่ะ

มันก็คงจะเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว เพราะหากเป็นตัวผมเองที่ได้ไปพบเจอกับเรื่องโหดร้ายแบบนั้นล่ะก็ ไม่ว่าจะยังไงผมก็คงจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแน่ๆ และถึงแม้มันจะไม่ใช่ความผิดของพวกเราโดยตรง แต่เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวมันเลวร้ายถึงขนาดนั้นก็เป็นเพราะพวกเราได้ปล่อยให้ไอ้พวกคนทรยศพวกนั้นออกไปทำอะไรตามใจตัวเองด้วยล่ะนะ

4 ความคิดเห็น:

  1. ตกลงว่านี่คือเอริจัง(เลโลเซีย)ในอีกโลกนึงงั้นเหรอเนี่ย แล้วที่บอกว่าบักทัตเคยทิ้งเอริจังไปแปลว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่นอน และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบักทัตถึงหลงเอริจังนัก สายอ่อยนี่เอง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่แล้วครับ เรื่องราวมันยังไม่จบเพียงเท่านี้ หึหึ

      ลบ
  2. สรุปคือเป็นโลกคู่ขนานอย่างนั้นหรอคับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รออ่านไปก่อนนะครับ อีกประมาณ 3-4 ตอนก็น่าจะรู้เรื่องแล้วว่าเป็นยังไง

      ลบ