--
มุมมองของทัตสึยะ --
「สำหรับเรื่องพวกคนทรยศเนี่ย
ความจริงแล้วชั้นอยากจะค่อยๆเล่าไปมากกว่า...แต่ถึงแบบนั้นก็...อืมม...เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลไปก็แล้วกันนะคะ
เพราะชั้นจัดการกับคนพวกนั้นทุกคนไปเรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่เคยทรยศหรือคิดร้ายกับทัตสึยะซามะนั้นไม่ได้มีชีวิตอยู่ในโลกใบนั้นแล้วนะคะ」
เอริจังพูดออกมาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
ความรู้สึกแรงกล้าของเธอนั้นก็ได้ส่งเข้ามาถึงยังหัวใจของผมโดยตรง
ความรู้สึกร้อนแรงที่เต็มไปด้วยความรักของเธอนั้นได้ทำให้หัวใจของผมที่ยังไม่ทันได้รับรู้ว่าเธอทำอะไรเพื่อตัวผมลงไปบ้างนั้นถึงกับเจ็บปวด
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเอริจังต้องอดทนทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมายาวนานมากแค่ไหนกันนะ
? และทั้งๆที่มีเด็กสาวที่ได้พยายามทำเพื่อผมมากขนาดนี้อยู่เบื้องหลังแต่ตัวผมกลับไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิดเดียว
พอคิดได้แบบนี้แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแต่กลับมาใช้อารมณ์และขึ้นเสียงกับเธอแบบนี้จริงๆ
「เอริจัง
ผมขอโทษนะที่ปล่อยให้เธอต้องจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมาตลอด」
「อุฟุฟุ
ไม่คิดว่าสิ่งที่ชั้นพูดจะเป็นเพียงคำโกหกเพื่อหลอกให้ทัตสึยะสบายใจหรือคะ
ถ้าเชื่อคำพูดของคนที่พึ่งจะได้เจอกันง่ายๆแบบนี้ล่ะก็.....」
กับคำพูดขอโทษของผมนั้น
เอริจังได้ตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเหงาๆ
แต่ไอ้การพยายามเสแสร้งเพื่อกลบเกลื่อนของเธอแบบนี้น่ะ มันไม่มีทางที่จะสามารถหลอกตัวผมในตอนนี้ได้อีกแล้ว
「ไม่ว่าสิ่งที่เธอพูดจะเป็นเรื่องจริงหรือโกหก
ไม่ว่าสิ่งที่เธอทำลงไปจะถูกหรือผิด
ผมก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าผมจะอยู่ข้างเดียวกันกับเธอ」
นี่คือคำพูดที่ออกมาจากใจ
มันเป็นความรู้สึกที่แท้จริงของผม หลังจากนี้ผมไม่คิดจะปล่อยให้เอริจังจะอดทนทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวอีกต่อไป
ผมค่อยๆปล่อยมือจากแขนของเธอและดึงตัวเอริจังเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
ผมโอบกอดเธอเอาไว้แน่นและลูบไล้ไปตามเรือนผมสีเงินแสนงดงามของเธอช้าๆอย่างอ่อนโยน
「ถ้าหากพูดถึงขนาดนี้แล้วแต่สุดท้ายกลับมาทิ้งชั้นไปเหมือนคราวก่อนอีกล่ะก็
ครั้งนี้ชั้นจะไม่ยอมยกโทษให้ทัตสึยะซามะแล้วนะคะ」
「ถึงผมจะไม่รู้ว่าตัวผมในโลกของเธอทำอะไรลงไปบ้าง
แต่ว่าผมขอสัญญาว่าตัวผมคนนี้จะไม่ทิ้งเธอไปอย่างแน่นอน」
หลังพูดจบพวกเราสองคนก็แลกเปลี่ยนริมฝีปากให้กันและกันเพื่อใช้แทนตราประทับของสัญญา
และหลังจากนั้นที่อารมณ์ของพวกเราสงบลงสักพักหนึ่งเอริจังก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
พวกคนทรยศทั้งหมดที่หันอาวุธเข้าใส่พวกเราส่วนใหญ่นั้นได้ถูกผมกับอากิโอะสังหารไปในการต่อสู้
ส่วนพวกที่เหลือรอดมานั้น เอริจังได้นำตัวพวกมันไปทำการสอบสวนร่วมกันกับทุกคนที่อยู่ในฐานที่มั่นของพวกเราทุกคนอย่างละเอียด
พวกคนที่ไม่ได้เข้าร่วมการมาต่อสู้แต่ได้ลงมือทำร้ายและขืนใจพวกสาวๆนั้นได้รับการลงโทษด้วยการสังหารทิ้งหมด
ส่วนพวกที่ได้รับรู้แผนการของพวกนั้นแต่กลับทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
กับพวกที่แอบให้ความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ในภายหลังนั้นก็ถูกขับไล่ออกไปจากฐานที่มั่นอย่างไร้การปราณี
โดยหนึ่งในกลุ่มคนพวกนี้นั้นก็มี อุเอดะ เมล
ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของยูเมะจังรวมอยู่ด้วย
และถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทแต่ยูเมะจังก็ไม่คิดจะเข้าข้างเพื่อนของเธอ
ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นแบบนั้นก็คงจะเป็นเพราะเหตุผลที่เมลจังได้ให้ความร่วมมือและทำการทรยศพวกเรานั้นคือเป้าหมายของเธอนั้นคือตัวผม
และถึงจะไม่แน่ใจว่าเธอคิดอะไรแต่ก็ดูเหมือนว่าเมลจังนั้นอยากจะได้ผมเอาเป็นของทาสรับใช้ของเธอเพียงคนเดียว
แต่พอได้มารับรู้เกี่ยวกับเรื่องการทรยศของเมลจังแบบนี้แล้ว
นั่นก็หมายความว่าการที่เมลจังในโลกของผมได้เสียชีวิตและกลายเป็นซอมบี้ไปนั้นก็เป็นเพราะเธอได้ถูกเอริจังจัดการไปแบบนั้นสินะ....ไม่สิ
ไอ้เรื่องนั้นน่ะจะเป็นยังไงก็ช่าง ผมน่ะเชื่อมั่นในตัวเอริจัง
เพราะงั้นผมจะขอไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
「หลังจากที่จัดการลงโทษพวกคนทรยศไปเรียบร้อยแล้ว
ทัตสึยะซามะที่เหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจก็ได้หนีไปพักผ่อนเพียงคนเดียว
และก็เป็นในตอนนั้นเองที่ชั้นได้ฉวยโอกาสแอบเข้าไปปลอบโยนหัวใจทัตสึยะซามะ
ทั้งที่มีเด็กสาวหลายคนได้แอบชอบทัตสึยะซามะอยู่ก่อนแล้ว
แต่พวกเธอกลับไม่มีใครใจกล้าพอเลยสักคน
สุดท้ายแล้วทัตสึยะซามะก็เลยเสร็จชั้นน่ะค่ะ อุฟุฟุ」
「เธอเป็นคนเข้ามาปลอบโยนหัวใจของผมงั้นเหรอ
ผมชักอยากจะรู้เรื่องนี้อย่างละเอียดแล้วสิ」
「อ๊ะร่ะ
ถ้าพูดถึงทัตสึยะซามะในตอนนั้นแล้วล่ะก็
ดูเหมือนว่าจะอดทนกับสถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่องมาหลายวันโดยไม่มีที่ระบาย
เพราะงั้นพอถูกชั้นเข้าไปยั่วยวนเข้านิดหน่อย
ทัตสึยะซามะก็เข้ามาจู่โจมใส่ร่างกายเปลือยเปล่าที่บอบบางของชั้นอย่างรุนแรงราวกับสัตว์ป่ากระหายเลือด
พูดเพียงแค่นี้ก็คงนึกภาพออกแล้วใช่มั๊ยล่ะคะ อุฟุฟุ」
ถึงแม้เอริจังจะไม่ยอมเล่าให้ฟังอย่างละเอียด
แต่ผมก็พอจะนึกภาพของตัวผมที่มีความเครียดสะสมจากเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี
โดยสิ่งสำคัญที่แสดงความแตกต่างจากโลกของผมอย่างชัดเจนนั้นก็คือความสัมพันธ์ระหว่างผมกับยูเมะจัง
โดยจากที่ฟังเอริจังเล่ามานั้น
ถึงแม้ว่ายูเมะจังจะชอบผมมากแต่เป็นเพราะเธอนั้นได้ถูกพวกก๊อบลินข่มขืนอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่จะพวกผมจะได้ไปพบและเข้าไปช่วยเหลือเธอเอาไว้ในบริเวณหน้าห้องน้ำชั้นที่
9 ด้วยบาดใจในใจที่เกิดจากการข่มขืนจึงทำให้ยูเมะจังนั้นไม่กล้าที่รุกเข้าใส่ผมมากนัก
อีกเหตุผลหนึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะในกลุ่มของพวกเราในตอนนั้นไม่มียัยฮารุกะมาคอยช่วยยุยง
และก็เป็นเพราะเหตุนั้นจึงทำให้ตัวผมได้ไปละเลงความใคร่พร้อมทั้งระบายทุกสิ่งทุกอย่างที่อดกลั้นเอาไว้ในใจทั้งหมดกับเรือนร่างอันแสนจะงดงามของเอริจัง
「หลังจากนั้นพวกเราก็ตัดสินใจที่จะพักเรื่องการออกไปต่อสู้เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตคนอื่นๆเอาไว้ก่อน
และหันมาหาเริ่มทำการสานความสัมพันธ์ให้กับพวกพ้องที่อยู่ภายในฐานที่มั่นแทนน่ะค่ะ」
เพราะเหตุการณ์ทรยศที่เกิดขึ้นมานั้นมีสาเหตุหลักมาจากความเครียดที่สะสมอยู่ในภายร่างกายและจิตใจของทุกคน
เพราะงั้นเอริจังจึงได้เสนอให้ผมและเจ้าอากิโอะทำการหยุดพักเรื่องการต่อสู้และหันมาจัดการเรื่องภายในเสียก่อน
พวกเราเรียกทุกคนมาพูดคุยปรึกษาและสอบถามความคิดเห็นของแต่ละคน
โดยหลักๆแล้วพวกสาวๆเกือบทุกคนนั้นได้มีสภาพจิตใจที่อ่อนแอมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พวกเธอนั้นต้องการคนที่จะเป็นที่พึ่งทางจิตใจ
พวกเธอนั้นต้องการให้ผมและเจ้าอากิโอะมอบความรักและความอบอุ่นให้กับร่างกายและจิตใจของพวกเธอ
ดังนั้นทางออกที่เอริจังได้คิดขึ้นมาจึงกลายเป็นการให้ผมและเจ้าอากิโอะแบ่งกลุ่มกันออกไปและสร้างฮาเร็มของตัวเองขึ้นมา
และถึงแม้ในตอนแรกผมจะรู้สึกว่ามันเป็นความคิดที่แปลกมากสำหรับเอริจังที่พึ่งจะเริ่มคบเป็นแฟนกับผม
แต่สุดท้ายหลังจากลองทำเรื่องลามกอย่างเร่าร้อนกับพวกเด็กสาวคนอื่นหลายคนดู
ผมก็ได้พบว่าความคิดของเอริจังสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของพวกเธอได้จริง
สภาพจิตใจของเด็กสาวที่กลายมาเป็นคนรักในฮาเร็มของผมแต่ละคนนั้นได้ร่าเริงขึ้นเป็นอย่างมาก
และก็ไม่ใช่เพียงแค่สภาพจิตใจเท่านั้น
แต่ในเวลาที่พวกเราออกไปต่อสู้พวกเธอก็ทำผลงานได้ดีมากขึ้นด้วย
การประสานงานกันและแบ่งหน้าที่ช่วยเหลือกันภายในฐานที่มั่นเองก็ทำได้ดีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย
「ทัตสึยะซามะในตอนนั้นสุดยอดไปเลยล่ะค่ะ
ขนาดพวกเราร่วมรักอย่างเร่าร้อนกันต่อเนื่องหลายชั่วโมงแบบ 10P แต่ทัตสึยะซามะก็ยังทำให้พวกสาวๆทุกคนพอใจถึงจุดสุดยอดกันทุกคนไม่มีพลาดเลยล่ะค่ะ
อุฟุฟุ」
พอได้มาฟังเรื่องลามกที่ตัวเองเคยทำในอีกโลกหนึ่งแบบนี้แล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกเขินนิดหน่อย
ทุกเวลาที่มีเด็กสาวบางคนเริ่มรู้สึกอิจฉาหรือไม่สบายใจพวกเราก็จะชวนพวกเธอมารวมกลุ่มทำเรื่องลามกพร้อมกันเพื่อระบายความเครียด
การที่พวกเธอได้มาแสดงช่วงเวลาน่าอายสุดๆให้เห็นกันนั้นก็กลายเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างพวกเด็กสาวทุกคนได้เป็นอย่างดีมากด้วย
「แต่การตัดสินใจทำแบบนั้นของพวกเรามันก็ไม่ได้มีแค่ผลดีหรอกนะคะ
เพราะมันทำให้เสียเวลาไปมากด้วย
เพราะงั้นกว่าที่พวกเราจะสามารถจัดการราชาก็อบลินและเข้าไปช่วยเหลือพวกเด็กสาวที่ถูกจับตัวไป
รวมถึงยึดพื้นที่ห้างเซย์ริเอนกลับมาได้ทั้งหมดนั้นก็เป็นเวลาหลังจากนั้นไปอีกเกือบ
2 สัปดาห์เลยล่ะค่ะ」
「ถึงจะรู้สึกไม่ดีกับพวกเด็กสาวในรังก็อบลินที่ต้องรอการช่วยเหลืออยู่นานก็เถอะ
แต่ผมคิดว่าการที่พวกเธอสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดให้จบลงไปได้โดยที่ไม่เกิดเรื่องขึ้นเลวร้ายขึ้นมาซ้ำอีกมันก็ดีมากแล้วล่ะนะ」
「เพราะทัตสึยะซามะได้ให้ความสำคัญกับพวกพ้องในตอนนั้นมากกว่าผู้คนที่ยังไม่รู้จัก
มันจึงถือว่าเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ต้องปล่อยให้พวกเด็กสาวคนอื่นรอคอยการช่วยเหลืออยู่นาน
แต่ว่ามันไม่ได้จบเพียงแค่เด็กสาวพวกนั้นน่ะสิคะ
เพราะการที่พวกเราเสียเวลาไปมากนั้น มันได้ส่งผลกระทบไปยังบุคคลภายนอกด้วย...ชั้นหมายถึงพวกผู้คนของโลกลอสตาเซียน่ะค่ะ」
「ผลกระทบกับผู้คนของโลกลอสตาเซียงั้นเหรอ ? หรือว่าจะเป็นพวกกองทัพมิโนทอร์....」
ถ้าหากนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์สำคัญในช่วงนั้นแล้วล่ะก็
สิ่งแรกที่ผมนึกขึ้นมาได้นั้นก็คือเรื่องที่พวกสายลับได้เรียกให้กองทัพมิโนทอร์เข้ามาโจมตีเมืองเวลล่า
ซึ่งเหตุการณ์ในตอนนั้นน่ะ พูดได้ว่าหากพวกเราไม่ได้เข้าไปช่วยเอาไว้แล้วล่ะก็
ลำพังแค่กองอัศวินของตระกูลโรเซ็นเบิร์กกับพวกนักผจญภัยในเขตพื้นที่แถบนั้นคงจะเอาชนะไม่ได้ง่ายๆแน่
「ไม่ใช่พวกมิโนทอร์หรอกค่ะ
ไม่สิ...คงต้องบอกว่าเหตุการณ์มิโนทอร์บุกเข้าโจมตีเมืองเวลล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นในโลกของชั้นน่ะค่ะ」
เหตุการณ์มิโนทอร์บุกเข้าโจมตีเมืองเวลล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นงั้นเหรอ ? ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายความว่า.....คนที่ทำให้พวกมิโนทอร์บุกเข้าโจมตีเมืองเวลล่าในโลกของผมนั้นเป็นเอริจัง
? ทำไมเธอถึง....ไม่สิ....ไอ้เรื่องนั้นน่ะ เอริจังคงจะต้องลงมือทำไปเพื่อความปลอดภัยของตัวผมและพวกเพื่อนๆแน่
「ถ้าไม่ใช่พวกมิโนทอร์ล่ะก็....หรือว่าจะเป็นพวกคนที่ถูกขับไล่ออกไป.....」
「ใช่แล้วล่ะค่ะ
เจ้าคนทรยศที่ถูกขับไล่ออกไปนั้นแม้จะไม่สามารถเทียบกับพวกเราได้
แต่คนพวกนั้นก็มีทั้งสกิลและพลังเวทที่สูงกว่าผู้คนทั่วไปในโลกนี้มาก คนทรยศพวกนั้นได้แยกย้ายกันออกไปหลายกลุ่ม
บางกลุ่มก็ได้ไปเข้าร่วมกับพวกโจรและบุกเข้าโจมตีหมู่บ้านและข่มขืนพวกเด็กสาว บางกลุ่มก็ไปอยู่กับพวกขุนนางชั่วและคอยขูดรีดรังแกผู้คน」
ไอ้เจ้าพวกนั้น!! ทั้งๆที่ถูกปล่อยตัวไปเพราะความผิดของพวกมันยังพอให้อภัยได้
แต่พวกมันก็ยังจะออกไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนในโลกนี้อีก
นี่ถ้าหากเอริจังไม่กำจัดพวกมันออกไปจากโลกของพวกเราล่ะก็
ผมนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆว่าพวกมันจะไปก่อเรื่องสร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับใครบ้าง
「แต่ที่แย่ที่สุดก็คือกลุ่มที่ได้ไปเข้าร่วมกับกองทัพของพวกกบฏ
เพราะนั่นทำให้กองทัพกบฏแข็งแกร่งขึ้นมาก ซึ่งนั่นก็ส่งผลทำให้กองทัพของตระกูลโรเซ็นเบิร์กได้พ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็ว
โรเดริกซามะซึ่งเป็นผู้บัญชาการได้ถูกพวกมันนำตัวออกมาประหารต่อหน้าพวกชาวเมืองเวลล่า
โรน่าซัง
คลอเดียซัง เซลฟีน่าซามะ อเดลซามะ อาเรียซามะ รวมถึงพวกเด็กสาวหน้าตาน่ารักในกองทัพของตระกูลโรเซ็นเบิร์กทุกคนล้วนถูกข่มขืนและถูกบังคับให้เป็นทาสความใคร่
แม้แต่โซเฟียซามะซึ่งเป็นเพียงแค่ชาวเมืองธรรมดาและไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ พวกมันก็ยังข่มขู่และบังคับให้เธอไปรับใช้พวกมันเช่นเดียวกัน」
โรน่าจัง
คลอเดียซัง เซลฟีน่าซัง อเดลจัง อาเรียจัง แม้แต่โซเฟียจังเองก็ด้วย...
「ในตอนที่พวกเราจัดการเรื่องความปลอดภัยภายในห้างเซย์ริเอนเสร็จเรียบร้อยและเดินทางไปถึงยังเมืองเวลล่านั้น
สภาพของผู้คนภายในเมืองเวลล่านั้นย่ำแย่เป็นอย่างมาก บางส่วนก็เริ่มอดอยากล้มตาย
บางส่วนก็บาดเจ็บจากการถูกทำร้าย พวกทหารที่เข้าปกครองเมืองเวลล่านั้นไม่คิดแม้แต่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชีวิตพวกเด็กๆด้วยซ้ำ
พวกทหารที่รวมกลุ่มเข้ากับพวกคนทรยศต่างก็พากันออกมารังแกพวกชาวเมืองเวลล่าด้วยความสนุกสนานไปวันๆและไม่คิดจะดูแลบริหารเมือง
แล้วก็เป็นเพราะเหตุนั้นเองที่ทำให้พวกเราตัดสินใจบุกเข้าโจมตีพวกมันและจัดการยึดเมืองเวลล่ามาเป็นของพวกเราเองน่ะค่ะ」
มันก็คงจะเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
เพราะหากเป็นตัวผมเองที่ได้ไปพบเจอกับเรื่องโหดร้ายแบบนั้นล่ะก็ ไม่ว่าจะยังไงผมก็คงจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแน่ๆ
และถึงแม้มันจะไม่ใช่ความผิดของพวกเราโดยตรง แต่เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องราวมันเลวร้ายถึงขนาดนั้นก็เป็นเพราะพวกเราได้ปล่อยให้ไอ้พวกคนทรยศพวกนั้นออกไปทำอะไรตามใจตัวเองด้วยล่ะนะ
ตกลงว่านี่คือเอริจัง(เลโลเซีย)ในอีกโลกนึงงั้นเหรอเนี่ย แล้วที่บอกว่าบักทัตเคยทิ้งเอริจังไปแปลว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่นอน และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบักทัตถึงหลงเอริจังนัก สายอ่อยนี่เอง
ตอบลบใช่แล้วครับ เรื่องราวมันยังไม่จบเพียงเท่านี้ หึหึ
ลบสรุปคือเป็นโลกคู่ขนานอย่างนั้นหรอคับ
ตอบลบรออ่านไปก่อนนะครับ อีกประมาณ 3-4 ตอนก็น่าจะรู้เรื่องแล้วว่าเป็นยังไง
ลบ